รัฐบาลกำลังทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อที่จะมาแก้โจทย์ปัญหาการตกงานหรือว่างงานที่เกิดขึ้น หลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ออกมาระบุถึงตัวเลขของการตกงานถึงเดือนมิถุนายน 2563 มีกว่า 7.5 แสนคน สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในอากาศย่ำแย่ และหลังจากนี้ไปก็ยังไม่เห็นแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เสนอโดยศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบศ.) มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เพื่อให้เกิดการจ้างงานในกลุ่มนิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่จำนวน 2.6 แสนราย เป็นเวลา 12 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
มาตรการดังกล่าวนี้ ทางรัฐบาลหวังที่จะให้ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วม หรือเป็นมาตรการจูงใจ ให้ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยใช้งบประมาณราว 23,476 ล้านบาท มาจ่ายเงินสมทบให้กับผู้ประกอบการไม่เกิน 50% ของค่าจ้าง ปริญญาตรีจ่ายเงินสมทบไม่เกิน 7,500 บาท, ปวส.จ่ายไม่เกิน 5,550 บาท, ปวช. ไม่เกิน 4,700 บาท
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลยังจะมีมาตรการจ้างงาน อื่นๆ ผ่านกระทรวงต่างๆ รวมประมาณ 1 ล้านคน ผ่านกระทรวงแรงงาน โดยจะมีการเปิดมหกรรมการจ้างงานหรือจัดเอ็กซ์โป สมัครงานขึ้นในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แรงงานตกงาน และกลับคืนสู่ท้องถิ่น จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต้องการมากที่สุด ยังคงตั้งความหวังจากรัฐบาล ที่จะให้เร่งผลักดันแผนงานหรือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินฯ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ออกมาโดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมามีโครงการได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปเพียง 11 โครงการ รวมวงเงิน 42,964 ล้านบาท ที่คาดว่าจะสามารถสร้างงานได้ในท้องถิ่นได้ราว 86,103 ตำแหน่ง และมีระยะเวลาการจ้างงาน 3-12 เดือน เท่านั้น
ในขณะที่โครงการเสนอขอใช้งบรอบแรก ที่ผ่านคณะกรรมการการกลั่นกรองไปราว 9.24 หมื่นล้านบาท ยังค้างการพิจารณาอีกมาก ซึ่งหากรัฐบาลให้ความสำคัญในจุดนี้ เร่งอนุมัติโครงการออกมาโดยเร็ว จากงบทั้งหมดนี้ ทางสศช.ประเมินไว้ว่า จะช่วยให้เกิดการจ้างงานได้กว่า 4.1 แสนอัตรา ที่จะมาช่วยประคองเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้หดตัวไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้
ดังนั้น คงต้องฝากถึงรัฐบาล ว่าจะเร่งสานต่อแผนหรือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่มีโครงการเสนอเข้ามาแล้ว ว่าจะเดินต่ออย่างไร เพื่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น