หลัง“กันยายน”
เห็นโฉม
“ขุนคลังใหม่”
+++ โบกมือลา “รัฐบาลลุงตู่2/2” ไปแล้ว สำหรับ ปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง หลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา และเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ปิดฉากการเป็นรัฐมนตรีคลังเพียง 27 วัน ...ว่ากันว่า ปรีดี เคยมีปัญหาเส้นเลือดในสมองตีบเล็กๆ ก่อนลาออกเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา อาการดังกล่าวเริ่มกลับมา โดยมีอาการชาที่ขา จึงกังวลว่าโรคที่เคยเป็นจะกลับมาอีก จึงขอนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง
+++ อย่างไรก็ตาม หลายคนคงไม่เชื่อว่า ปรีดี ดาวฉาย จะลาออกด้วยเหตุผล “ป่วย” จริง แต่คงจะมีอะไรมากกว่านั้น ถึงทำให้ “ไม่ทน” อยู่ต่อไป ...ย้อนไปในช่วงเข้ามาทำหน้าที่ รมว.คลัง ก็เคยมีข่าวความขัดแย้งกับ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต โดย ปรีดี ต้องการเสนอชื่อ ลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แต่ สันติ ต้องการผลักดัน ประภาศ คงเอียด ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยการประชุม ครม. ครั้งนั้น เมื่อมีการขานชื่อ “อธิบดีกรมสรรพสามิต” ไม่ตรงกับเอกสารที่เสนอเข้า ครม. ทำให้นายกฯ ได้สั่งในที่ประชุม ครม. ว่าให้กระทรวงการคลังกลับไปทำเรื่องเสนอ ครม.ใหม่อีกครั้ง ทำให้ ปรีดี รู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายกฯ เท่าที่ควร
+++ กระทั้งการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรีดี เสนอรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการ 4 ตำแหน่ง ตามเดิม ได้แก่ 1.นายจำเริญ โพธิยอด ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง 2.นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นอธิบดีกรมศุลกากร 3.นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สศค. เป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต 4.นางวรนุช ภู่อิ่ม ที่ปรึกษาด้านการบริหารเหรียญกษาปณ์และทรัพย์สินมีค่า กรมธนารักษ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และที่ประชุม ครม.ก็ได้ไฟเขียวตามข้อเสนอของ ปรีดี ทุกตำแหน่ง
+++ นอกจากนั้น ปรีดี ประเมินว่าไม่สามารถทำงานกับ “นักการเมือง”ได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับกระทรวงมหาดไทยในการนำข้อเสนอเรื่องต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ “มหาดไทย” เสนอให้ ครม. พิจารณาแล้ว แต่ ปรีดี ขอนำเรื่องดังกล่าวกลับไปศึกษาก่อน
+++ ขณะเดียวกัน ในด้านการทำงาน ปรีดี ต้องการเข้ามาปรับเปลี่ยนการทำงานภายในกระทรวงการคลังให้โปร่งใสมากขึ้น ทั้งเรื่องการรื้อกระบวนจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่างๆ การเสนอปรับเปลี่ยนแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ขณะที่การดำเนินการดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้อย่างตั้งใจ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการลาออก
+++ ที่สำคัญมีเรื่องที่ “ขาใหญ่ในกระทรวงคลัง” ไปบีบให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารของรัฐ เขียน “ใบลาออก” ทิ้งไว้ให้ เพื่อต้องการนำ “คนของตัวเอง” เข้าไปเฉียบแทน อย่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหาร ธ.ก.ส.หลายคนได้รับแจ้งจากฝ่ายบริหารของธนาคารให้เขียนใบลาออกจากตำแหน่งโดยไม่ลงวันที่ เพื่อนำเสนอ “รัฐมนตรี” ให้มีการปรับเปลี่ยนกรรมการ ทำให้กรรมการ ธ.ก.ส.ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ 6 ราย ได้เขียนใบลาออก และยื่นให้ผู้จัดการ ธ.ก.ส. คือ อภิรมย์ สุขประเสริฐ ไปเรียบร้อย ประกอบด้วย 1.นางสาวรืนวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 2.นายสุวิชญ โรจนวานิช อดีตผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ 3. นางอมรา กลับประทุม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ช่วยบริหารสายงาน สายงานเทคโนโลยี บมจ.ธนาคารกรุงไทย 4.นางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย 5.นายจรูญเดช เจนจรัสสกุล กรรมการ บริษัทสยามพัฒนาฟิล์ม จำกัด, ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 6.นางปานทิพย์ ศรีพิมล อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ยกเว้น พล.ท.กานต์ กลัมพสุต ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ได้เขียนใบลาออก
+++ อย่างไรก็ตาม หลังจาก ปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง (ในขณะนั้น) ในฐานะประธานบอร์ด ธ.ก.ส. เข้าร่วมประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง “กรรมการ” แต่อย่างใด และแจ้งว่าจะต้องเพิ่มกรรมการอีก 1 คน คือ ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีม.ธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา รมว.คลัง ให้กับ ปรีดี ทำให้ “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” ที่เขียนใบลาออกไว้ มองหน้ากันเหลอหลา และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อ “บอร์ดธ.ก.ส.”แต่อย่างใด ขณะเดียวกันกรรมการบางคนบอกว่า “ผมไม่ลาออกเพราะผมป็นกรรมการในโควต้าของพรรค” ...นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งอาจทำให้ ปรีดี ถอดใจลาออก เพราะเจอกับฤทธิ์ของ “นักการเมือง” ประเภท เสือ สิงห์ พวกเขี้ยวลากดินเข้าไป ขืนอยู่ต่อไปมีหวังสุขภาพทรุดหนักแน่ๆ
+++ คนเก่ง คนดี บ้านเรามีมาก บางคนอยากเสียสละเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง แต่พอเห็น “สภาพของคนก่อนหน้า” ไม่รู้ว่า “นายกฯลุงตู่” จะหาใครเข้ามารับบท “ขุนคลัง” คนใหม่ ได้ง่ายๆ หรือไม่ เห็นว่าเตรียมทาบ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการในคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้เข้ามารับตำแหน่ง หลังจากก่อนหน้านี้เคย “ทาบทาม” มาแล้วครั้งหนึ่ง รอดูหลัง ดร.วิรไท พ้นวาระการเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติในเดือนกันยายนนี้ ว่าจะ “เซเยส” หรือไม่ ...แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลังจากเดือน “กันยายน” นั่นแหละเราถึงจะได้เห็นโฉมหน้า “ขุนคลัง” คนใหม่