อาจารย์ใหญ่ชักใยขสมก. “ศักดิ์สยาม” ต้องกล้าฟัน

          โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง พรานฯ นำเสนอเรื่องราวของแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใน รัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินรวม 123,824 ล้านบาท หรือขาดทุนเดือนละ 360 ล้านบาท เฉพาะค่าดอกเบี้ยเดือนละ 233 ล้านบาท 

          จนบรรดา นกกระจิบ นกกระจาบ พิราบน้อยส่งสัญญาณออกมาว่า พอถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 หนี้สินจะเพิ่มขึ้นเป็น 127,786 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้จากการออกพันธบัตร 64,339 ล้านบาท หนี้เงินกู้ อีก 63,446 ล้านบาท

          ดังนั้น คณะกรรมการ และฝ่ายบริหารของขสมก.จะมีการจ้างเอกชนร่วมเดินรถ 1,500 คัน เพื่อวิ่งในเส้นทางเดินรถของเอกชน 54 เส้นทาง ด้วยความสมัครใจ โดยจ่ายค่าจ้างตามกิโลเมตรที่วิ่งให้บริการจริง ในอัตราที่ ขสมก.กำหนดไว้เบื้องต้น (ราคากลาง) ก่อนมีการประกวดราคาที่ 34.27 บาท /กิโลเมตร โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาของ TDRI ว่า เอกชนจะต้องนำรถโดยสารออกวิ่ง เฉลี่ย 240 กิโลเมตร / คัน / วัน 

          แต่เสียงที่เล็ดรอดออกมาจากคนข้างในราคานั้นไซร้ มีอาจารย์ใหญ่กำกับ

          พรานฯนำเสนอข่าวไปว่า เป็นราคาที่แพงเกินไป เพราะมีเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มรถร่วมเดิมเสนอไปว่า สามารถรับจ้างวิ่งตามเงื่อนไขได้ในอัตราค่าบริการแค่ 30 บาท/กิโลเมตร/วัน

          ราคาที่ต่างกันนั้นจะกินพุงกะทิของ ขสมก.ให้แบกภาระค่าใช้จ่าย 4.27 บาท/กิโลเมตร/วัน/คัน

          ไม่มากดอกขอรับพี่น้องไทย รายจ่ายเพิ่มเป็นเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านครับตกวันละ 1,537,200 บาท เดือนละ 46,116,000 บาท ปีละไม่มากไม่มายเช่นกันแค่ 533,392,000 บาท แต่ถ้าระยะเวลา 7-10 ปี อะแฮ่ม....จะมากถึง 3,873- 5,333 ล้านบาท เชียวแหละ

          คุณสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการขสมก.ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า 1. ตามแผนฟื้นฟูกิจการจะมีการจ้างเอกชนร่วมเดินรถ 1,500 คัน จริง เพื่อนำมาวิ่งในเส้นทางเดินรถของเอกชน ที่ได้รับใบอนุญาตเดินรถจากกรมการขนส่งทางบกราว 54 เส้นทางด้วยความสมัครใจ โดย ขสมก.จะจ่ายค่าจ้างตามกิโลเมตรที่วิ่งให้บริการจริง 

          2. ราคากลางที่ 34.27 บาท/กิโลเมตรนั้น ขสมก.ได้อ้างอิงข้อมูลราคากลาง จากผลการศึกษาโครงสร้างต้นทุนการประกอบการของผู้ประกอบการ รถเอกชนร่วมบริการปรับอากาศ ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (TDRI) ซึ่งตัวเลขนี้เป็นเพียงราคากลาง สำหรับใช้ในการประกวดราคา (e-bidding) เท่านั้น  ผู้ประกอบการรถเอกชน จะต้องเสนออัตราค่าจ้างวิ่งในราคาต่ำสุด (ต่ำกว่าราคากลาง) เพื่อเป็นผู้ชนะการประกวดราคา และได้รับสิทธิร่วมเดินรถกับ ขสมก.  และในการประชุมผู้ประกอบการรถเอกชน เมื่อวันที่ 7  สิงหาคม 2563 ไม่มีผู้ประกอบการรถเอกชนรายใด เสนออัตราค่าจ้างวิ่ง ในราคา 30 บาท/กิโลเมตร ตามที่พรานฯ ได้นำเสนอแม้แต่น้อย

          3. รถโดยสารที่ ขสมก.จะให้เอกชนร่วมเดินรถ 1,500 คัน ต้องเป็นรถโดยสารแบบชานต่ำ EV, NGV หรือรถที่ใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่มีการติดตั้งระบบ E-Ticket, GPS, WiFi มาพร้อมกับตัวรถ และจะต้องเป็นรถใหม่ หรือรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี นับตั้งแต่วันจดทะเบียน เท่านั้น ส่วนรถโดยสาร EV ที่ ขสมก.จะเช่าตามกิโลเมตรที่วิ่งให้บริการจริงจากผู้ประกอบการ เพื่อนำมาวิ่งในเส้นทางเดินรถของขสมก.อีก 108 เส้นทาง มีทั้งสิ้น 2,511 คัน

          4. รถที่จะจ้างวิ่งนั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ขสมก.ต้องจ้างผู้ประกอบการรถเอกชน ที่ได้รับใบอนุญาตเดินรถจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น และเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถโดยสารของ ขสมก.และรถโดยสารเอกชนได้อย่างไร้รอยต่อ จะมีการจัดเก็บค่าโดยสารในระบบเดียวกัน และเป็นโครงข่ายเดียวกัน 

          ส่วนผู้ประกอบการรถเอกชน ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม 1) กลุ่มที่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพื่อให้เหลือผู้ประกอบการเพียงรายเดียว ในการยื่นขอรับใบอนุญาต

          2) กลุ่มที่มีหนี้สินค้างชำระจำนวนมาก และไม่มาดำเนินการรับสภาพหนี้......ขสมก.ชี้แจงมาตามนี้ครับ

          แปลว่า ในการประชุมรอบนั้น ไม่มีผู้ประกอบการรายใดเสนอราคา 30 บาท เพราะมีการกำหนดราคากลาง 34.27 บาท/กิโลเมตร ใช่มั้ย! ใครเสนอ 30 บาท ก็บ้าละขอรับในเมื่อราคากลางตั้งต้นมันแพงกว่าที่ฉันจะเสนอราคาสู้..555

          พรานฯไปแอบเห็นบันทึกการประชุมกับบรรดารถร่วม รถที่ได้รับบอนุญาตการเดินรถ ลงวันที่ 15 มกราคม 2563 มีการกำหนดอัตรากันว่าราคา 30 บาท/กิโลเมตร เอกชนก็รับได้และพอมีกำไรมิใช่รึขอรับ...

          และถ้าใช้อัตรา 34.27 บาท/กิโลเมตร แม้ขสมก.จะไม่มีต้นทุนค่าเช่ารถ ค่าคน ค่าซ่อมบำรุง แต่ถามจริงๆ เถอะ อัตรา 34.27 บาท/กิโลเมตร เอาระยะยาทาง 240 กิโลเมตรคูณเข้าไปจะตกวันละ 8,224.80 บาท ใช่หรือไม่ 

          ​​​​​​​อัตรานี้เป็นราคาจ้างวิ่งที่สูงกว่ารายได้ปัจจุบันของรถขสมก.ที่ได้รับอยู่ใช่หรือไม่

          พรานฯได้ยินมาว่าถ้ารถแดงต้นทุนอยู่ที่ 7,082 บาท/ คัน/วัน รถปรับอากาศ NGV ล็อต 489 คัน  9,921 บาท/คัน/วันใช่หรือไม่

          การจ้างรถเอกชนมาวิ่งแล้วแพงกว่าที่วิ่งเองนั้นคุ้มค่าหรือไม่...อันนี้คือคำถาม!

          ประการต่อมาพรานฯ ทราบว่า มีชมชรมรถร่วม ขสมก.ไปร้องต่อนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้วมิใช่หรือว่า ขสมก.จ้างวิ่งแพง!

          นี่ไม่นับการจะเช่ารถเอ็นจีวี รถ EV 2,511 คัน ว่ากันว่า จะมีราคาแสนแพงอีก เห็นเขาไปดักคอให้นายกฯลุงตู่พิจารณาอยู่มิใช่รึนายท่าน

          พรานฯ ว่า นโยบายทั่น “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ที่กำลังขับเคลื่อนเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเก็บค่าโดยสารที่ 30 บาท/คน/วัน ขึ้นได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ปรับเส้นทางเดินรถจาก 269 เส้นทาง เหลือ 162 เส้นทาง ให้ขสมก. 108 เส้นทาง รถร่วมเอกชน 54 เส้นทาง ห้ามวิ่งทับซ้อน เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด, กำหนดให้ใช้รถ NGV และรถ EV ที่ประกอบในประเทศ กำหนดให้ใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตได้ภายในประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 50%  กำลังมีคนไปคัดท้ายจนบิดเบี้ยว

          เขาพูดกันใน ขสมก.ว่าแผนฟื้นฟู แผนจ้างเอกชนมาวิ่งรถและอยากให้ทำรายเดียวใน 1 เส้นทาง รวมถึงการเช่ารถเมล์ NGV รถไฟฟ้า EV ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สึกหรอน้อย ค่าบำรุงรักษาต่ำนั้น มี “อาจารย์ใหญ่” คนหนึ่งคอยสั่งการ กำกับการทำงานรัฐมนตรีโอ๋-ศักดิ์สยาม เคยรับรู้หรือไม่...พรานฯว่า ท่านไม่น่าจะรู้

          นโยบายรัฐมนตรีโอ๋พยายามเข็นแผนฟื้นฟูออกมาเพื่อขจัดปัญหาขสมก. ผ่านกระบวนการจ้างเอชนวิ่งรถ เช่ารถ เพราะต้องการขจัดปัญหาในขสมก.ไม่ให้มีรถเป็นของตัวเอง ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมรถเอง เพื่อตัดวงจรทุจริตเหมาซ่อมที่ซุกซ่อนในองค์กรนี้มายาวนานจนขาดทุนเป็นแสนล้านบาท...จะเข้าสู่โหมดการคุ้มทุนไม่ได้ ถ้าปล่อยให้อาจารย์ใหญ่ที่ใครๆ พากันเกรงขามมาบัญชาการแผนฟื้นฟู

          เพราะเป้าหมายการฟื้นฟู ขสมก. กับวิธีการนั้น สวนทางในเรื่องรายรับ รายทาง กันชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.ย.นี้!! จ่อชงครม.เคาะ "แผนฟื้นฟู ขสมก."
ขสมก.ลุยแผนฟื้นฟู จ้างเอกชนเดินรถ 54 เส้นทาง
ครม.อนุมัติ ขสมก.กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 7,895 ล้านบาท