“เงินเย็น”
โอกาสเก็บหุ้นPTT
>> ตลาดหุ้นสหรัฐ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 7.6% ดัชนีหุ้น S&P500 ขึ้น 7% และ ดัชนีหุ้น Nasdaq เพิ่มขึ้น 9% โดยมีเรื่องความคืบหน้าการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และแนวทางจัดการเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฟด มีสัญญาณตรึงดอกเบี้ยให้ตํ่า แบบนี้ไปอีกหลายปี
>> ส่วนตลาดหุ้นไทย กลับด้านกับตลาดหุ้นสหรัฐ ต้นเดือนส.ค. ดัชนีอยู่ที่ 1,328.53 จุด และปลายเดือน SET ปิด 1,310.66 จุด ร่วง 17.84 จุด หรือ - 1.34% สาเหตุจาก ผลดำเนินงานไตรมาส 2 /63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ตํ่ากว่าคาดหมาย ก็มาจากพิษโควิด นั่นแหละ และตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2 ติดลบ 12.2 % เป็นปัจจัยหลัก และยังมีปัจจัยลบการเมือง เรื่องการชุมนุมประท้วง เจ๊เมาธ์ คิดว่า ไม่น่าจะเป็นปัญหานัก เพราะทุกฝ่ายก็พยายามหาทางออก ลดความขัดแย้งและความรุนแรง เจ้เมาธ์ว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ให้หลุดออกจากหล่มของโรคโควิด ที่เป็นปัญหาหนักนั่นเอง
>> น้องแบม (BAM) หรือ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ ไตรมาส 2 กำไรออกมาแค่เพียง 136 ล้านบาท ลดลง 81% เทียบไตรมาสแรกปีนี้ และลดลง 82% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ฉุดราคาหุ้นร่วงต่อเนื่อง แต่กลับมีสำนักวิเคราะห์หลายราย แนะนำให้ “ซื้อ” หุ้น BAM โดยบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคา 29.50 บาท , ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ให้เป้าหมาย 28.50 บาท/หุ้น ทั้ง 2 ค่าย มองตรงกันว่า BAM จะฟื้นตัวได้ ครึ่งหลังปี 63
>> ส่วนตัวเจ๊เมาธ์เอง มองว่า BAM ฟื้นตัวได้ไม่ยากนะคะ ตอนนี้มีปัญหาแค่ BAM ไม่ได้ขายสินทรัพย์ออกมา เพื่อทำเงิน แต่ BAM เตรียมพร้อมอยู่ในช่วงเก็บของราคาถูก และรอเวลาขายเท่านั้นเองค่ะ ถ้าใครมีเงินเย็น น่าจะหาจังหวะสะสมนะคะ เจ๊บอกเลยว่า ของเค้าดีจริงๆ ค่ะ
>> ปูนใหญ่ SCC ดันราคาออกนอกหน้า หลังประกาศให้สิทธิ์จองซื้อหุ้น บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) แก่ผู้ถือหุ้นของ SCC อัตราส่วนหุ้น SCC 7.095 หุ้น ต่อ 1 หุ้น SCGP ...หุ้น SCGP จะเป็นหุ้นอีกตัว ที่นักลงทุนจะให้ความสนใจ จากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจ Packaging มีอัตราการเติบโตโดดเด่นที่สุด ในบรรดา 3 ธุรกิจหลักของ SCC โดยครึ่งแรกปี 63 ธุรกิจ Packaging ทำกำไรในสัดส่วนที่สูงถึง 22% ของกำไรรวม SCC…หุ้นตัวนี้เรียกความคึกคักกลับมาให้หุ้น SCC เพราะช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCC มาไกลจนสุดทาง ไปต่อได้อีกยาก…การมีบริษัทลูกดีๆ เข้าตลาด ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ที่เจ๊เมาธ์มองว่า เป็นเรื่องถูกที่และถูกเวลา เพราะขณะที่หุ้นแม่ไปต่อไม่ได้...การดันผู้เล่นตัวใหม่เข้ามาแทนจึงเป็นเกมส์ ที่จะดึงความสนใจของนักลงทุนไปที่หุ้นลูก เพื่อให้มาแทนที่หุ้นแม่ที่เต็มมูลค่าไปแล้วนั้นเองค่ะ
>> ราคาหุ้น CPALL ลงไม่หยุด ตั้งแต่ได้ข่าวสัญญาแฟรนไชส์หลัก ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว หลายคนมองว่า ช่วงเริ่มต้น CPALL อาจจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล ขณะที่กำไร ไตรมาส 2/63 เท่ากับ 2,887.03 ล้านบาท ลดลง 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีประเด็นการล็อกดาวน์ จาก COVID-19 เป็นสาเหตุสำคัญ ในมุมมองของเจ๊เมาธ์...มองว่าอนาคต CPALL ยังไปได้ เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ส่วนถ้าหากระยะสั้น CPALL ยังไม่น่าสนใจ สัญญาณเทคนิค ชี้ชัด ราคาหุ้นพักตัวอีกระยะ หรือ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ผลการดำเนินงานกลับมาฟื้นตัวได้...คำแนะนำของเจ๊คือ ถ้ามี ไม่ต้องขายทิ้ง อาจหาจังหวะเก็บเพิ่ม เพื่อถัวเฉลี่ยราคา หรือถ้ายังไม่มีก็หาจังหวะเก็บของถูกนะคะ
>> ไปที่หุ้นใหญ่ PTT กันบ้าง หลังจากไตรมาส 1-2 ปีนี้ ผลการดำเนินงานบริษัทลูก PTTEP PTTGC TOP และ IRPC ปรับลงอย่างรุนแรง...มีทั้งกำไรน้อยกว่าที่คาด, หรือขาดทุนจนทำให้รายได้ที่ส่งให้บริษัทแม่อย่าง PTT ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ที่พอฟื้นความเชื่อมั่นของ PTT ก็มีเพียงการดันบริษัทลูก PTTOR เข้าตลาดเท่านั้น แต่ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ก็ทำให้แผนการเข้าตลาดของ PTTOR ชะลอออกไป ดังนั้นสถานะของ PTT ก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้านักลงทุนจะใช้โอกาสนี้ในการเก็บหุ้น PTT น่าจะเป็นจังหวะที่ดีนะคะ เอาเป็นว่า ต้องทั้งเงินเย็นและใจเย็นก็พอค่ะ ...และยังต้องลุ้นว่า PTT ยังมีปันผลระหว่างกาลปี 63 ที่จะจ่าย ก.ย.-ต.ค. นี้หรือมไม่ น่าคิดนะค่ะ เพราะลูก ๆ รวมทั้งแม่ ยํ่าแย่ตามๆ กัน