การรุกตลาดเมียนมาหลัง COVID19

09 ส.ค. 2563 | 22:00 น.

คอลัมน์ เมียงมองเมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

 

         ในช่วงนี้ทุกประเทศได้เกิดวิกฤติ COVID19 กันถ้วนหน้า ซึ่งก็มีคำถามว่าระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่ได้รับผลกระทบนั้น ใครหนักหนากว่ากัน ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือประเทศเล็ก ล้วนได้รับผลกระทบกันหมดทุกประเทศละครับ แต่โดยทั่วไปประเทศใหญ่จะหนักกว่าประเทศเล็กเยอะกว่าแน่นอน เพราะว่าเขามีฐานทางเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าประเทศเล็ก อีกทั้งแค่ GDP โดนติดลบไปสักสองสามจุดก็หนักหนาสาหัสแล้ว

         ในขณะที่ประเทศเล็กๆ โดนติดลบไปสองสามจุด ก็ยังพอทำเนาครับ ซึ่งในช่วงนี้คิดว่าเป็นแค่ลิเกกำลังออกแขกเท่านั้น แต่สิ่งที่จะเลวร้ายกว่านั้น คือหลังจากเจ้าวายร้าย COVID19 ผ่านพ้นไปนี่แหละ คราวนี้ลิเกจะเริ่มเล่นตามบทเนื้อเรื่องแล้ว ผมเชื่อว่าผลกระทบที่ตามมา จะต้องยาวนานกว่าช่วง COVID19 ระบาดเพิ่มอีกสองเท่า จึงจะสามารถกลับคืนสู่ปกติได้แน่ครับ
       
         ในขณะที่ประเทศไทยเราละ หลังจากที่ผ่านพ้นเจ้าวายร้ายนี้ไปได้แล้ว จะต้องเตรียมตัวกันอย่างไร เพราะเศรษฐกิจของประเทศเรานั้น เราเพียงแค่พึ่งพาตลาดภายในประเทศเราก็เกินกำลังจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจับจ่ายใช้สอยของเรา การลงทุนของเรา ภาคการค้าและบริการทั้งในและต่างประเทศของเรา ล้วนแต่ติดลบระเบิดเถิดเทิงกันเรียบร้อยหมดแล้ว ครั้นจะหวังพึ่งพาการส่งออก ที่ผ่านๆมาเราก็พึ่งพาตลาดยุโรป อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่บัดนี้คู่ค้าทั้งสองก็อ่วมอรทัยด้วยกันทั้งคู่ ตลาดอื่นๆก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันกันไปหมดเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มองเมียนมาดึงนักลงทุนต่างชาติ
อิทธิพลทางการค้าของจีนต่อประเทศเมียนมา
เมียนมาเตรียมออกกฎหมายการลงทุนใหม่
ข้อควรระวังทางด้านกฎหมายของผู้ประกอบการที่ลงทุนในเมียนมา

         ผมจึงคิดว่าตลาดที่ยังหลงเหลืออยู่ที่เราพอจะพึ่งพิงได้ ก็จะมีเพียงตลาดเพื่อนบ้าน CLMV นี่แหละครับ ที่พอจะเห็นโอกาสกันบ้าง เพราะมีทั้งการค้าชายแดนและการค้าทั่วไปอย่างเต็มรูปแบบ ผมได้มีโอกาสได้เรียนพบท่านเลขานุการรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ท่านทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย เราได้ปรึกษาหารือกันว่า เราจะทำอย่างไรที่จะช่วยกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ได้ไปรุกตลาดเมียนมากันอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้ข้อสรุปว่า เราควรจะช่วยกันจัดสัมมนาขึ้นสักครั้งหนึ่ง และจัดทริปการเดินทางไปนครย่างกุ้ง เพื่อเปิดตลาดกัน โดยการนี้ เราได้ท่านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ฯพณฯท่านวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล จะเป็นผู้ถือธงนำหน้า นำพาพวกเราไปกัน เพื่อเปิดตลาดนี้ให้ได้ ผมเองก็เข้าไปขอให้ทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า สมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย เข้ามาช่วยในการดำเนินการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จครับ
      
         ดังนั้น เราจึงได้ร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่กล่าวมาแล้ว จัดงานสัมมนาเรื่อง “ทิศทางและแนวโน้มตลาดเมียนมา....จากเหตุการณ์ COVID19” ขึ้นที่ห้อง มโนปกรณ์นิติธาดา ชั้น 12 กระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 13:00 น.-17:00 น. โดยจะมีท่านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ฯพณฯท่านวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล มาเป็นประธานในพิธี และท่านประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี มาเป็นเกียรติกล่าวเปิดงาน ในงานจะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องเมียนมาหลายท่าน มาบรรยายถึงการรุกตลาดเมียนมาหลังยุค COVID19 ด้วยการตลาดที่ต้องใช้ระบบ AI เข้ามามีส่วนช่วยผลักดัน

         โดยได้เรียนเชิญ ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร จากบริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยท่านจะมาพูดเรื่อง “แนวโน้มผู้บริโภคตลาด Offline/Online ในเมียนมาจากเหตุการณ์ COVID 19”  ในส่วนการเสวนานั้นจะมีผมในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และผู้แทนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และคุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ จากบริษัท ลีโอ โลจีสติก จำกัด มาร่วมเสวนาเรื่อง “ช่องทางการทำธุรกิจในเมียนมาจะไปอย่างไรกับสถานการณ์ COVID 19” ซึ่งงานนี้ผู้ประกอบการสามารถสมัครเข้าร่วมงานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆตลอดทั้งงาน 

         การสัมมนาที่ผ่านๆมาในช่วงนี้ จะเป็นการสัมมนาออนไลน์กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต้องยอมรับว่าการตอบรับจะไม่เหมือนกับการสัมมนาทั่วไป ท่านเลขานุการรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ ท่านทรงศักดิ์ ก็ได้มีดำริว่า หากเราดำเนินการโดยใช้ Social Distancing ด้วยความระมัดระวังและเข้มงวด เราน่าจะได้ผลที่ดีกว่า แต่ข้อเสียคือ เราจะรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาได้น้อยลง เพราะต้องเว้นระยะห่าง ดังนั้นท่านผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมสัมมนา จะต้องรีบสมัครเข้ามานะครับ ที่นั่งมีจำนวนจำกัดจริงๆ

         ท่านสมัครมาได้ที่สภาธุรกิจไทย-เมียนมา คุณนก พัชรินทร์ 02-3451151 คุณมิ้น สิริกานต์ 02-3451131 เราเปิดรับสมัครตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไปครับ มาก่อนได้ก่อนนะครับ