เก็บตก DNA กับ ยอดมาทาดอร์ เอล คอร์โดเบส มานูเอล
ในทศวรรษ 1990s มาธาดอร์ ผู้ล่อวัวกระทิงหงุดหงิดให้พุ่งเข้าขวิดผ้าแดงแกว่งไกว ได้รับความนิยมชมชื่น ในฐานะว่า หน้าตาดีแล้วยังมีวิชา อยู่ท่ามกลางอันตรายนานา กลับสามารถรอดคมเขาคมเขี้ยวได้หวิดหวิวฉิวเฉียด
ยอดมาธาดอร์ ผู้องอาจสามารถ (และร่ำรวยจากการแทงวัว) ตั้งแต่บัดนั้นมาจนบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดทำลายชื่อเสียงกิตติคุณลงได้ ย่อมไม่พ้น เอล คอร์โดเบส มานูเอล เบนิเตส แห่งคอร์โดบา
ยามเล็กๆเฝ้าขลุกอยู่กับเกมส์แหย่กระทิง ฝึกฝนและหาวิธีให้มีลีลาน่าหวาดเสียว จนประสบความสำเร็จและมั่งคั่งด้วยทรัพย์ศฤงคารธนสารสมบัติ อย่างไม่เคยมีใครทำได้ในประวัติศาสตร์ เอล คอร์โดเบส สร้างตัวเองมาลำพังหนังสือหนังหาก็ไม่ได้เรียนแต่มีผู้ชมติดตามล้นหลามมากมาย บินไปล่อกระทิงในอเมริกาด้วยซ้ำไปนั้น
วันหนึ่ง ผู้จัดการธนาคารมาบริการถึงบ้านถามว่า “บัญชีที่ท่านจะเปิดกับเรานี้ คิดอยากจะฝากเงินเปนจำนวนสักเท่าใดขอรับ” เอล คอร์โดเบส งุนงงนิดๆ เเล้วตอบว่า “ท่านอยากได้สักกี่กิโลเล่าครับ เดี๋ยวผมไปชั่งดูให้” ขนาดนั้น!
หลังมานี้ยังมีเยาวชนนักล่อวัวกระทิงรูปงามคนหนึ่ง นามกรว่า มานูเอล ดิแอซ มีฝีมือเก่งกาจสามารถราวกับมีบรรพชนเปนคนล่อกระทิง ดังนั้นล่วงเข้าวัยกลางคน ความสงสัยในที่มีของตนนั้นชักจะมาก ยื่นฟ้องต่อศาลให้พิสูจน์ดีเอ็นเอ สักทีว่าตัวเรานี้ใช่ลูกพ่อเอล คอร์โดเบส มานูเอล เบนิเตส แห่งคอร์โดบา ทำไมมันตะหงิดๆว่าคนๆนี้เหมือนเปนพ่อบังเกิดเกล้า
หะแรก เอล คอร์โดเบส มานูเอล เบนิเตส แห่งคอร์โดบา ยอดฝีมือก็ปฏิเสธแข็งขันพัลวัน ว่ามีลูกแล้ว 6-7 คนไม่มีใครสักคนหน้าตาเหมือน มานูเอล แต่ทานอำนาจวิทยาศาสตร์ไม่ไหวเมื่อผลออกมาว่ารหัสพันธุกรรมตรงกัน 99%
มานูเอล ดิแอซจึงมีพ่อเปนตัวเปนตนกะเขาเมื่อคราวอายุ 47 ขวบ และมีสิทธิใช้ฉายา เอล คอร์โดเบส ไอ้หนุ่มคอร์โดบา ตามพ่อเปนชื่อทางการค้าได้
ในขณะที่อีกฟากหนึ่งจากเบลเยียม สตรีวัย เกือบจะหกสิบ ละทิ้งทุกอย่างทั้งบ้านทั้งครอบครัว (ผัวสามี) มาเช่าที่อยู่ใกล้สำนักงานทนายความมีชื่อ ณ แมดดริด
ตั้งเรื่องฟ้องกษัตริย์ ฮวน ฆาลอส แห่งสเปญ ต่อศาล ให้ทรงตรวจ ดีเอ็นเอ เทียบแก่เธอ และน้องชาย เพื่อพิสูจน์ความเปนพ่อ!
เธอผู้นี้ อินกริด แซเทียว อ้างว่าเธอกำเนิดขึ้นด้วยสัมพันธ์ของมารดากับกษัตริย์แต่ครั้งยังทรงเปนที่เจ้าชายรัชทายาทเยาว์ชันษา
ความพยายามของสองโจทย์นี้ แต่เดิมทีศาลสเปญให้ยกคำฟ้องร้องเปนคดีอันนี้เสียโดยมิพักจะต้องพิจารณาเนื้อหาสำนวนอรรถคดีให้มากความ เพราะสเปญมีกฎหมายห้ามผู้ใดฟ้องร้องกษัตริย์
อินกริดก็ไม่ละความพยายาม อดทนเฝ้ารอจนพระราชาฮวน ฆาลอส เสด็จลงจากราชบัลลังก์สละราชสมบัติแต่มกุฏราชกุมารอินฟันเต้ ฟิลิปเป้
คราวนี้ก็ยื่นฟ้องใหม่ให้รัดกุมกว่าเดิม ก็ไปติดอยู่ที่กฎหมายมาตราต่อไป ห้ามผู้ใดฟ้องร้องอดีตกษัตริย์ เว้นแต่สภาผู้แทนราษฎรจะอนุญาตเปนตราภูมิคุ้มกันชั้นที่สอง
ความพยายามอันไม่ลดละจะนำชัยชนะมาหรือไม่ ก็น่าจะได้ติดตามกันต่อไปเพราะบัดนี้คดีมาถึงศาลสูงเเล้ว ศาลยกคำฟ้องของตัวน้องชายอินกริดไปคล้ายกันว่าไม่มีมูลพอ ในขณะที่คดีของอินกริดเอง ศาลไม่ยก และมีแนวโน้มจะเรียกดูรายละเอียดในสำนวนต่อไป
ยื่นมาสอง ฟาล์วไปหนึ่ง ก็เท่ากับของยังเหลืออีกครึ่งให้เกมส์นี้ได้ลุ้นต่อบ้าง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,597 วันที่ 2 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563