ลีลา “พยัคฆ์บูรพา” กระบวนท่าการเมือง 3 ป.

28 ก.ค. 2563 | 11:00 น.

ลีลา “พยัคฆ์บูรพา” กระบวนท่าการเมือง 3 ป. : คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3596 ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค.63 โดย... ประพันธุ์ คูณมี

ลีลา “พยัคฆ์บูรพา”

กระบวนท่าการเมือง 3 ป.
 

     การเข้าควบคุมอำนาจการปกครอง เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ภายใต้การนำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งหากจะพิจารณาให้ถึงที่สุดแล้ว แกนนำสำคัญของการคิดและวางแผนเพื่อการดังกล่าว ก็คือ “พี่น้อง 3 ป.” อันได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แห่งบูรพาพยัคฆ์นั่นเอง ที่เป็นแม่ทัพตัวจริง หลังเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านพ้นไป
 

     มีคำถามในแวดวงการเมืองมาโดยตลอดว่า คสช.จะไปรอดหรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ลุงตู่ จะนำพาบ้านเมืองไปรอดไหม การเมืองข้างหน้าจะก้าวเดินอย่างไร รัฐบาลทหารจะอยู่ได้สักกี่ปี คำถามทำนองนี้มีมาตลอดเส้นทางขณะการดำรงอยู่ในอำนาจของรัฐบาลลุงตู่
 

     แต่ไม่ว่าจะเจอวิกฤติปัญหาน้อยใหญ่เพียงใด รัฐบาลลุงตู่ก็ตีกันเชียงเอาตัวรอดจากมุมอับมาได้ตลอด จวบจนกระทั่งมาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมืองที่ท้าทายอีกครั้ง จากการที่รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ 4 กุมาร ที่เป็นทีมทำงานด้านเศรษฐกิจ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่ช่วยเหลือร่วมงาน แบบร่วมหัวจมท้ายกับ “นายกฯ ลุงตู่” ช่วยรัฐบาลมาตลอด 6 ปีเต็มๆ ตัดสินใจถอนตัวลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี

     เพราะทนแรงบีบจากกลุ่มการเมืองผู้กระหายตำแหน่งและอำนาจในพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ หรือไม่ด้านพอที่สู้รบปรบมือกับพวกนักการเมืองจำพวกนั้น คือ ปีกฝ่ายสามมิตร หรือ 2 ส.ส. ที่ก่อกระแสยึดพรรคขับไล่ แล้วยังต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกดดันพี่น้อง 3 ป. เพื่อวัดกำลังอำนาจทางการเมือง ด้วยการยึดพรรคและขอตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน
 

     คำถามว่า "รัฐบาลลุงตู่จะไปรอดไหม" ก็กลับมาอื้ออึงอีก การเมืองในพรรคพลังประชารัฐ จึงกลายเป็นการวัดกำลังกันระหว่าง ลุงตู่ พี่น้อง 3 ป.กับ 2 ส.ว่า 3 ป.จะไปรอดหรือไม่ หรือ 2 ส.จะโดนสั่งสอน นาทีนี้จึงเป็นการเมืองที่ประชาชนให้ความสนใจแบบไม่กระพริบตา เพราะเกมการเมืองนี้ท้าทายต่ออนาคตลุงว่าจะอยู่หรือไป เป็นการเมืองที่สั่นคลอนอำนาจท่านผู้นำอย่างยิ่ง
 

     ในมุมมองของผู้คร่ำหวอดและเซียนทางการเมือง เกมนี้ส่วนใหญ่มองขาดว่า 2 ส. ยังรู้จัก 3 ป. น้อยไป คงอาจย่ามใจเคยไล่คนอื่น ยึดพรรคอื่นสำเร็จ ฮุบอำนาจเจ้าของพรรคใครต่อใครมามากแล้ว เรื่องนี้ไม่เชื่อต้องถามคุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เมื่อครั้งตั้งพรรคมัฌชิมา น่าจะทราบซึ้งเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ 2 ส.เขาจึงเหิมเกริม คิดว่างานนี้คงได้เคี้ยวหวานหมูเหมือนเดิม จึงเดินเกมเต็มสูบเกินร้อยแบบมั่นใจสุดๆ
 

     อยากจะบอก 2 ส. ว่า พรรคพลังประชารัฐ เจ้าของพรรคไม่ใช่พวกเถ้าแก่โรงปูน ที่ไม่ประสีประสาทางการเมือง ที่จะหลอกรับประทานตีกินยึดพรรคกันง่ายๆ แต่พรรคนี้เจ้าของคือ 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ ที่มิใช่ใครๆ จะมาขี่คอหลอกตีกินกันง่ายๆ น่ะจะบอกให้ มันคงไม่ง่ายเหมือนอดีต
 

     หากจะย้อนดูลีลาและกระบวนท่าทางการเมืองของพี่น้อง 3 ป. อย่างเข้าใจศึกษาบทเรียนในอดีตเพื่อรับรู้ปัจจุบันแล้ว รังสีอำมหิต ลีลาพยัคฆ์ติดปีกของพี่น้อง 3 ป. นับว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดิน ยุคสมัยนี้หาคนเทียบยากขอบอกให้ เอาเฉพาะช่วง 6 ปีที่ผ่านมาถ้ายังไม่ลืม และลองทบทวนให้ดีแล้ว พวกนักการเมืองรุ่นเก่า และแกนนำสองมิตร 2 ส.จะหนาว เพราะพยัคฆ์บูรพา มีลีลาและกระบวนท่าล้ำลึกจริงๆ อยากไล่เรียงให้ดูเผื่อจะคิดใหม่ ก่อนรุกไล่หรือต่อรองใดๆ ทางการเมือง

     1. จำได้ไหมก่อนการเข้าควบคุมอำนาจการปกครอง ขณะที่สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองอยู่ในช่วงวิกฤติ ถึงขั้นจลาจลอาจกลายเป็นสงครามกลางเมือง 3 ป. วางแผนเชิญแกนนำทุกฝ่ายมาประชุมหารือเจรจาหาทางออกให้บ้านเมือง ทั้งที่รู้ว่าตกลงกันไม่ได้หรอก แต่ก็ดึงเกมเจรจาข้ามวัน จนแกนนำทั้งหลายและตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ตายใจ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ก็ยึดอำนาจการปกครอง แบบต้อนแกนนำผู้ชุมนุมและพรรคการเมืองเข้าคอกหมด ควบคุมล็อกตัวไว้เรียบโดยไม่ต้องไปไล่จับ แบบนี้เรียกว่าเหนือชั้นไหม
 

     2. ยึดอำนาจแล้วแทนที่จะมีแรงต้าน ประชาชนแซ่ซ้องปรบมือให้ ทุกคนเชียร์ คสช.เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสงบ ลุงแต่งเพลงขอเวลาอีกไม่นานกล่อมคนทั้งเมือง แต่ลุงก็อยู่มายาวได้ถึง 6 ปีเศษ และยังอยู่ในอำนาจต่อไป ฝีมือหรือว่าโชคชะตา นี่ย่อมไม่ธรรมดา
 

     3. ใครๆ คงคิดว่า คสช.จะเดินตามรอยการรัฐประหารเดิมๆ ที่เคยผ่านมา ยึดอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญ จัดเลือกตั้งแล้วก็ถอยลงจากอำนาจแบบเสียของ แต่ลีลาพยัคฆ์บูรพา ร่างรัฐธรรมนูญ 2 รอบ ตั้งสภาปฏิรูป 2 รอบ ค่อยประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 เลือกตั้งทั่วไป แต่ท่านกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ คงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คน่ะจะบอกให้ ไม่แน่จริงคงไม่ได้กลับมา
 

     4. ไม่ตั้งพรรคการเมืองเองเหมือนผู้นำรัฐประหารในอดีต ใช้คนภาพลักษณ์ดีออกหน้าตั้งพรรค พวกน้ำเน่าตามหลัง 3 ป. ไม่ต้องเป็นหัวพรรคเมื่อเริ่มตั้ง แต่เข้ามาคุมพรรคเมื่อฝุ่นการเมืองเริ่มจางลง ถึงช่วงนี้ พี่ใหญ่คุมพรรค พี่คนกลางคุมมวลชนและกลไกปกครอง น้องคนเล็กเป็นผู้นำประเทศ เล่นบทบริหารลอยตัวเหนือผลประโยชน์ ครองใจประชาชน
 

     5. ทุกพรรคต้องยกมือให้ แถมมีกลไก ส.ว.เป็นกำลังหนุน ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างนักการเมือง เสนอได้แต่ห้ามต่อรอง อำนาจตัดสินใจอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น ฝีมือธรรมดาๆ ทำได้แบบนี้ไหม
 

     6. เอาใจมวลชนก็เก่ง แต่งเพลงร้องเพลงให้ฟังก็ได้ เล่นบทโหดกับทักษิณก็ไม่เคอะเขิน เอาใจคนกลัวเสื้อแดง โกยคะแนนจากคนเกลียดทักษิณ แม่ยกกองเชียร์คนรักลุงจึงพรึบ คะแนนนิยมไม่ตก เจอโควิดยังมีมิตรแท้เป็นหมอ ช่วยกู้วิกฤติ สร้างสามัคคีร่วมมือกับประชาชนได้ จนรอดพ้น โลกแซ่ซ้องชื่นชม
 

     7. ขบวนต้าน เด็กรุ่นใหม่ พวกจุดไฟการเมือง โดนตอนเตะตัดขาทยอยหมดน้ำยาไปทีละกลุ่ม คลื่นลมถาโถมอย่างไร ก็ยังไม่สั่นคลอนรับมือได้ แถมมีสื่อยักษ์ใหญ่เป็นมิตรแท้อีกต่างหาก
 

     ที่พูดมาเป็นเพียงบางส่วนและเศษเสี้ยวเส้นทางแห่งอำนาจ ของลูกผู้ชายที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพี่น้อง 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ คนที่เคยดูแคลน ประเมินต่ำ คิดว่าไม่ประสีประสาทางการเมือง คงต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่ 6 ปีเศษๆ ที่ผ่านมา ในสนามการเมืองได้หล่อหลอมและเคี่ยวกรำให้ พี่น้องนักการทหาร 3 ป. กลายเป็นทั้งนักการทหารและนักการเมือง เขี้ยวเล็บรอบตัว อยู่ท่ามกลางนักการเมือง เสือ สิงห์ กระทิง แรด
 

     แต่ 3 ป. ก็มีลีลาพยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ เป็นจอมยุทธ์การเมืองที่เหนือการเมือง ที่นักการเมืองไม่อาจจะหลอกใช้ได้ง่ายๆ จึงขอทำนายไว้ล่วงหน้า ปรับ ครม.ครั้งนี้ เราคงจะได้เห็นว่า 2 ส. หรือ 3 ป. ใครคือ “พยัคฆ์ทางการเมือง” ตัวจริง
 

     ประกาศรายชื่อเป็นทางการเมื่อไหร่ คงได้เห็นลีลาพยัคฆ์บูรพา กระบวนท่าการเมือง 3 ป. ด้วยความระทึกใจ เรื่องจะให้การเมือง 2 ส.ขี่คอ คงต้องรอชาติหน้าบ่ายๆ ครับ