‘เอสเอ็มอี’ ทุกข์ระทม กองทุน 5 หมื่นล้าน...แท้ง?

26 ก.ค. 2563 | 02:00 น.

‘เอสเอ็มอี’ ทุกข์ระทม กองทุน 5 หมื่นล้าน...แท้ง? : คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,595 หน้า 20 วันที่ 26 - 29 ก.ค. 2563 โดย... พรานบุญ

‘เอสเอ็มอี’ ทุกข์ระทม

กองทุน 5 หมื่นล้าน...แท้ง?

 

     แท้งแล้ว แท้งแล้ว เจ้าข้าเอร้ย!
 

     มาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี ที่เป็นผู้ประกอบการชายขอบกลุ่มที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ไม่เคยได้รับสินเชื่อ ไม่มีสินเชื่อคงค้าง ที่ “สถาปนิก-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” วาดฝันไว้ว่าจะขอเงินพรก.เงินกู้ของรัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาใช้สัก 5 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการชายขอบที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
 

     5 แสนราย....
 

     อีเห็นป้องปากร้องตะโกนเสียงดังฟังชัด เป็นเพลงท่อนฮุก....เก็บไว้ในลิ้นชัก คงไม่เจอแล้วรักแท้ เมื่อผจญกับความปรวนแปร มันไม่แคร์และไม่หวัง มันเหมือนคนชินชา ไม่มอง ไม่ฟัง และแล้วก็รอ “รัฐมนตรี” เดินเข้ามา...!

     ท่าไม้ตายในการโอบอุ้มคนตัวเล็กที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วาดหวังไว้ว่าจะตั้งเรื่องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปันออกมาจากเงินกู้เยียวยา 5.5 แสนล้านบาท ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ 1.9 แสนล้านบาทมาตั้งเป็น “กองทุนเติมพลังต่อทุน 5 หมื่นล้าน”
 

     ตอนนี้เป็นหมัน แท้ง ไม่มีการอนุมัติทำคลอดเสียแล้ว
 

     แผนชุบชีวิตคนตัวเล็กชายขอบที่ต้องการกู้เงินรายละไม่เกิน 1 แสนบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ผ่อนชำระนาน 10 ปี หรือจ่ายเดือนละ 275 บาท โดยจะให้กับผู้ประกอบการทั้งบุคคลธรรมดาที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งสามารถพิสูจน์ได้ ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือนิติบุคคล และวิสาหกิจชุมชนที่มีการจดทะเบียน หรือที่ไม่ได้จดทะเบียน
 

     แผนปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอีที่เป็นนิติบุคคล วงเงินกู้รายละ 1 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 1% ระยะเวลาผ่อนชำระ 10 ปี หรือชำระเดือนละประมาณ 9,182 บาทต่อเดือน เพิ่อเติมสายโลหิตช่วยชีวิตให้เอสเอ็มอี มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยลดการเลิกจ้างงานลง
 

     แต่บัดนี้กองทุนเติมพลังต่อทุน 5 หมื่นล้าน ที่จะเปิดโอกาสให้กลุ่มไมโครเอสเอ็มอีที่เป็นแม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ร้านค้าตึกแถว ในตลาดทั่วไป สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย โดยไม่ต้องไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ เพียงแต่ต้องมีสถานที่ค้าขายเป็นหลักแหล่งและพิสูจน์ทราบได้ มลายหายไปในอากาศ....
 

     เห็นข่าวว่า รอ “ปรีดี ดาวฉาย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ มาชี้ชะตาว่าจะทำอย่างไร (อ่านเพิ่มเติม..."โผ ครม." ชัดแล้ว 'ปรีดี ดาวฉาย' ลาออก KBANK รับตำแหน่งรมว.คลัง) 
 

     นังบ่างบอกว่า ผู้ทำแท้งโปรแกรมนี้มิใช่ใครที่ไหน เป็น ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่แหละ ที่สั่งเหยียบเบรก การตั้งกองทุนช่วยเอสเอ็มอีคนตัวเล็กโดยมอบดาบให้ สสว.เป็นผู้ดูแล ที่ “สถาปนิก-สมคิด-อุตตม” ออกแบบไว้ ไม่ให้บรรจุเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมครม.อย่างน้อย 2 ครั้ง

     ไม่มีใครรู้ว่า ทำไมลุงตู่จึงเหยียบเบรกจนตัวโก่ง?
 

     แต่สัญญาณนี้แหละที่ทำให้ 4 กุมาร และ สถาปนิกสมคิด รับรู้อย่างกระจ่างใจว่า นายกฯลุงตู่...มิเชื่อมือให้ทำงานอีกต่อไป
 

     ใกล้เคียงกับที่รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลคาดคะเนว่า ที่นายกฯ เหยียบเบรก เพราะ...ลุงตู่ต้องการส่งสัญญาณออกไปให้อดีตรองนายกฯ สมคิด-อุตตม อดีต รมว.คลัง รับทราบว่า เวลาของเธอหมดแล้ว....!
 

     กระจิบกระจาบพิราบน้อยส่งเสียงซุบซิบว่า การดึงเรื่องการตั้งกองทุนช่วยเอสเอ็มอีตัวเล็ก มิใช่นายกฯลุงตู่ไม่รู้ว่านับจากเดือนมิ.ย.เป็นต้นมา เอสเอ็มอีจำนวนมากสลบคางเหลืองจากการขาดสภาพคล่อง แต่ลุงตู่ต้องการให้ “ขุนคลัง” คนใหม่ได้มีเวลาพิจารณาว่า นโยบายนี้ใช้แก้ปัญหาได้จริงหรือไม่?
 

     มาตรการสนับสนุนเงินทุนเพื่อเป็นสภาพคล่องแก่เอสเอ็มอี ผ่านซอฟต์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ ที่ปล่อยกู้ไปมีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร
 

     เผื่อว่าจะนำเงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่เหลืออยู่ไปใช้ในการพัฒนาโครงการที่ก่อให้เกิดการจ้างงานระดับชุมชนอย่างอื่นได้ เรียกว่า กันกระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น!
 

     ผลที่ตามมาคือบรรดาเอสเอ็มอีคนตัวเล็กที่มีอยู่ 5 ล้านราย เป็นกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนในระบบมี 3 ล้านราย อยู่นอกระบบ 2 ล้านราย จะต้องร้องเพลงรอ รอการพิจารณาของขุนคลังคนใหม่ไปอีกยาว
 

     แผนการณ์ใหญ่ที่ตั้งธงไว้ว่า จะเข็นกองทุนเติมพลังออกมาปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือเอสเอมอี ภายต้นเดือน ส.ค.นี้ และจะปล่อยได้ทั้งหมดภายใน 3 เดือนเพื่อดูแลคนตัวเล็กที่อาการโคม่า...จึงเคว้งด้วยประการละฉะนี้...แล พ่อพรานฯ
 

     เอสเอ็มอีชายขอบที่อยู่ในห้องไอซียู....รอลุ้นออกซิเจนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาต่อลมหายใจ...รีบไปถามหายาหม้อใหญ่จาก
 

     นายกฯลุงตู่ด่วน!