นักการเมือง ภาคธุรกิจ นั่งหลายเก้าอี้ เอาดีที่ไหน

14 ก.ค. 2563 | 13:00 น.

นักการเมือง ภาคธุรกิจ นั่งหลายเก้าอี้ เอาดีที่ไหน : คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3592 หน้า  1 โดย ...กาแฟขม

นักการเมือง

ภาคธุรกิจ

นั่งหลายเก้าอี้ เอาดีที่ไหน
 

     *** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3592 ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค.2563 ข่าวลึก ข่าวลับ ครบครันเหมือนเช่นเคย***
 

     *** ไปดูเรื่องชวนระทึกกันก่อน เมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 ออกมาบอกว่ามี “ทหารชาวอียิปต์” อายุ 43 ปี ซึ่งเดินทางมาพร้อมคณะลูกเรือทั้งหมด 31 ราย โดยเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และปากีสถาน เข้าไทยผ่านทางสนามบินอู่ตะเภา เมื่อวันที่ 8 กค.และเข้าพักยังโรงแรมแห่งหนึ่งในจ.ระยอง และจากนั้นบินไปทำภารกิจที่ เฉิงตู ประเทศจีน ในวันเดียวกัน และกลับเข้าพักยังโรงแรมเดิมที่จ.ระยอง และวันที่ 11 ก.ค. ทั้งหมดเดินทางออกจากไทย  กลับอียิปต์ แต่จากการตรวจคัดกรองอาการลูกเรือ 31 ราย ตั้งแต่วันที่10ก.ค. ผลตรวจออกมาในวันที่ 12 ก.ค. พบว่าลูกเรือติดเชื้อ 1 ราย คำถามคือฝ่ายควบคุมดูแล “การ์ดตก” กันหรือไม่กรณีนี้ และเข้าพักที่โรงแรมแห่งเดียวหรือไม่ หรือปล่อยให้มีการออกไปไหนต่อไหน แล้วต่อไปจะทำอย่างไร ศบค.ค้องเร่งสร้างความสบายใจให้ประชาชน แผนที่เส้นทางของทหารอียิปต์รายนี้ต้องมีทั้งหมด ไปไหน พบใคร ต้องนำมากักตัวตรวจโรคก่อนใช่หรือไม่ อย่าทำกันเล่นๆ ที่ไม่พบเชื้อมากว่า 40 วัน จะกลายเป็นศูนย์ในพริบตา ถ้าแก้ปัญหาไม่ทันท่วงที

     *** ศบค.ต้องอย่าละเลยหละหลวม ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน ตราบนั้นยังเป็นที่ไว้วางใจไม่ได้ ดูสหรัฐฯ เป็นตัวอย่าง ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดรายวัน ยอดผู้เสียชีวิตก็พุ่งเอาๆ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังกลับลำ หันมาสวมใส่หน้ากากป้องกัน ทั้งที่ยืนกรานมาโดยตลอด ไม่กลัว ไม่ใส่ แล้วผลเป็นอย่างไร
 

     *** ที่วุ่นไม่เลิกและไม่สนใจอะไรเลยคือการเมือง โดยเฉพาะการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล หลังเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อย ก็เริ่มมีการออกมาทวงโควต้า ตำแหน่งรัฐมนตรีกันแล้ว หลังถีบทีม “4 กุมาร” พ้นพรรคสมใจ ก็ได้เวลาทวงเก้าอี้ พวกลิ่วล้อ ลูกก๊วน ออกมาขยับ หวังดันเก้าอี้ให้ลูกพี่ขาใหญ่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีในตำแหน่งที่ตั้งใจ ที่แย่งชิงหนักสุดไม่ใช่เก้าอี้รัฐมนตรีคลัง เพราะอาจรู้ตัวว่ามือไม่ถึง แต่กลับเป็นเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน แว่วว่ามีถึง 4 คน 4 ค่าย 4 ก๊กแล้ว  ว่าด้วยเรื่องทวงเก้าอี้ บางคนอหังการ์ใช้คำเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นสมบัติของพรรค ต้องผลัดกันชม มองข้ามหัวประชาชนที่สะบักสะบอมจากพิษโควิดที่สะเทือนเศรษฐกิจปากท้องกันไปหมดแล้ว หลายคนสมน้ำหน้าแกมเหน็บแนมให้ช้ำใจ “ก็เลือกกันมาเองนี่” ก็อีตอนที่เลือก ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ สำนึก สำเหนียกกันบ้างไหม นักเลือกตั้งทั้งหลาย ว่าตอนที่เขาเลือกนั้นต้องการเทคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พาประเทศให้สงบเป็นหลัก
 

     *** อยู่ที่พลังประชารัฐ ต้องจับตาดูโฆษกพรรคคนใหม่ พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ไม่รู้เก่งมาจากไหน แต่เป็นกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการถึง 9 คณะ ไล่เรียงให้ดู กมธ.สาธารณสุข, กมธ.เด็กสตรีเยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีหลากหลายทางเพศ, กมธ.วิสามัญพิจารณาแก้ไขและป้องการการถูกข่มขืนกระทำชำเราฯ, กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออนไลน์และการทำธุรกรรมผ่านทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์, กมธ.วิสามัญพิจารณาติดตามการใช้เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ตามพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ, กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. ...  (อันนี้เสร็จไปแล้ว), คณะอนุกรรมาธิการกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย แก้ปัญหาข่มขืน, คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาพืชที่เป็นยาเสพติด และสมุนไพรไทย เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข, คณะอนุกรรมาธิการฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา วิทยาศาสตร์ การวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น และทุนหมุนเวียน เป็นส.ส.และยังเป็นโฆษกพรรรคอีก จะเอาเวลาไหนไปประชุม เวลาไหนไปทำงาน

     *** ตามหลักเกณฑ์ธรรมาภิบาลของบริษัทในตลาดทุน บอกไว้เลยว่าคนๆหนึ่ง ไม่ควรเป็นกรรมการบริษัทเกิน 5 บริษัท ถ้าเกินจากนี้ขัดหลักธรรมาภิบาลแล้ว จะเอาประสิทธิภาพ คุณภาพจากไหนเมื่อนั่งเก้าอี้คร่อมไปทั้งหมด ส.ส.นักการเมืองก็ควรจะเป็นเช่นกัน ที่สำคัญมันสะท้อนบุคลากรในพรรคพลังประชารัฐ สะท้อนระบบพรรคที่ล้มเหลว ในการคัดสรรบุคคล ช่างสิ้นไร้ไม้ตอกกันเจียวหรือลุง เอากันเฉพาะส.ส.ที่ได้มา 118 ที่นั่ง ไม่มีคนเก่ง คนดี มีความสามารถพอที่จะนั่งกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการเลยหรือ ถึงได้ยกให้ ส.ส.พัชรินทร์ นั่งมันไปแทบทุกคณะ หรือ ท่านส.ส.เลิศเลอเหนือกว่าใครๆ หรือเพราะใกล้ชิด ประธานวิปรัฐบาลอย่าง วิรัช รัตนเศรษฐ เวลาเสนอชื่อนึกใครไม่ออก หวยจึงออกที่ส.ส.พัชรินทร์อยู่ร่ำไป
 

     *** ว่ากันเรื่องบุคลากรที่นั่งซ้อนๆ ควบเก้าอี้หลายตัว ที่การบินไทย บริษัทที่เข้าแผนฟื้นฟูกิจการล้มละลายก็มี อย่าง สุวิมล บัวเลิศ ซึ่งนั่งตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายทรัพยากร, รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายบริหาร กฎหมาย และสายบริหารทั่วไป แถมยังนั่งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบบริษัทไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จำกัด,  ประธานกรรมการบริษัทวิงสแปนเซอร์วิซเซส จำกัด, กรรมการบริษัท ดอนเมืองอินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต โฮเต็ล จำกัด แค่นี้ก็มากโขไม่นับรวมตำแหน่งย่อยอื่นๆ อีก คำถามคือบริษัทนี้เขาบริหารบุคลากรกันอย่างไร เห็นกันหรือยัง ผู้ถือหุ้นการบินไทยทั้งหลาย รวมทั้งพี่น้องชาวไทย***