ใครว่า... ตลาดหุ้นอเมริกาฟื้น

10 ก.ค. 2563 | 21:30 น.

ใครว่า... ตลาดหุ้นอเมริกาฟื้น??? : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3591 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค.63 By…เจ๊เมาธ์

ใครว่า...

ตลาดหุ้นอเมริกาฟื้น???

 

     >> ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วภายหลังจากการอัดเม็ดเงินจำนวนมากกว่า 3.3 ล้านล้านเหรียญเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในเงินจำนวนนี้ก็มีสิ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่เคยทำมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือการใช้เงินจากธนาคารกลางเข้าไปซื้อพันธบัตรจากบริษัทเอกชนโดยตรง และในขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือเพียงแค่ 0-0.25% ก็เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ตํ่าที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐเช่นเดียวกัน...ด้วยเม็ดเงินจำนวนนี้และด้วยดอกเบี้ยที่ตํ่าขนาดนี้ก็ สามารถทำให้ดัชนีหุ้นวอลสตรีทดีดกลับมายืนเหนือ 25,000 ได้ง่ายๆ หลังจากที่ร่วงลงไปตํ่ากว่าสองหมื่นจุดในช่วงเริ่มต้นของแพร่ระบาด
 

     >> อย่างไรก็ตาม การกลับมาระบาดในรอบที่ 2 ที่เกิดขึ้นครั้งใหม่ในขณะที่การระบาดในรอบแรกยังไม่ทันจางหาย ก็ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันของประเทศสหรัฐเพิ่มเป็นเท่าทวีจากจำนวนผู้ติดเชื้อ 1.5-2 หมื่นคนต่อวันในการระบาดในรอบแรก กลายเป็น 5-6 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งความกังวลนี้แม้ว่าจะไม่อาจส่งผ่านออกมาทางดัชนีหุ้นอย่างชัดเจนมากนัก แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่าราคาทองคำในตลาดโคเม็กซ์ ปรับราคาสูงขึ้นตลอดเวลา จนทำสถิติราคาสูงที่สุดในรอบ 8 ปี สะท้อนว่านักลงทุนส่วนหนึ่งกำลังเกิดความมั่นใจ และหันไปถือครองสินทรัพย์ความเสี่ยงตํ่ามากขึ้น ในขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานในสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ดีขึ้นมากกว่าช่วงการเริ่มต้นของการระบาดของโรค Covid-19 เท่าใดนัก สรุปเอาง่ายๆ ว่าตอนนี้สหรัฐยังไม่ฟื้นไข้จริงๆ นะคะ

     >> ที่เจ๊เมาธ์เล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ ก็เพื่อจะบอกว่าการปรับพอร์ตและถือเงินสดให้มากๆ แบบที่นักวิเคราะห์หลายๆ สำนักบอกนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เพราะถ้าหากตลาดหุ้นไทยเกิดการปรับฐานขึ้นมา คราวนี้ก็ตัวใครตัวมันเลยหละค๊า
 

     >> หุ้นอาร๊าย อภินิหารไม่เลิก ตั้งแต่เข้าซื้อขายวันแรก ยันวันนี้ ความร้อนแรงไม่เลิกรา ก็ต้องหุ้นถุงมือยางของ “เสี่ยยักษ์ใหญ่” กับ ก๊วน ฝรั่ง และวาณิชธนกิจตระกูลดัง ทำกันเป็นก๊วน ตั้งแต่การจัดสรรหุ้นกระจุกอยู่กับพรรคพวกของวาณิชฯ  ที่น่าตกใจอีกอย่าง หุ้นเข้าซื้อขายได้สัปดาห์เดียว พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ แต่บทวิเคราะห์เปลี่ยนราคาเป้าหมาย ชนิดที่ แมงเม่า อ้าปากนํ้าลายหก กันเป็นแถว จากพื้นฐาน 50-60 บาท พุ่งขึ้นไปฟินันซ่าให้ 100 กว่าบาท...เจ๊ไม่รู้ว่าอย่างนี้ เอื้อพรรคพวกหรือไม่...ก.ล.ต.น่าจะตรวจสอบการกระจายหุ้นดูหน่อยปะไร ว่าทำไม รายใหญ่ชื่อบุคคล 2-3 คน ทำไมได้รับจัดสรรมากมายขนาดนี้....ที่เจ๊รู้มา ลำพังลูกค้าโบรกเกอร์เทรดหนัก ๆ ยังได้ STGT หนักสุดก็หลักหมื่นหุ้นเท่านั้น... มันน่าสงสัยจริง ๆ หุ้นหลัก 10-20 ล้านหุ้นที่ได้มา ต้องกว้านซื้อนักลงทุนกี่พันคนเชียว  แล้ว “เสี่ยใหญ่” บางคน ข้ามห้วยมาซื้ออีกโบรกเกอร์ได้ยังไงกันค่ะ

     >> ในบรรดาหุ้นทวงหนี้ 3 รายทั้ง BAM JMT CHAYO ที่มีอยู่ในตลาดหุ้นไทย ดูเหมือนว่าจะมีแค่เพียง JMT แค่เพียงตัวเดียวที่มีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นที่สุด ล่าสุด บล.ทรีนีตี้ ได้ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 30 บาท เนื่องจากคาดว่ากำไรไตรมาส 2/63 จะออกมา 205 ล้านบาท แม้จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่โตขึ้นกว่า 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแนวโน้มการทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลังยังดูสดใสจากผลบวกของหนี้บางกองที่ตัดต้นทุนหมด ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่าอย่าง BAM ที่ราคาหุ้นยังไปไหนไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องการขายแบบเบี้ยหัวแตกและการทำกำไรระยะสั้น และเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดเล็กอย่าง CHAYO ก็ดูเหมือนว่า JMT จะค่อนข้างน่าสนใจกว่าเนื่องจากมีธุรกิจที่หลากหลายและโอกาสทำกำไรได้มากกว่านั่นเอง
 

     >> อุ๊ยย นานๆ ทีจะได้เห็นหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ส่งออกอย่าง KCE DELTA HANA วิ่งแข่งกันสักที ล่าสุดมีข่าวดีเรื่องเงินบาทอ่อนค่ารวมไปถึงมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมันที่ให้เงินอุดหนุนผู้ซื้อรถใหม่ และรวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหรรมรถยนต์ในยุโรปที่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้แข่งกันวิ่งแทบจะขาขวิดหัวโขกกันเลยนะเจ้าค่ะ แหม...เรื่องที่มันดีอ่ะ เจ๊ก็รู้อยู่ค๊า...แต่ว่าถ้าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2/63 ที่กำลังจะออกมานี่เจ๊ได้แต่บอกว่ายังๆๆ ยังต้องรอดูกันก่อนนะคะ ถ้าใครรีบจะมาหาว่าเจ๊ไม่บอกไม่เตือนไม่ได้น๊า...เอาไว้รอดูกันก่อนก็ได้ค่ะของแบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะตกรถค่ะ ของมันไม่ได้ดีอย่างที่คิดนะเจ้าค่ะ
 

     >> พอเงินล้นมือทำอะไรมันก็ดี...อย่างเช่น GULF ของเสี่ยกลาง “สารัชถ์ รัตนาวะดี” แหม นี่ก็พึ่งจะมีข่าวว่าลงทุนไป 8 พันกว่าล้านเพื่อรอรับเงินปันผล 400 ล้านบาทต่อปี ด้วยการเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ของ INTUCH หุ้นสื่อสารรายใหญ่ของไทย ล่าสุดก็เห็นข่าว “เสี่ยกลาง” กำลังจะจบดีลการซื้อหุ้น 50% ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเยอรมัน มูลค่า 1.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าจบโครงการนี้ก็จะเก็บรายได้อีกปีละ 1.5 พันล้านบาทอีกโครงการแล้วค่ะ เอาจริงๆ เรื่องโครงการในอนาคตเจ๊เมาธ์ก็รู้สึกดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาแล้วมีแต่คน “ร้องว้าว” กันนะคะ คือ...แบบว่าถ้าจะ “ร้องยี้” เหมือนกับไตรมาสที่ผ่านมา..แบบนั้นไม่เอาแล้วค๊า