“ขอให้เชื่อมั่นผม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

10 ก.ค. 2563 | 12:40 น.

“ขอให้เชื่อมั่นผม” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา : คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3591 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค.63 โดย... กระบี่เดียวดาย

“ขอให้เชื่อมั่นผม”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

     “ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม” ประโยคแรกของการสนทนาตลอดระยะเวลา 65 นาที ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับสื่อในเครือเนชั่น และหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เป็นวงสนทนาที่หนักแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระและเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม หนักแน่นเสมือนหนึ่งนายกฯมาทำเวิร์กช็อปปฏิบัติงานอย่างจริงจัง มากกว่านายกฯ คนอื่นๆ ที่พบกับสื่อ ที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นมุมกระเซ้าเย้าแหย่ ต่อว่าต่อขานเคลียร์ใจกันมากกว่าเรื่องอื่นๆ
 

     นายกฯเริ่มต้นเล่าให้ฟัง ถึงความตั้งใจ ความจริงจัง จริงใจในการปฏิบัติหน้าที่ นำพาประเทศชาติก้าวเดินไปข้างหน้าฝ่าวิกฤติโควิด-19 ด้วยเห็นว่าทุกคนเดือดร้อนเหมือนกันหมด และรัฐบาล ตัวนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล ผู้นำประเทศ ต้องอาศัยพลังร่วมจากทุกฝ่าย ประชาชนทุกคนในการนำพาประเทศฝ่าวิกฤติ

     “ขอให้เข้าใจที่วางแผนยุทธศาสตร์ประเทศระยะ 20 ปี ไม่ใช่วางแล้วขยับอะไรไม่ได้ วางไว้เฉยๆ วางไว้ลอยๆ แต่เป็นเป้าหมายร่วมกัน ทำงานร่วมกันและมีการประเมินผลเป็นระยะๆ 1-3 ปี เป็นอย่างไร 5-7 ปี เป็นอย่างไร ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเป็นอย่างไร ระยะที่ผ่านมาทำอะไรไปแล้วบ้าง อะไรที่ต้องทำเพิ่ม ซึ่งไม่ได้ทำช้า แต่ต้องใช้เวลาในบางเรื่องที่ปัญหาลงลึก”
 

     แนวทางหลังโควิด-19 ต้องทำแบบ นิว นอร์มอล รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายแล้วกลั่นกรอง ตกผลึกก่อนนำไปสู่ภาคปฏิบัติ ทั้งการปฏิรูปราชการ ลดคน ลดอำนาจรัฐ เสริมเทคโนโลยี จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับแผน ตรงจุด ตรงเป้าหมาย ฟื้นชุมชน ฐานรากต้องทำเป็นอันดับแรกๆ พร้อมก้าวไปข้างหน้าในการนำประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจเทคโนโลยี และต้องเร่งให้การสนับสนุนช่วยเอสเอ็มอีฟื้นฟูธุรกิจ 5 ล้านราย เป็นเป้าหมายแรกๆ รวมทั้งการฟื้นฟูท่องเที่ยวที่ต้องเร่งมือเช่นเดียวกัน
 

     “ต้องให้ชุมชนฐานรากเขายืนอยู่ได้ ประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ผลิตพืชเกษตรหลายรายการ แต่มีปัญหาสู้เขาไม่ได้ ก็ต้องให้เขาแข่งขันได้ อย่างข้าวที่ผลิตออกมาก็ต้องเห็นใจเขา ต้องช่วยในการพัฒนาเพิ่มประสิทธิ ภาพการผลิต ดินดี น้ำดี เทคโนโลยีดี บริหารจัดการดี ต้องร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจฐานราก จ้างงาน บ้าน วัด โรงเรียน (บ ว ร) ผนึกกำลังกัน คิดเสนอโครงการขึ้นมา รัฐก็คิดโครงการเสริมต่อยอดเข้าไป ก็จะไปด้วยกันได้ งบประมาณก็ไม่สูญสลายโดยใช่เหตุ”
 

     บางเรื่องนายกฯ รู้ และมีข้อมูลลึก อย่างกรณี มีนักการเมืองตั้งโต๊ะค้างบประมาณกัน พูดกันที่ตัวเลข 80 ล้านบ้าง 5 ล้าน 1 ล้าน “ผมไม่ยอมให้เกิดเช่นนั้น และได้กำชับไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) ให้มีบทบาทมากขึ้นและทำงานเร็วขึ้นในการตรวจสอบไม่ให้งบประมาณรั่วไหล ขอให้ประชาชนร่วมมือ เป็นหู เป็นตา ตรวจสอบร้องเรียน รับรองเรื่องนี้ผมเอาจริง การประชุมครม.ที่ผ่านมาก็เห็น ไม่ใช่อนุมัติกันง่ายๆ” นายกฯกล่าวพร้อมหันไปมองคนนั่งข้างๆ คือ ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาสภาพัฒน์ หัวหน้าผู้พิจารณาเงินฟื้นฟูโควิด-19

     แม้ท่วงทำนองในการพูดจาอธิบายจะเร็ว ตามสไตล์พูดรัวๆ หรืออาจจะด้วยเรื่องที่อยากพูดคุยมีมาก แต่เวลาจำกัดเลยต้องยิงคำพูดแบบไม่หยุดยั้ง แต่รู้สึกได้ว่า นายกฯเข้าใจเรื่อง เข้าใจงาน ลงลึกถึงวิธีการปฏิบัติอย่างลึกซึ้ง
 

     “อำนาจที่ยิ่งใหญ่มากับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” นายกฯหล่นประโยคนี้ 3 ครั้งระหว่างการสนทนา เมื่อถูกถามถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ เมื่อพูดถึงบริบทการทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่าเขารู้ดีว่ากำลังทำอะไร ที่เขาทำเป็นหน้าที่ และไม่คิดสืบทอดอำนาจ
 

     คำพูดนี้ทำให้ย้อนนึกไปถึงเมื่อ เดือนพ.ค.2557 “การใช้อำนาจต้องระมัดระวัง การมีอำนาจมาก ผมบอกไปแล้วว่า ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องทำตัวให้เล็กลง อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจแล้วจะทำได้ทุกอย่าง ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น” แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
 

     แต่ไม่ว่าพูดย้ำหรือยืนยันอย่างไร ต้องอยู่ที่การแสดงออกให้เห็น อยู่ที่การกระทำที่จะพิสูจน์
 

     ถ้าบอกว่าต้องปรับครม.แล้วนำคนที่ภาพลักษณ์ไม่ดีหรือ “ยี้” ร่วมเต็มครม.ตามโควต้านักการเมืองเสือโหย แล้วบอกว่าจำเป็นต้องทำเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าไปได้ อันนี้ก็จะไม่ใช่การครองอำนาจเพื่อชาติ แต่เป็นการครองอำนาจเพื่อตนแล้ว
 

     เมื่อร้องขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในตัวนายกฯแล้ว
 

     นายกฯก็ต้องไม่สร้างความผิดหวังให้คนในชาติ นำคนดี ทีมงานที่ดี เป็นที่ไว้วางใจได้ เข้ามาเป็นครม.เพื่อบริหารประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า มีวิสัยทัศน์ ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้ง
 

     ไม่เฉพาะการตั้งครม.เท่านั้น “ขอให้เชื่อมั่นผม” จะเป็นคำร้องขอ
 

     ในทุกมิติของการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี
 

     “ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม” บางทีพิสูจน์กันไม่นาน!!