เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ประเทศไทยค่อยๆ ผ่านวิกฤติเลวร้ายจากการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายตามลำดับ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ 100% ประกอบกับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่งลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท
ทำให้เชื่อมั่นและเบาใจได้ว่าระบบงบประมาณยังเดินหน้าต่อไปได้ และมีท่านที่เฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดการอภิปรายงบ 64 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และที่ไม่ได้ติดตามแต่สนใจ ถามเข้ามาว่า การจัดสรรงบประมาณ 2564 ภายใต้หลักคิดอะไร และมีการคาดการณ์สถานการณ์ของประเทศไว้อย่างไร
ผมจึงหามาเล่าให้ฟังว่า การจัดทำงบประมาณโดยปกติแล้ว สำนักงบประมาณเขาจะมีเขียนรายงาน “ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทย” ประกอบในเอกสารงบประมาณ โดยงบปี 2564 “ภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2564” สำนักงบฯเขาเขียนเอาไว้ตอนหนึ่งว่า
เศรษฐกิจไทยในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 4-5% โดยได้รับปัจจัย สนับสนุนจากฐานการขยายตัวที่ตํ่าผิดปกติในปี 2563 และแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของ อุปสงค์ภาคต่างประเทศภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผ่อนคลายลง
รวมถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศตามการเริ่มฟื้นตัวของฐานรายได้จาก การส่งออก การท่องเที่ยว การผลิตภาคเกษตร และแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐทั้งการเบิกจ่าย ภายใต้กรอบงบประมาณรายจ่ายประจําปี งบลงทุนรัฐวิสาหกิจ และการเบิกจ่ายภายใต้ พระราชกําหนดให้อํานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ให้ทาย...ประเทศไทย ใช้กฎหมายกี่ฉบับสู้โควิด
ทำความรู้จัก"กาฬโรค"คืออะไร เหตุไฉนถึงต้องผวาโรคระบาดนี้
หวั่นโควิดระบาดซ้ำ นิวยอร์กเลื่อนเปิด กินอาหารในร้าน
WHO ชี้บางประเทศเผชิญโควิดระบาดหนัก อาจใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบ2
และมีความเสี่ยงที่จะตํ่ากว่าที่คาดการณ์ไว้ หากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ-โคโรนา 2019 มีความยืดเยื้อและมาตรการควบคุมของประเทศสําคัญขยายระยะเวลาออกไป หรือปัญหาในภาคการผลิตลุกลามไปสู่วิกฤตการณ์ทางการเงินการคลังในประเทศสําคัญ รวมทั้งในกรณีที่มาตรการกีดกันทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในกรณีที่การระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถยุติลงได้อย่างสิ้นเชิงภายในไตรมาสแรกของปี 2564
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แหล่งข่าวในทีมเศรษฐกิจรัฐบาลวิเคราะห์ให้ฟังว่า การจะเดินไปสู่เป้าหมายตามที่สำนักงบประมาณรายงานเอาไว้ ในเอกสารงบประมาณมาจาก 2 ส่วนหลักๆ คือ 1. ต้องไม่มีการระบาดซํ้าสองของโควิด-19 ไม่เช่นนั้นมาตรการ ล็อกดาวน์ ปิดสถานที่ จำกัดการใช้ชีวิตของประชาชนและการประกอบการก็จะกลับมามีปัญหากระทบเศรษฐกิจอีกรอบ
2. แม้ว่าจะไม่มีการระบาดซํ้า แต่ก็ต้องมีเสถียรภาพทางการเมือง และความนิ่งของสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหมายถึงความนิ่งทั้งการเมืองทั้งภายในรัฐบาล ความนิ่งในพรรคร่วมรัฐบาล รวมไปถึงบรรยากาศการชุมนุมต่างๆ ที่ต้องไม่เตะตัดขาสร้างแรงกระเพื่อมจนกระทบกับความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจ
ไม่เช่นนั้นปัญหาปากท้องก็จะวนเวียนอยู่กับสาเหตุ เดิมๆ ที่ไม่ต้องโทษเชื้อโรคตัวไหนละครับทีนี้