เมื่อหาบเร่แผงลอย กลายเป็นกลไก พลิกฟื้นเศรษฐกิจจีน (2)

06 ก.ค. 2563 | 04:15 น.

 

คอลัมน์ มังกรกระพือปีก โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,589 หน้า 5 วันที่ 5 - 8 กรกฎาคม 2563

 

เศรษฐกิจหาบเร่แผงลอย ...ใหญ่พอช่วยได้หรือ

 

รัฐบาลจีนเก่งในการรับรู้ข้อมูลและกระแสความรู้สึกของภาคประชาชน แถมยังมีทัศนคติและมุมมองเชิงบวกของการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะแทนที่จะปล่อยให้ตำรวจเทศกิจตรวจจับหาบเร่แผงลอยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในพื้นที่ รัฐบาลท้องถิ่นกลับผ่อนคลายกฎระเบียบให้ผู้ค้าผู้ขายได้มีช่องทางในการสร้างรายได้เพื่อต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญอยู่

แต่รัฐบาลกลางไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น กลับเดินหน้ายกระดับเป็นนโยบายสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจกันเลย หลังจากประกาศนโยบายดังกล่าวไม่นาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนก็ออกมารับลูก จนเกิดเป็นกระแสการพัฒนาฐานรากแนวทางใหม่ที่หวังว่าจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ถูกบีบรัดจากพิษวิกฤติโควิด-19 

ขณะเดียวกัน นักวิชาการและประชาชนก็เรียกนโยบายนี้ภายใต้ศัพท์เทคนิคใหม่กันอย่างหลากหลาย อาทิ เศรษฐกิจการขายริมทาง เศรษฐกิจเดินเล่น เศรษฐกิจหาบเร่แผงลอยและเศรษฐกิจแบกะดิน แถมยังแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางถึงรูปแบบและความเหมาะสมของนโยบายดังกล่าว

ท่านหลี่ เค่อเฉียง ยังได้พูดถึงการเปิดร้านชาในยุคหลังปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สื่อในจีนก็กล่าวถึงศักยภาพของเศรษฐกิจหาบเร่แผงลอย และยกตัวอย่างนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันว่าคนเหล่านี้ล้วนผ่านประสบการณ์ของการเป็นผู้ค้ารายย่อยในอดีตมาแล้วทั้งสิ้น แม้กระทั่งแจ็ก หม่า แห่งอาลีบาบา ก็เคยเริ่มธุรกิจแรกด้วยการปูผ้าวางขายสินค้าหัตถกรรมบริเวณทางเท้า เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเช่าห้อง 

รัฐบาลจีนมองว่า ในยุคหลังโควิด-19 พฤติกรรมของชาวจีนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น และหากออกไปนอกบ้านเพื่อหาซื้อของใช้จำเป็นก็นิยมไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ในแง่นี้หาบเร่แผงลอยมีจุดเด่นในเรื่องความสะดวก และเอื้อประโยชน์แก่ผู้คนที่มีรายได้น้อยในชุมชน เพียงแต่รูปแบบ วิธีการ สินค้าและบริการ และอื่นๆ ที่จะนำเสนอหลายอย่างต้องได้รับการปรับปรุง หากรัฐบาลแก้ไขปัญหาของหาบเร่แผงลอยได้ถูกจุด นโยบายเศรษฐกิจนี้ก็จะสามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจจีนได้เป็นอย่างมาก

รัฐบาลจีนจึงให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานสินค้าและการให้บริการ การพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย และการสนับสนุนทางการเงินแก่กิจการที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ เพื่อช่วยแก้ไขหลายปัญหาที่เผชิญอยู่ในระยะเร่งด่วน และระยะยาว รวมทั้งยังจะปรับให้ธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้มีรายได้ เข้มแข็ง และเข้าสู่ระบบภาษีได้ในที่สุด

 

 

นโยบายหาบเร่แผงลอยนี้ยังสอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจยามราตรี (Night Economy) ที่รัฐบาลของหลายเมืองเคยประกาศเดินหน้าไว้ก่อนหน้านี้ การเพิ่มกิจกรรมการขายในช่วงกลางวันของวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันเสาร์อาทิตย์ตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงเที่ยงคืนเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในมิติของกิจกรรมและเงื่อนเวลาที่เป็นประโยชน์เฉลี่ยถึงราว 20% ต่อสัปดาห์ ทั้งแก่กลุ่มผู้ประกอบการเดิมและผู้ประกอบการใหม่ 

โดยรัฐบาลจีนประเมินว่า หากบูรณาการนโยบายทั้งสองสำเร็จ นโยบายใหม่นี้จะเพิ่มการจ้างงานและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละเมืองได้เป็นอันมาก 

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายของการสร้างงานใหม่ 9 ล้านตำแหน่งในปีนี้ ลดลงจาก 11 ล้านตำแหน่งในปีที่ผ่านมา แต่ลำพังผู้จบการศึกษาระดับวิทยาลัยขึ้นไปที่เข้าสู่ตลาดแรงงานในปีนี้ก็ปาเข้าไปถึง 8.7 ล้านรายแล้ว เมื่อรวมเข้ากับแรงงานที่ตกงานในช่วงโควิด-19 อีกนับสิบล้านราย ตำแหน่งงานใหม่ที่รัฐบาลตระเตรียมไว้เดิมก็ไม่น่าจะเพียงพอรองรับอุปทานแรงงานที่ตกงานในปัจจุบันอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจีนจึงต้องกำหนดนโยบายใหม่เพื่อลดผลกระทบจากการว่างงาน ซึ่งก็ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า การสร้างเศรษฐกิจฐานรากตัวใหม่ ที่เปิดให้แต่ละคนได้เป็นเจ้านายตัวเอง รัฐบาลของเกือบ 30 เมืองต่างตอบรับนโยบายใหม่ในทันที ด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องมากมาย โดยมีเฉินตูเป็นเมืองแรกที่ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกการดำเนินนโยบายดังกล่าว 

 

เมื่อหาบเร่แผงลอย กลายเป็นกลไก พลิกฟื้นเศรษฐกิจจีน (2)

 

ท่านนายกรัฐมนตรีของจีนได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง ถึงการนำร่องดำเนินนโยบายดังกล่าวในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่เฉินตูว่า การจัดหาบเร่แผงลอยเคลื่อน ที่ราว 36,000 ราย ทำให้เกิดการจ้างงานถึง 100,000 คน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และสร้างสีสันให้แก่เมืองเป็นอย่างมาก 

ครั้นพอเข้าช่วงการประชุมใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง รัฐบาลเฉินตูก็ขยายโครงการอีกระลอก ด้วยการเพิ่มหาบเร่แผงลอยอีกกว่า 2,230 ราย และร้านค้าเล็กใหญ่จำนวนราว 17,750 แห่ง ก็ได้รับอนุญาตให้ขยายพื้นที่ออกมาด้านนอก ซึ่งช่วยทำให้ร้านอาหารมีระดับการจ้างงานสูงถึง 98% ของสภาวะปกติ

ภายหลังความสำเร็จของเทศ กาลช้อปปิ้ง “Double 5” ในเดือนต่อมา รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ก็ได้สานต่อโดยผนวกกิจกรรมยามราตรีเข้าไว้ในเทศกาล “Double 6” ทั้งในด้านการช้อปปิ้งและบันเทิง ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เช่น เคอร์รี่เซนเตอร์ (Kerry Center) ย่านหนานจิงซีลู่ ก็จัดตลาดนัดกลางคืนในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างสีสันและดึงเอาความคึกคักให้กลับสู่นครที่ไม่เคยหลับได้มาก

 

 

หูเป่ยก็เป็นอีกมณฑลหนึ่งที่ออกนโยบายเพื่อดำเนินนโยบายเศรษฐกิจหาบเร่แผงลอยและเศรษฐกิจยามราตรี เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางของแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ภาคการบริโภคได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ก็ได้รับการผ่อนคลายและกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมตามนโยบายดังกล่าว แม้กระทั่งโรงแรมเชอราตันในใจกลางเมืองก็นำเอาบริการบาร์บีคิวมาด้านนอกติดทางเดินเท้า  

นักวิเคราะห์สำนักหนึ่งยังประเมินว่า นโยบายนี้จะช่วยสร้างงานในแต่ละเมืองใหญ่ได้ราว 100,000 ตำแหน่ง และอาจเพิ่มสูงถึง 50 ล้านคนทั่วประเทศ หากรัฐบาลจีนสนับสนุนในด้านพื้นที่แก่เกษตรกรและผู้ค้าเหล่านี้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา 

นอกจากนี้ เพื่อให้นโยบายดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรม รัฐบาลจีนก็ได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินโครงการ กิจการด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนต่างออกมาเด้งรับลูกกันเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็น อาลีบาบา (Alibaba) เจดีดอตคอม (JD.com) เทนเซ้นต์ (Tencecnt) เหม่ยถวนเตี่ยนผิง (Meituan Dianping) และ ซูหนิง (Suning) กิจการเหล่านี้ทยอยประกาศมาตรการสนับสนุนทางการเงินและอื่นๆ ที่ช่วยเหลือหาบเร่แผงลอยและกิจการขนาดเล็กอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

อาลีบาบาได้ออกแคมเปญสนับสนุนหาบเร่แผงลอยและกิจการขนาดเล็กจำนวนอย่างน้อย 30 ล้านรายผ่านกิจกรรมหลัก 4 ด้าน อันได้แก่ การจัดหาผลิตภัณฑ์ ข้อมูลอัจฉริยะ การคุ้มครองลูกค้า และการสนับสนุนทางการเงินในด้านการจัดซื้อและการพัฒนาธุรกิจ อาลีบาบาอาศัยแพล็ตฟอร์ม 1688.com ในการเชื่อมโยงผู้ค้าเหล่านั้นกับเครือข่ายโรงงานโดยตรง ขณะที่ในด้านการเงิน พี่เบิ้มแห่งวงการค้าออนไลน์ได้จัดเตรียมสินเชื่อขนาดจิ๋ว (Microloans) ปลอดดอกเบี้ยในวงเงินรวมถึง 70,000 ล้านหยวนแก่ผู้ประกอบการเหล่านั้น 

นอกจากนี้ อาลีบาบายังจัดบัตรกำนัลมูลค่า 700 หยวนแก่หาบเร่แผงลอยทั่วจีน เพื่อสำหรับจัดซื้อสินค้าและบริการวิเคราะห์วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยให้กิจการเหล่านี้ค้นพบโอกาสทางธุรกิจและกำหนดสินค้าเป้าหมาย 

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน : 

ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาด และอื่นๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน