โผรัฐมนตรี
แทน “กลุ่มสมคิด”
“ประสาร-ไพรินทร์-สมชัย”
ไม่ต้องพึ่งหมอดูชื่อดังจากไหน เชื่อหัวพ่อพรานเถอะครับ ภายในไม่เกิน 35 วัน หลังจากนี้ไป การเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ขณะนี้ “อุตตม สาวนายน” รมว.คลัง ทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พลังงาน ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการพรรค และรักษาการกรรมการบริหารอีก 16 คน จะรุนแรงขึ้นและเข้าสู่โหมด The Last War ในบริบทสงครามการแย่งชิงอำนาจในพรรคแกนนำรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 1
พรานทุบโต๊ะลงไปเลยว่า เสร็จศึกการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค พปชร.แล้ว ไม่ช้าไม่นาน จะเป็นกระดานหกไปสู่เป้าหมายใหญ่ นั่นคือ การปรับคณะรัฐมนตรี “รัฐบาลประยุทธ์ 2”
อีเห็นสอดมาว่า ไม่ต้องถามว่า ใครชนะเกมการก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง “ทีม 4 กุมาร ที่มีอุตตม สาวนายน” เป็นผู้นำ กับ “ลุงป้อม-พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี พี่ใหญ่ 3 ป.ที่ปัจจุบันนั่งเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค
บารมี ดีกรี ฐานเสียงส.ส.จำนวนกรรมการบริหารพรรค “ลุงป้อม” ชนะ “อุตตม-สนธิรัตน์” ขาด เพราะ "มีการดูแล" ที่ลึกซึ้ง
อย่างดีที่สุดทีม “4 กุมาร” ที่มี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นพี่ใหญ่ คงจะมีส.ส.รุ่นใหญ่ และสมาชิกที่เหมารวมไปถึงทีม “ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรฯเข้าไปด้วย โหวตเสียงหนุนแค่ 30-40 คน ก็ต้องถือว่า มากโขแล้ว
สมาชิกพรรค พปชร.ส่วนที่เหลือยืนอยู่ในป้อมค่ายประตูหอรบ “ค่ายพี่ใหญ่ ป.ประวิตร” มิสั่นคลอน
ทว่า ชนะขาดเกมในกระดานผ่านมติของสมาชิกพรรค และจำนวนส.ส. ไม่ได้หมายความว่า จะชนะใจผู้คน
ผู้คนที่ไม่เข้าใจกลเกมทางการเมือง ล้วนไม่ต้องการให้ “ลุงป้อม” ผู้มากด้วยบารมี และมีจิตใจที่ดีงาม ลงไปเกลือกกลั้วกับบรรดา “นักเลือกตั้ง” ที่มากด้วยมลทิน และมีกลิ่นเหม็นหึ่งของอีแร้ง ที่พร้อมจะ “รุมทึ้ง”ทุกอย่าง และพร้อมจะ “บินทิ้ง” เมื่อยามรัฐบาลลุงตู่ที่กำลังสร้างบ้าน สร้างเมืองเกิดวิกฤติ รุมเร้า
ผู้คนที่ไม่เข้าใจกลเกมทางการเมือง ล้วนแล้วแต่มองเห็นภาพ “ขุนพล” ที่รายล้อมตัวลุงป้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า เต็มไปด้วย “พ่อมดจอมขมังเวทย์” ผู้แพรวพราว แต่ไร้เครดิตทางการเมืองในการทำให้ผู้คนเชื่อว่าสามารถนำพาประเทศไปรอดได้
นังบ่างบอกว่า ชื่อของ วิรัช รัตนเศรษฐ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ สุชาติ ชมกลิ่น อนุชา นาคาศรัย สันติ พร้อมพัฒน์ ไพบูลย์ นิติตะวัน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน เอกราช ช่างเหลา ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อิทธิพล คุณปลื้ม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ประภาพร อัศวเหม สุพล ฟองงาม สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็น “เครื่องค้ำประกันน้ำยา”ได้ดีว่า ประเทศนี้ไปทางไหน
ทว่า ในทางการเมืองแล้ว ทางพรรคพลังประชารัฐต้องเปลี่ยนม้ากลางศึก เปลี่ยนขุนศึกกลางสนามรบ เพราะอะไร เพราะทีม 4 กุมาร นั้นเป็นนักปฏิบัติการ มุ่งทำงาน เอาเนื้องาน ไม่ถนัดการทำงานแบบการเมือง ไม่ถนัดในเรื่อง "ดูแลรายเดือน" ขณะที่ส.ส.พลังประชารัฐ ส่วนใหญ่มาจากนักเลือกตั้ง ธุรกิจการเมืองที่ “คุ้นชินวัตร” กับการดูแลรายเดือนและดูแลเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง
ดังนั้น การเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค พปชร. จึงมีจุดประสงค์พิเศษที่จะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีที่กลุ่ม ส.ส.รายล้อมลุงป้อมต้องการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเสนาบดี และรื้อระบบการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีกันใหม่ และใช้วิธีการเลี้ยงดูปูเสื่อใหม่
การปรับครม.จึงเป็นปลายทางของคำตอบ...ในการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนขั้วในพรรค พปชร. มิใช่ว่าทีม 4 กุมาร ไม่มีฝีมือในการจัดการด้านเศรษฐกิจแต่ประการใด แต่ 4 กุมาร และ ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูแล ส.ส.ไม่ทั่วถึงต่างหาก
มีการปล่อยข่าวออกมาว่า “สันติ พร้อมพัฒน์” จะเป็น รมว.คลัง “ศ.ดร.นฤมล” โฆษกรัฐบลจะเป็น รมช.คลัง “ณัฏฐพล-ส.สุริยะ” ไม่ใครก็ใครจะมาเป็น รมว.พลังงาน “อนุชา นาคาศัย” จะไปนั่ง รมว.อุตสาหกรรม หรือ ศึกษาธิการ “สุชาติ ชมกลิ่น” จะไปเป็น รมว.อุดมศึกษาฯ ไผ่ ลิกค์ จะก้าวขึ้นเป็น รมช.เกษตร
พรานได้ข่าวมาว่า ทีม 4 กุมาร “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์ เมษินทรีย์-กอบศักดิ์ ภูตระกูล” มีทางออกในเรื่องนี้ 2 ทาง ทางแรก สู้จนสุดตัวเพื่อให้ทุกคนมีที่อยู่ที่ยืน
ทางที่สอง ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมกันทั้ง 3 คน เป็นการเดินออกไปแบบมีศักดิ์ศรี โดยจะมีการตัดสินใจภายในเดือน มิ.ย.นี้ แต่การตัดสินใจลาออกคงต้องปรึกษากับ “ส.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์&นายกฯลุงตู่” ก่อน
คำถามคือ ถ้า 3 กุมารตัดสินใจลาออก ส.สมคิด จะลาออกด้วยหรือไม่ อีเห็นทุบโต๊ะบอกว่า น่าจะเป็นก๊อกที่สอง ส.สมคิด จะลาออกตามมา
คำถามต่อมาคือ เงื่อนเวลาอยู่ตรงไหน อีเห็นว่า น่าจะช่วงเดือน ก.ค.นี้ แม้ว่า นายกฯลุงตู่จะบอกว่า เลิกดราม่า ไม่มีการการปรับครม.อยู่ในหัว...!
แต่ช้าแต่...อย่าเพิ่งประณามลุงตู่ “ทีม 4 กุมารเดินจากไป คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีอาจมิใช่รายชื่อ ส.ส.พปชร.ที่ชื่อดังที่ออกแรงทั้งหมดนั้น จิ้งจกตัวใหญ่ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมว่า “ลุงตู่” ได้ทาบทามคนกลางมา 3-4 คนมาเป็นรัฐมนตรี
แว่วมาว่า มีการส่งเทียบเชิญ “วิชิต สุรพงษ์ชัย” นายกกรรมการธนาคารไทยพาณิชย์ อดีตรมว.คมนาคม ยุค ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ...แต่เห็นว่า วิชิต บอกปัดไปเพราะสุขภาพไม่เอื้อ
ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ติดบอร์ดการเรียนเก่งและเป็นนักกิจกรรมตัวยง ในวิกฤติทางการเมืองตุลาคม 2516 เขาเป็นนายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้เจรจากับรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา 13 คน เป็นผลสำเร็จ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อดีต ลขธิการ ก.ล.ต.ชื่อนี้มาแรงแซงทุกคนจะมาเป็น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แทนที่ อุตตม สาวนายน
ประสาร นั้นทำงานกับลุงตู่มายาวนานจนรู้มือ โดยในรอบ 6 ปี ลุงตู่ตั้งเป็นคณะกรรมการหลายชุดมาก เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง เป็น 1 ในคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ เป็นคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย thailand 4.0 ล่าสุด เป็นกรรมการในคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
คนต่อมาคือ ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี วิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาฯ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) ถ้าไม่เป็น รมว.พลังงาน ก็จะข้ามห้วยไปนั่งเป็น รมว.การอุดมศึกษา หรือ ศึกษาธิการ
จิ้งจกตัวใหญ่บอกว่า ที่เซอร์ไพรซ์ คือ ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึงสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน, การแก้ไขปัญหากับดักประเทศรายได้ปานกลาง, การกระจายรายได้, การแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแห่งบริติชโคลัมเบีย แคนาดา แว่วมาว่าจะมานั่ง รมช.คลัง ไม่ก็ รมว.การอุดมศึกษา...
3 คน นี้จะเป็นผู้เข้ามาแทนที่รัฐมนตรี “3 กุมาร 1 รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ” ให้บรรดานักเลือกตั้งที่ลงทุน ลงแรง ฝ่าคลื่นลมโคขวิด ได้กินแห้วในตำแหน่งเสนาบดีที่ได้วาดหวังไว้...
หมากเกมและทางออกของนายกฯลุงตู่ตานี้ จึงไม่ธรรมดา รอลุ้นกันว่า นายกฯ จะปรับครม.เมื่อไหร่ หน้าตาจะเป็นเช่นนี้หรือไม่ แต่ไม่มีไฟย่อมไม่มีควัน รึว่า คนใดคนหนึ่งจะรับ-ไม่รับ! หุหุ