เชื่อได้มั้ย “บิ๊กป้อม” ไม่รับ หัวหน้า พปชร.

07 มิ.ย. 2563 | 04:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3581 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย.63 โดย... ว.เชิงดอย

เชื่อได้มั้ย “บิ๊กป้อม”ไม่รับ หัวหน้า พปชร.

 

      +++ “ไม่พร้อม ไม่พร้อม ไม่พร้อม” เป็นคำพูดของ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 เมื่อถูกถามย้ำว่าหากมีการเสนอจริง (เสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรรค พปชร.) จะพร้อมรับหรือไม่ แต่ก่อนจะมีคำถามนี้นักข่าวถามถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังเกิดปัญหาความแตกแยกกัน ลุงป้อม ตอบว่า “ไม่มีอะไรแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องของพรรค” ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าแต่ถ้ามีการเสนอให้ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค จะตอบรับหรือไม่ ลุงป้อม ตอบว่า “เลือกใครก็ตามนั้น ถ้าให้เป็นก็ห้ามไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด ทุกอย่างแล้วแต่สมาชิก” ...หากให้แปลความหมายก็คือ “ลุงป้อม” ไม่รับเก้าอี้หัวหน้าพรรค พปชร. แทนที่ อุตตม สาวนายน รมว.คลัง ที่นั่งหัวหน้าพรรคมาตั้งแต่ก่อกำเนิดพรรคนี้ขึ้นมา จนผ่านการเลือกตั้งสามารถนำพาพรรคกวาด ส.ส.ได้มาเป็นพรรคอันดับ 2 ของประเทศ เป็นรอง “เพื่อไทย” ที่ได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 1 แต่ด้วยการผนึกกับพรรคพันธมิตร ทำให้ “พปชร.” ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ส่งให้ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปถึงฝั่งฝันบนเก้าอี้ “นายกฯ” สมัย 2 

      +++ คำพูดของ “ลุงป้อม” ที่บอกว่า “ไม่พร้อม ไม่พร้อม ไม่พร้อม” กับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร. จะเชื่อถือได้หรือไม่? กาลเวลาจะเป็น “เครื่องพิสูจน์” เพราะ “ก่อนพูดเราเป็นนาย..พูดไปแล้วคำพูดเป็นนายเรา..."  วาทะคำคมของสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ที่ชื่อ น้าชาติ-พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ล่วงลับไปแล้ว

      +++ ออกมาพูดถึงอีกครั้งสำหรับ “บิ๊กตู่” บอกสั้น ๆ เพียงว่า “ไม่มีปัญหา” เมื่อถูกถามถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีกรรรมการบริหารพรรคบางส่วนลาออก จนต้องมีการเลือกตั้งกันใหม่ เป็นการตอบคำถามของนักข่าววันเดียวกันกับที่ “ลุงป้อม” บอกไม่พร้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร. … “ไม่มีปัญหา” จริงๆ หรือครับ “ท่านนายกฯ” เพราะในพรรค พปชร. มีกลุ่มก๊วน ก๊กเหล่า อีกฝั่งหนึ่ง เคลื่อนไหวขับไล่คนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เขาก็มีส่วนร่วมในการก่อตั้ง “พลังประชารัฐ” เหมือนกัน และทำจนประสบความสำเร็จ ส่งให้ “ท่าน” ได้เป็นนายกฯ อีกครั้ง และมีแนวโน้มที่รัฐบาลจะอยู่รอดไปตลอดรอดฝั่ง 4 ปี อยู่ๆ ก็มีคนรวมตัวมาขับไล่เขาให้ออกไปจากบ้านซะอย่างนั้น จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับท่านก็ไม่น่าจะใช่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล เรื่อง “ความเชื่อมั่น” ของประชาชน โดยเฉพาะ “ทีมเศรษฐกิจ” ที่เขาก็ทำงานของเขามา มี “ผลงาน” พอสมควร ท่านจะปล่อยให้ “นักการเมืองเสือโหย” มาแซะแย่งชิงเก้าอี้ รมต.โดยหวังผลประโยชน์เข้าตัว ไปอย่างนั้นหรือ? ระวังนะจะเข้าทำนอง “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”

      +++ หันไปอีกเรื่อง “จิ๊กจกตัวใหญ่” ตะโกนก้องร้องกู่ที่ “ตลาดหลักทรัพย์ฯ” ว่า ให้จับตาการจัดการของ “โปรกเกอร์รายหนึ่ง” ที่มี “ลูกชายเสนาบดี” ท่านหนึ่ง เข้าไปนั่งร่วมบริหาร ซึ่งที่ผ่านมามีพฤติกรรมหวือหวาในการไต่เส้นลวดด้านการลงทุน จนธุรกิจป้อแป้ล่าสุด มีผู้ใหญ่กระซิบให้ “ลาออก” ก่อนพายุลูกใหญ่จะมาถึง

      +++ ครั้งก่อน “ว.เชิงดอย” ได้พูดถึงเวลาใครไปเดินช้อปปิ้ง หรือไปรับประทานอาหารตามห้างสรรพสินค้า ตามมาตรการ “คลายล็อก” ระยะ 2 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ก็จะให้สถานประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรนใช้ แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เพื่อควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 โดยใช้ทดแทนการลงทะเบียน การเข้าใช้บริการ โดยใช้วิธีการ Check-in และ Check-out แต่ปรากฏว่าที่ “ห้างเซ็นทรัล” ทั้ง สาขาเชียงใหม่ และ ลำปาง ทางห้างไม่ได้จัดให้สแกนแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” แต่กลับให้ สแกน “ไลน์” ของทางห้างแทน ก่อนที่จะเข้าไปในห้าง ล่าสุด ทาง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารห้างเซ็นทรัล ได้ชี้แจงมายัง “ว.เชิงดอย” ว่า ขอขอบพระคุณสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ทางศูนย์การค้า ขออนุญาตเรียนชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องการสแกนเช็คอินเข้าศูนย์การค้าว่า ตั้งแต่ที่ภาครัฐเริ่มปลดล็อค บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการการติดตามป้องกันของภาครัฐอย่างเต็มที่ ด้วยการขอความร่วมมือให้ลูกค้าทุกคนสแกน “ไทยชนะ” ในการเข้า-ออกทุกศูนย์การค้าทั่วประเทศ โดยมี LINE account ไว้เป็นระบบสำรอง ซึ่งจะเป็นเพียงฟังก์ชั่นที่ link ตรงไปยังแอพพลิเคชั่นไทยชนะของภาครัฐเท่านั้น ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า และไม่ได้มีจุดประสงค์ในการนำข้อมูลไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าแต่อย่างใด และหากลูกค้ามี LINE centrallife อยู่แล้ว ก็จะเป็นฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกเพื่อเข้าสู่แอพพลิเคชั่นไทยชนะได้ง่ายขึ้นเท่านั้น บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เน้นย้ำการปฏิบัติของสาขาต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ที่สุด และขอน้อมรับในทุกความคิดเห็น เพื่อนำไปพัฒนาการให้บริการต่อไปในอนาคต ...รับทราบตามนั้น

      +++ ขอแสดงความยินดีกับ มาณพ เสงี่ยมบุตร ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน (Chief Financial Officer) ของธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ในฐานะรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน  มาณพ จะมีบทบาทหลักในการพัฒนาทิศทางธุรกิจและยุทธศาสตร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงการบริหารวินัยทางด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนธนาคารฯ ให้ประสบความสำเร็จ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด The Most Admired Bank” ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสำคัญของเศรษฐกิจยุค New Normal มาณพ มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในด้านการเงิน การธนาคาร และการลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ถือป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งธุรกิจจีนและธุรกิจต่างประเทศให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงการจัดตั้งและบริหารธุรกิจของธนาคารฯ สำหรับตลาดจีน เมียนมา และกัมพูชา ตลอดจนเป็นผู้ริเริ่มการลงทุนและพัฒนาความร่วมมือทางด้านฟินเทคจีน และสร้างธุรกิจอีคอมเมิรซ์จีนของธนาคารฯ ...อ่อ ที่ลืมไม่ได้ มานม ยังเป็นคอลัมนิสต์ “ลวดลายมังกร” ที่ลงหน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ เป็นประจำอยู่ด้วยนะครับ...