ต้อนส.ส.เข้าคอก วงจรอุบาทว์การเมือง

05 มิ.ย. 2563 | 11:15 น.

คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3581 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย.63 โดย... กระบี่เดียวดาย

ต้อนส.ส.เข้าคอก

วงจรอุบาทว์การเมือง

 

          การเมืองไทยพ.ศ.นี้ ไม่ต่างจากอะไรกับการเมืองเมื่อ 30 ปีที่ที่ผ่านมา ยังคงหมุนวนอยู่ในวงจรอุบาทว์ ก้าวไปไม่ถึงไหน ยังคงเป็นรูปแบบเดิมๆ ที่หมุนวนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะดีไซน์รัฐธรรมนูญกันอย่างไร จะผ่านการเลือกตั้งกันกี่รอบ กี่ครั้ง รัฐประหารครั้งแล้ว ครั้งเล่า การเมืองไทยยังไม่เปลี่ยนแปลง

          ยังเป็นการเมืองที่ตั้งต้น ประชาชนเลือก ส.ส. ผู้อาสาจากพรรคการเมือง ซื้อเสียงเข้าไปเป็นส.ส. เป็นส.ส.รวมตัวตั้งมุ้ง ตั้งกลุ่ม สร้างคอก ในพรรคการเมือง ไปจัดตั้งรัฐบาล เสนอโครงการ เสนอนโยบายถอนทุนเอื้อประโยชน์ให้ตนเองพวกพ้อง

          เป็นการเมืองที่ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้ส.สใหม่มากนัก ในการทำตามอุดมการณ์ หรือ ส.ส.ผู้ที่มีความคิดก้าวหน้าอยากเปลี่ยนแปลงพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตที่เรืองรอง เพราะการเมืองแบบเดิมไม่เปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้คิดและเคลื่อนไหวอย่างอิสระ

          นักการเมืองเก๋าเกม เขี้ยวลากผ่านการเลือกตั้งหลายสมัย

          มักชูคอแผ่หรา อหังการ์แอบอ้างอิงเสียงประชาชน ต้อนส.ส.เข้าคอก เข้าก๊วนตัวเองเพื่อไปต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

          เหมือนเหตุที่เกิดในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ล่าสุด ก็เป็นรูปแบบการเมืองของกลุ่มก๊วน และการต่อรองผลประโยชน์ ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

          แม้จะมีการปฏิเสธออกมาว่าพรรคไม่มีกลุ่ม ไม่มีก๊วน สลายหมดแล้ว นั่นก็เป็นเพียงแค่ลมปากที่เหม็นคลุ้งของนักการเมืองผู้พยายามสร้างภาพให้ดูดีเท่านั้น

          นักการเมืองพวกนี้พร้อมจะโบยบินย้ายพรรค ย้ายข้าง ฉีกหนีไปเกาะแหล่งทำมาหากินใหม่ ปั้นแต่ง ปรับปรุงแต่งหน้าทาปากใหม่ เมื่อพวกเขาแทะซากจะไม่เหลือกระดูกแล้ว...ประชาชนนะหรือรอไปก่อน

          ว่ากันที่พรรค พปชร. ล่าสุด หลังจากปฏิบัติการไล่กลุ่มกรรมการบริหารพรรคเดิมลงสำเร็จ ก็เริ่มมีการจัดทัพจัดกลุ่ม จัดก๊วน เพื่อเข้ายึดครองพรรคใหม่ ใครต้อนส.ส.เข้าสังกัดได้มากสุด เพื่อไปต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในการปรับครม.

          มีรายงานปรากฏเป็นข่าวจากพรรคพปชร. วันนี้มีความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับครม.กันแล้ว อ้างอิงว่าเป็นที่แน่นอนค่อนข้างสูง ทั้ง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, อุตตม สาวนายน, สุวิทย์ เมษินทรีย์, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน หลุดจากเก้าอี้ทั้งยวง

          การปรับครม.จะมีการแบ่งสัดส่วนรัฐมนตรีใหม่ เป็นเก้าอี้ว่าการต้องมี ส.ส.10 คน ต่อ 1 เก้าอี้ ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการใช้สูตร ส.ส. 7 คนต่อ 1 เก้าอี้

          การกำหนดโควตาส.ส.ต่อเก้าอี้รัฐมนตรี ถูกปล่อยออกมาจากพรรคพปชร.เอง

          แต่ที่ว่ากันว่าจะเป็นปัญหาหากยึดระบบโควตา มุ้ง คอก ในการปรับเก้าอี้รัฐมนตรี โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ที่มี 2 เก้าอี้รัฐมนตรีของ พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ และ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ก็เพราะไม่มีส.ส.ในมือจะเหลือเพียงแค่ 4 คน เท่านั้น

          ส.ส.หน้าใหม่ในกทม.อย่างน้อย 5-6 คน มีความพยายามอยากทำการเมืองแบบคนรุ่นใหม่ จึงไม่ต้องการเข้าคอก สังกัดใคร หรือเป็นบันไดให้ใครนั่งเก้าอี้เสนาบดี

          มีแรงกดดันถาโถมเข้าหา ส.ส.หน้าใหม่กลุ่มนี้ ต้อนให้เข้าเล้าให้ได้ ทั้งจากผู้มีบารมีคอยกดดันและจากคนที่อุปโลกน์เป็นหัวหน้ามุ้งเพื่อให้ตัวเองมีที่มั่นมีกำลังต่อรองในเก้าอี้รัฐมนตรีต่อไป ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีก็ยังไร้ซึ่งผลงานรูปธรรม

          ส.ส.กรุงเทพฯ หน้าใหม่ หลายคนมีแนวคิดทำการเมืองแบบใหม่ๆ พวกเขารู้ดีคะแนนเสียงที่ได้มาแทบทั้งหมดมาจากคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา

          พวกเขาจึงต้องการทำงานเพื่อสร้างตัวตน สร้างคะแนนนิยมของตนเอง ตามความฝัน ตามอุดมการณ์รับใช้ประชาชนของตนเองขึ้นมาบ้าง

          แต่กลับถูกต้อนให้เข้าคอก เข้ามุ้ง เข้าสังกัดในพรรค ทั้งที่พวกเขาไม่ได้ศรัทธา

          อนิจจา!! วงจรอุบาทว์การเมืองไทย ทำลายความหวังความคิด ความฝันของพวกเขาไปเสียแล้ว!!!

​​​​​​