ลุงตู่..ปาดเหงื่อการบินไทย เงินฝาก2หมื่นล้านเจอตอ

05 มิ.ย. 2563 | 11:00 น.

คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3581 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 7-10 มิ.ย.63 โดย...พรานบุญ

ลุงตู่..ปาดเหงื่อการบินไทย

เงินฝาก2หมื่นล้านเจอตอ?

 

          อู้หู! ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แอนด์ทีมงานฟื้น “การบินไทย” เอาจริงเอาจังแฮะ!

          ลิง ค่าง นังบ่าง ยายชะนี อีเห็น พากันตะโกนก้องไปทั้งผืนป่าหน้าทำเนียบรัฐบาล ที่คนโบราณเรียกขานว่า "ทำเนียบสามัคคีชัย" หรือ “บ้านนรสิงห์” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นและพระราชทานแก่ พลเอก พลเรือเอก มหาเสวกเอก จางวางเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการมหาดเล็ก

          นังบ่างบอกว่า นับตั้งแต่นายกฯ ลุงตู่ ประกาศว่า “จะรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาการบินไทยด้วยตัวผมเอง” ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ก่อนที่จะมีการยื่นเรื่องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ลุงเอาการเอางานกับสถานะของการบินไทย พอๆ กะการสู้ภัยโควิด

          ไหนจะพยายามสอบถามความคืบหน้า จากคณะกรรมการดำเนินการติดตามการแก้ปัญหา มี “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ เป็นประธาน  อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์  เลขา ก.ล.ต. ฯลฯ เรียกขานกันว่าทีม 9 อรหันต์ ไปทำหน้าที่สะสางปัญหาแทนที่กระทรวงการคลัง และ กระทรวงคมนาคม หลังพ้นสภาวะจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ

          ไหนจะพยายามสอบถาม “บิ๊กตุ๋ย-พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯ ที่ส่งไปนั่งเป็นบอร์ดการบินไทย และมีการซุบซิบกันว่า บิ๊กตุ๋ยจะเป็นประธานคณะผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ มีอำนาจเด็ดขาดในการสะสางสายการบินแห่งชาติให้พ้นจากการจมทะเลหนี้

          ล่าสุดลิง ค่าง นังบ่าง ชะนี และอีเห็นตาไวแอบเห็นหนุ่มร่างใหญ่วัยฉกรรจ์หน้าตาออกครึ่งไทย ครึ่งฝรั่ง หน้าตาละม้ายคล้าย “วราห์ สุจริตกุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า ที่ปรึกษาทางด้านการเงินของบริษัท การบินไทย เข้าพบเป็นการส่วนตัว เมื่อเย็นของวันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ไม่มีใครรู้ว่าหารือเรื่องอันใด...แต่รับรองว่าต้องสำคัญมิเช่นนั้นมิเข้าไปยามเย็นหลังเลิกงานแน่ๆ

          จิ้งจกตัวใหญ่ส่งเสียงจ๊กๆ มาว่า เป็นการเดินทางเข้าพบท่ามกลางปัญหา “ทะแนะ-ทนายความ” ชื่อกระฉ่อนปฐพีในการเจรจาสะสางหนี้ พยายามล็อบบี้ขอมีเอี่ยวในการเป็นที่ปรึกษากฎหมายสำหรับการฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย แม้จะมีการแต่งตั้งว่าจ้างให้บริษัทสำนักงานกฎหมายระดับโลก เบเคอร์ แอนด์ แมคเค็นซี่ ได้ทำหน้าที่นี้ไปแล้วก็ตามที ไม่มีใครรู้ว่าทำไมทะแนะชื่อกระฉ่อน อดีตบอร์ดการบินไทยยุคคนในตระกูลชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงกระสันเอามากๆ

          กระสันจะทำงานฟื้นฟูซากการบินไทยมาก ขนาดแอบอ้างชื่อ บิ๊กต่าย... แอบอ้างชื่อ บิ๊กเอ้...แอบอ้างชื่อบิ๊กอำ...ไปกดดัน เสี่ยจุ๊ก-จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง กลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายเเละหนี้สิน รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่(ดีดี) การบินไทย ให้ทำสัญญาว่าจ้าง ตีคู่ไปกับเบเคอร์แอนด์ แมคเค็นซี่...ขนาดนี้เชียวแหละ

          จิ้งจกตัวใหญ่ส่งซิกมาว่า เป็นการเข้าพบหลัง ไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม ลาออกจากบอร์ดการบินไทย หลังได้รับการแต่งตั้งแค่ 1-2 วัน และมีการเสนอชื่อ “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” อดีตซีอีโอ บริษัท ปตท.คนสนิทสายตรง ดร.ไพรินทร์ เข้าเสียบในแทนในตำแหน่งบอร์ดการบินไทย ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ผิดโผ ผิดฝาจากนี้แน่นอน..จ๊กๆ

          เพราะเชื่อมือว่า ชาญศิลป์ มีประสบการณ์ทำงานในการเจรจาเจ้าหนี้และสหภาพแรงงานกับกลุ่มทีพีไอ จนสามารถสะสางหนี้ให้ทีพีไอ ซึ่งต่อมากลายเป็นไออาร์พีซีเจริญเติบโต จนได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไออาร์พีซี ก่อนจะมาขึ้นตำแหน่งใหญ่ใน ปตท.

          เป็นการเข้าพบ “นายกฯลุงตู่” ภายหลังธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายพากันสกัดกั้นเงินฝากและยกเลิกวงเงินให้กับการบินไทยที่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อรันกิจการทำงานไม่ได้

          เฉพาะธนาคารกรุงไทย KTB มีการให้เงินกู้ระยะสั้นต่อการบินไทยไปถึง 3.5 พันล้านบาท และเปิดวงเงินกู้เพิ่มเติมให้อีก 3 พันล้านบาท ถือครองหุ้นกู้ไว้อีก 750 ล้านบาท แต่ตอนนี้มีการปิดวงเงินกู้และมีการล็อคบัญชีไว้แล้ว เพื่อปิดความเสี่ยงภายหลังการบินไทยเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ

          ขณะที่ยักษ์สีเขียว KBANK ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องบินในกลุ่ม 32 ลำมูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาท จาก 21 สถาบันการเงินทั้งในไทย และต่างประเทศ โดยปล่อยกู้ไป 2,500 ล้านบาท ร่วมกันกับ Credit Agricole และ Landesbank ของเยอรมัน เพื่อซื้อเครื่องบิน AirBus 330-300 จำนวน 2 ลำ ราคา 137.8 ล้านยูโร เมื่อการบินไทยมีปัญหาจึงต้องสกัดกั้นความเสี่ยง

          จิ้งจกตัวใหญ่ กะนังบ่างบอกว่า ยังมีปัญหาใหญ่ที่ซุกไว้ใต้พรมอีกชุดที่มีการรายงานตรง คือ ขณะนี้สถาบันการเงินในและต่างประเทศสกัดกั้นเงินฝากที่เป็นกระแสเงินสดของการบินไทยไว้แทบหมด ดังนั้นการที่จะทำให้งานเดินหน้าไปได้ รัฐบาลต้องออกแรงสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม นะลุง!

          จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปเงินที่ฝากไว้นั้นก้อนใหญ่ไม่ธรรมดาเชียวนาพ่อพรานฯ ที่ฝากไว้กับธนาคารในประเทศไทยไม่มากดอกเจ้าค่ะ แค่ 12,560 ล้านบาทเองเจ้าค่ะ โปรดอย่าถามว่าพักไว้ในบัญชีธนาคารไหนนะนายท่าน...หูยยย ทำงัยดีเนี่ย...

          พรานบอกแล้วว่า รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย (ซีเอฟโอ) ณัฐพงศ์ สมิตอำไพพิศาล โหวเฮ้งไม่ค่อยดี...

          เงินฝากการบินไทยที่ฝากไว้กับแบงก์ต่างประเทศ ก็ไม่มากไม่มายดอกเจ้าค่ะ เบาะๆ แค่ 9,200 ล้านบาทเองเจ้าค่ะ ...อัยหยา..สลบสิพี่น้อง

          เมื่อลุงตู่เอาจริงขนาดนี้ คนที่ลุงตู่ส่งไปนั่งเป็นกรรมการ “พีระพันธุ์-บุญทักษ์-ปิยสวัสดิ์” เพื่อทำการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย จึงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ลงลึกกันในเรื่องแผนการฟื้นฟูชนิดที่บรรดาพนักงาน ผู้บริหาร สหภาพฯ ของสายการบินแห่งชาติที่นิยมเช้าชาม เย็นชาม ต้องอายม้วนต้วนกลับบ้านไปเลยและพ่อพรานเอ๋ย

          จันทร์ที่ 1  มิถุนายน 2563 คณะกรรมการประชุมกัน 8-9 ชั่วโมง วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 กรรมการชุดที่ลุงตู่ตั้งไปทำงานฟื้นฟูกิจการลากบอร์ดทั้งหมดประชุมหารือแผนฟื้นฟูการบินไทยกันตั้งแต่เวลา 09.00 น.โน่นเลิกประชุมเอาเมื่อเวลา 20.00 น. ถกกันจนมึนไปข้างหนึ่ง 11 ชั่วโมงเต็มๆ..หุหุ

          ใครว่าลุงตู่ตั้งทีมอรหันต์ไปแก้ปัญหาการบินไทย บ่มีไก๊...คิดใหม่ได้เลยขอรับ