ทีนี้ก็จะพูดถึงว่า ‘แมวในกล่อง’ ของสมเด็จดาไลลามะนั้นที่มิได้ปกปิดแต่มิได้เปิดเผยก็คือว่า งานอดิเรกของสมเด็จท่านนั้นคือการเปนช่างซ่อมนาฬิกา แต่ทรงพระเยาว์เฝ้าพระราชวังบนหลังคาโลกมาแล้ว โปรดจะใช้เวลากับการรื้อเข้า และ ถอดออกซึ่งประดาเครื่องกลไกต่างๆไม่ว่าจะเปนเครื่องไฟฟ้าเล็กใหญ่ ทีวี วิทยุ นาฬิกา ไปยันว่า เครื่องกลยนต์ล้อ ภาษาพระเขาก็ว่า ทรงมีฉันทะ_ความพึงใจ (มี passion) ในการเรียนรู้ดูเห็นซึ่งเครื่องจำพวกยนต์กลไกเหล่านี้
อันฉันทะนี่ ก็เปนจุดเริ่มต้นของการทำอะไรๆให้สำเร็จสัมฤทธิ์ผลตามกลไกอิทธิบาทธรรม 4 ประการ : ฉันทะ_วิริยะ_จิตตะ_วิมังสา
ทีนี้ว่าจะกลไกอะไรเล่าที่มีขนาดจิ๋วและน่าอัศจรรย์ ก็เห็นจะไม่มีอื่นใดเท่านาฬิกา ซึ่งจะเพียงแต่เฝ้าคอยบอกเวลานั้นก็หาได้ไม่ บางเรือนที่สำคัญๆ สามารถจับเวลาได้ บางเรือนเล็กแค่ใส่ข้อมือแต่ปลุกได้ บางเรือนบอกเวลาตามจันทรคติดวงจันทร์ ให้วันข้างขึ้นคืนข้างแรม บอกฤกษ์ยามแก่คนบกคนทะเลออกมหาสมุทรจับปลา บางเรือนบอกไปยันเวลาของประเทศอื่นอีกฟากโลก โดยทดและข้ามเส้นเเวง และโดยชดเชยประกาศเร่งเวลาหน้าร้อน_daylight saving ไปได้พร้อมๆกัน ฝรั่งเรียกความละเอียดซับซ้อนนี้ว่า complicate (d) watch ซึ่งคนทั่วไปจะใช้งานได้ต้องเข้าใจภูมิศาสตร์สารสนเทศโลกได้มากพอ ยิ่งไปกว่านั้นจะซ่อมกลไกเหล่านี้ได้ก็จะต้องอาศัยความเข้าใจของการไหววัต_dynamism เสียให้จงดี ค่าที่มาตรไกแต่ละวงมันซ้อนทับและส่งเคลื่อนแก่กันและกันไม่หยุดนิ่งเปนสถิตยภาวะ_static
สมเด็จดาไล ลามะนั้นทรงมีนาฬิกาพกสำคัญอยู่เรือนหนึ่งตัวเรือนเปนทองคำประสมงามอร่ามหน้าปัดขาววับ บอกเวลาข้างขึ้น_แรม บอกวันพุธ_พฤหัส บอกวันที่ 1-29-30-31 และยังบอกวันที่ซ้อนเข้าไปในวงมาตรบอกเดือนมีนา_เมษา Complicate ! สังเกตดูให้ลึกก็จะพบว่าหน้าปัดนาฬิกานั้นแบกเข็มละเอียดวินาทีไว้ถึงสองแขน เปนเครื่องบ่งว่าความละเอียดซับซ้อนแห่งนาฬิกานี้สามารถจับเวลาในหน่วยต่ำกว่าวินาทีก็ยังได้ บ่งนัยสำคัญของ Chrono_Graph ตามศัพท์เทคนิคที่ละเอียดอ่อนซ้อนซับรับละเอียดยิ่งกว่า Chrono_Meter ผู้เที่ยงตรงแต่ไม่สนจะจับเวลา
นาฬิกาสำคัญนี้ ปาเต๊ะ ฟิลิป แอนด์ โก รังสรรค์ขึ้นมาไม่ถึง 15 เรือนดี และสมเด็จท่านได้รับมาด้วยวิธีแปลกประหลาด
คนใหญ่บ้านเราเวลานี้ยามแสงแยงตายกมือขึ้นบังแดดก็ถูกสำนักงานปราบทุจริตเรียกสอบเข้าให้ ด้วยที่ข้อมือที่ยกขึ้นนั้นมีนาฬิกาสำคัญเรือนละหลายและเกือบกว่าสิบล้านบาทผูกอยู่
ในกรณีของสมเด็จนั้น ท่านประทานสัมภาษณ์ตรงๆว่านาฬิกาทองอันซับซ้อนนี้ทรงได้มาเปนของขวัญ_ของขวัญจากประธานาธิบดีอเมริกา_แฟรงก์คลิน ดี. รูสท์เวล ตั้งแต่พระชนมายุได้ราว 8 พระพรรษา
ของขวัญอันนี้เขาไม่ได้มอบให้กันแบบธรรมดา แต่ว่าเปนของมอบในกันในนามของรัฐ ท่านประธานาธิบดีได้ตั้งผู้แทนพิเศษมีอำนาจเต็มอย่างว่า_envoy มายังกรุงลาซา แทนตัว เข้าเฝ้าสมเด็จที่วังโปตาลา ส่งมอบ_ของขวัญ_ที่กะเก็งมาแล้วว่าต้องถูกใจผู้รับวัยเยาว์เปนแม่นมั่น
55_ถามว่าอเมริกันเขาดั้นด้นมาผูกสัมพันธ์อะไรเล่ากับเยาวชนบนเขาห่างไกลกันชั้นหลังคาโลก?
ก็ตอบง่ายว่า เขาอยากตัดถนน_อยากตัดถนนเหมือนอย่างที่จีนมหาอำนาจเวลานี้อยากตัด one belt one road อุ๊บส์_ ขออภัย! belt & road initiatives หรอกสินะ_คลุมเครือดี ก็ด้วยรู้ว่าเด็กชายเยาว์ผู้นี้จะเปนผู้กุมชะตาบ้านเมืองบนเขาต่อไปเมื่อหน้าสิเล่า_ถึงได้เอามาให้
ถ้าจะให้อลเวงไปกันใหญ่ ก็จะเรียนให้ทราบไว้ว่า envoy พิเศษผู้เดินทางมาคลุกคลีตีโมงกับเหล่าทิเบตชนบนหลังคาโลกนี้ไซร้ แท้แล้วเปนหลานปู่คนโปรดของ ลิโอ ตอนสตรอยด์ นักเขียนคอมมิวนิสต์รัสเซีย เจ้ารางวัลโนเบลสองสมัยในวรรณกรรมระบือโลกนาม War and Peace แต่มาทำงานให้อเมริกันฝ่ายตรงข้ามในนาม อุปนิกขิต_สายลับ จนได้อวยยศเปนนายพันจ่อนายพลก็แล้วกัน
สมเด็จดาไล ลามะ ยามเมื่อทรงใช้ปาเต๊ะเรือนทองนี่ ฝ่ายตรงข้ามก็โจษหา ว่าไหนจะทรงเปนสมณะไง ทำไมชีวิตหรูหรา ก็ทรงชี้แจงว่า_ตามธรรมเนียมทิเบตแล้วไซร้ ยามมีผู้ใดให้ของขวัญนั้น พระองค์ท่านมิอาจปฏิเสธได้ ประทานตอบเเทนได้เพียงแต่ผ้ากาตะ_ผ้าผวยคล้องคอ อันนับถือกันว่าเปนมงคลเปนเกียรติเปนศรีแก่ผู้รับเท่านั้น ทั้งว่าได้มาไม่เอาใช้งานก็พาลจะให้เครื่องกลนาฬิกาเสียหายไปเปล่า
คนก็ว่า_อ้าว_ เห็นสมเด็จยังมี Rolex อีกนี่ สำนักเลขาก็ชี้แจงว่า นาฬิกามีสกุลนี้นั้น ยามจะทรงฉลองข้อพระหัตถ์ จะทรงถอดสายโลหะเลื่อมพรายราคาแพงที่ติดมาแต่โรงงานผลิตออก แล้วทรงร้อยสายราคาถูกเข้าแทนที่ เปนเพื่อการใช้ตามหน้าที่_หน้าที่บอกเวลามิใช่ว่าเปนเครื่องประดับหราหรู
คนก็ว่าอีก_อ้าว_บางเรือนนี่เปนทองคำเลยนา หน้าปัทม์ (ปัด) ก็ลงยาสีครามสวยจัด สำนักก็ว่า อย่าได้ติติงผิวเผิน สีครามน้ำเงินในทางตันตระมหายานเรานี้เปนสีของสวรรค์และจิตวิญญาณมิใช่หรือ ส่วนสีทองก็เปนสีของพื้นพิภพธรณีและการรับรู้ในธาตุความจริงหรือมิใช่? แถมเวลาทรงนาฬิกา ก็ทรงสำรวมหมุนหน้าปัทม์_ปัดเข้าในข้อพระหัตถ์ หาได้ใส่อวดโอ่โชว์เชยแต่อย่างไร
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ แม้สถาบันโซธบี้ส์ จะประมูลนาฬิกาปาเต๊ะรุ่นเดียวกันกับสมเด็จไปได้ในราคาร่วม 15 ล้านบาท หลายปีก่อน สมเด็จก็ทรงเมตตา แสดงข้อธรรมด้วยศัพท์กุญแจสามประการ
“Watches have always fascinated me. Although I particularly appreciate the one I wear most of the time, it never brings me any affections.”
FASCINATE -ในที่นี้อยากจะมีความหมายว่า- ล่อใจ APPRECIATE - ในที่นี้อยากจะมีความหมายว่า - ชมชื่น , ในความหมายอันมีนัยยะของตัวนาฬิกาซึ่งได้มาในโอกาสอันน่าจดจำ - ชมชื่น AFFECTION - ในที่นี้ใคร่อยากจะมีความหมายว่า - กิเลส_ตัณหา !!
“พวกนาฬิกานั้นเปนของล่อใจข้าพเจ้าได้อยู่เสมอ แม้ว่าข้าพเจ้าจะโดยจำเพาะชื่นชมกับเรือนที่หยิบมาใส่บ่อยๆ ทว่ามันก็หาได้นำเอากองตัณหามาสู่ตัวข้าพเจ้าแต่อย่างไร”
ช่างเปนข้อธรรมะอันละเอียดแยบคายไม่หักหน้าใคร สมกับที่ผู้แสดงธรรมบรรยายนี้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพโลกแท้เทียว
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,581 วันที่ 7 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563