ไขปมเศรษฐกิจ เข้าสู่ภาวะเงินฝืด?

07 มิ.ย. 2563 | 00:00 น.

 

ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ เงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน กำลังกลายเป็นที่กังวลว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนพฤษภาคม 2563 ที่ติดลบ 3.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการติดลบตํ่าสุดในรอบกว่า 10 ปี

เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดของเงินเฟ้อที่ติดลบอย่างหนัก ตามถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์มีสาเหตุสำคัญจากราคานํ้ามันที่ยังอยู่ในระดับตํ่า แม้ว่าจะมีการปรับสูงขึ้นหลายครั้งในเดือนนี้ แต่ยังตํ่ากว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า ค่านํ้าประปา และราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพบางรายการ

นอกจากนั้นฐานราคาอาหารสด โดยเฉพาะผักสดในปีที่ผ่านมาค่อนข้างสูง ทำให้ราคาผักสดลดลงตํ่าสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ราคาสินค้าและบริการในหมวด อื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวที่ร้อยละ 0.01

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าเงินเฟ้อในเดือนพ.ค. ที่ติด ลบตํ่าสุดในรอบกว่า 10 ปี ยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดตามนิยามของการดำเนินนโยบายการเงิน เนื่องจากการดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. อิงนิยามภาวะเงินฝืดของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อ ดังนี้

1. อัตราเงินเฟ้อติดลบเป็นเวลานานพอสมควร (prolonged period)

2. อัตราเงินเฟ้อติดลบกระจายในหลายๆ หมวดสินค้าและบริการ

3. การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว (ปกติดูที่ระยะ 5 ปี) ตํ่ากว่าเป้าหมายระยะปานกลางอย่างมีนัย และ

4. อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจติดลบ และอัตราว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้น

 

ไขปมเศรษฐกิจ เข้าสู่ภาวะเงินฝืด?

 

ธปท.ยํ้าว่าหากพิจารณาตามเงื่อนไขดังกล่าว พบว่าอัตราเงินเฟ้อไทยติดลบมาเพียง 3 เดือน แม้ประมาณการล่าสุดของ ธปท. จะให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ติดลบ แต่ยังมองว่าปีหน้าจะกลับเป็นบวกได้ อีกทั้งเป็นการติดลบจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ

 

 

ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 5 ปี อยู่ที่ร้อยละ 1.8 ต่อปี ถือว่าใกล้เคียงกับกึ่งกลางของช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท. ที่ 1-3% ต่อปี จึงยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดตามนิยามของการดำเนินนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ดีธปท.ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้ หากเศรษฐกิจไทยหดตัวลึกหรือฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินมาก โดย ธปท. จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

“ภาวะเงินฝืด” เป็นภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปลดตํ่าลงเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาปานกลางถึงยาวนาน อันเนื่องมาจากความอ่อนแอของอุปสงค์หรือกำลังซื้อในประเทศ ทำให้ผู้ขายต้องยอมลดราคาสินค้าเพื่อที่จะทำให้สามารถขายสินค้า รวมทั้งลดการผลิตสินค้าลง เพราะว่าถ้าผลิตเท่าเดิมก็จะขายได้น้อย เมื่อผู้ประกอบการลดกำลังการผลิตย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อการจ้างงานการลงทุนภาคเอกชน และระบบเศรษฐกิจโดยรวม

 

 

หากดูจากรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ยังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด (deflation risk) แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มตํ่ากว่ากรอบเป้าหมาย โดยมีแนวโน้มติดลบมากกว่าที่ประเมินไว้จากหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ตามแนวโน้มราคานํ้ามันที่ลดลงมากและมาตรการลดภาระค่าไฟฟ้าของภาครัฐ รวมทั้งราคาในหมวดอาหารสดปรับลดลงตามอุปสงค์ในช่วงที่มีมาตรการควบคุมการระบาด

อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าหมวดอื่นส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในระดับตํ่าต่อเนื่อง จากอุปสงค์ในประเทศที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและผลของมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังมีความเสี่ยงด้านตํ่า สอดคล้องกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจและราคานํ้ามันดิบ คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบเป็นผลชั่วคราวจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ และการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลาง ยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย จึงไม่มีความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด (deflation risk) 

 

คอลัมน์ ถอดสูตรคุย โดย บรรทัดเหล็ก

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,581 หน้า 10 วันที่ 7 - 10 มิถุนายน 2563