ธุรกิจสถานพยาบาลเอกชน กลับมาสดใสหลังยุค Covid-19
ฉบับนี้ ผู้เขียนจะขอพูดถึง “แนวโน้มธุรกิจสถานพยาบาล หลังทยอยปลดล็อก Covid-19” ว่า จะเป็นอย่างไร ซึ่งเราพอจะทราบแล้วว่า ธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของ Covid-19 เพราะสถานพยาบาลหลายแห่งจำเป็นต้องปิดตัวลงชั่วคราวตามมาตรการรัฐ เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกเสริมความงาม รวมถึงแผนกรักษาพยาบาลอื่นๆ ที่จำเป็นต้องจำกัดจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาหรือ ผู้คนต้องเลื่อนการรักษาออกไปก่อน ส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งมีจำนวนผู้ป่วยในประเทศลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ดี แม้การแพร่ระบาด Covid-19 มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ เห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลงและอัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ภาครัฐเริ่มทยอยปลดล็อกสถานพยาบาลเอกชนให้กลับมาดำเนินงานได้อีกครั้งแล้ว
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินว่า “ธุรกิจสถานพยาบาลเอกชน” จะเป็นธุรกิจที่สามารถฟื้นตัวได้เร็วแบบ V-Shape (ฟื้นตัวภายใน 3 เดือนหลังพ้นการล็อกดาวน์) สอดคล้องกับปัจจุบันที่ธุรกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว คลินิกต่างๆ เริ่มกลับมาให้บริการได้เหมือนเดิม โดยหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ คาดว่า ผู้ป่วยชาวไทยจะกลับมาใช้บริการทาง การแพทย์ได้ตามปกติ โดยเฉพาะแผนกรักษาโรคที่คนไทยมีอัตราป่วยสูง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน รวมถึงไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้แนวโน้มผู้สูงอายุจะกลับมารับการรักษาพยาบาลมากขึ้น
ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่พึ่งพิงรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ หรือที่เรียกว่าพึ่งพิง Medical Tourism น่าจะทำให้รายได้ลดลง เพราะติดปัญหาผู้ป่วยต่างชาติไม่สามารถเดินทางมารักษาในไทยได้ในสถานการณ์แพร่ระบาด Covid-19 ทั่วโลกยังมีอยู่ ซึ่งจากโครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลเอกชนในไทยพบว่า มีรายได้จาก Medical Tourism 8% ของรายได้โรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด จึงมองว่า รายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศปีนี้ “จะยังไม่ฟื้นตัวดีนัก” เพราะคาดว่า ไทยยังคงมาตรการล็อกดาวน์ต่างประเทศ หรือคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศต่อไป
อย่างไรก็ดี “ฟ้าหลังฝน” ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ย่อมมีโอกาสเสมอ หากมีการคลายล็อกดาวน์เปิดประเทศ รายได้จาก Medical Tourism ในไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากต่างชาติมองว่า ไทยมีมาตรฐานการรักษาอยู่ในระดับสากลและราคาสมเหตุสมผล และยังได้รับการยอมรับว่า สามารถ ควบคุมการระบาดของ Covid-19 ได้เป็นอย่างดี มีความสามารถในการรักษาผู้ป่วย Covid-19 ในไทย มีอัตราการเสียชีวิตเพียง 1.8% ของจำนวนผู้ป่วยต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิตของโลกที่อยู่สูงถึง 6.5%
ทั้งนี้ แม้หลังการระบาดของ Covid-19 ธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนจะมีโอกาสกลับมาสดใสได้อีกครั้ง แต่โรงพยาบาลเอกชนจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ดังต่อไปนี้
1.นำใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา เช่น ใช้หุ่นยนต์ หรือใช้ Telemedicine มาช่วยในการตรวจรักษาผู้ป่วยทางไกลจะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการรักษามากขึ้น สำหรับผู้ป่วยเคสติดตามผล
2.รักษามาตรฐานของโรงพยาบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เข้าใช้บริการในประเทศและต่างประเทศนอกจากจะสามารถ รักษาฐานผู้ป่วยปัจจุบันได้แล้ว ยังสามารถดึงดูดผู้ป่วยใหม่และนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้มากขึ้น
3.อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยต่างชาติที่ผ่านการคัดกรอง Covid-19 แล้ว โดยโรงพยาบาลมีบริการประสานกับทางสถานทูต เพื่อนำผู้ป่วยต่างประเทศที่ประสงค์มาทำการรักษาที่ไทย พร้อมทั้งจัดหาสถานที่พักให้กับผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยในที่ได้รับความอนุญาตจากภาครัฐ เพื่อให้เกิดความสะดวกสำหรับผู้ป่วยต่างชาติ
ผู้เขียนมองว่า หากสถานพยาบาลสามารถปรับตัวได้ตามปัจจัยเหล่านี้ เชื่อได้ว่าไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์(Medical Hub) หลังการระบาดของ Covid-19 ได้ไม่ยาก
โดย : กันย์สินี ศิลปวาณิชย์
ผู้เชี่ยวชาญ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,580 วันที่ 4 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563