ราคาน้ำมันดิบเริ่มพุ่งทะยาน

03 มิ.ย. 2563 | 22:00 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3580 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 4-6 มิ.ย.63

 

ราคาน้ำมันดิบเริ่มพุ่งทะยาน

 

          สถานการณ์การคลี่คลายการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ในหลายประเทศทั่วโลก ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันของโลกเริ่มกลับมาอีกครั้ง จากที่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบ เคยร่วงลงไปถึง 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สะท้อนมาให้เห็นถึงราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปของไทยอย่างน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ ลดลงไปถึงระดับ 15-17 บาทต่อลิตร

          ถึงวันนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมาพุ่งทะยานต่อเนื่อง ราคาน้ำมนดิบเวสต์เท็กซัส ปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 35 ดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบเบรนท์ 38 ดอลลาร์สหรัฐ และน้ำมันดิบดูไบ 38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สะท้อนราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ในประเทศอยู่ที่ราว 17-20 บาทต่อลิตร ซึ่งถือเป็นราคาน้ำมันที่ยังต่ำอยู่เมื่อเทียบกับราคาก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนั้นอยู่ที่ราว 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

          เมื่อมาดูปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นขณะนี้ มีปัจจัยจากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลก ยืนเป็นพื้นฐาน บวกกับปัจจัยกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีแนวโน้มลดลงตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน 2563

 บวกกับกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐอเมริกา ยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง มาสู่ระดับ 318 แท่น จากที่เคยสูงกว่า 600 แท่น

          ทั้งนี้ ในตลาดน้ำมันมองว่า ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก โดยให้จับตาสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลจีนพิจารณาใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ต่อฮ่องกง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการปกครองตนเองของฮ่องกง โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศ จะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจใช้กฎหมายดังกล่าวของจีนในฮ่องกง

          อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงนี้ราคาน้ำมันอาจจะเกิดความผันผวนค่อนข้างมาก เพราะยังมีปัจจัยที่จะมาเป็นตัวแปรในการฉุดราคาน้ำมันดิบไม่ขยับตัวขึ้นไปสูงมาก หลังจากที่รัฐบาลจีนได้งดการประกาศเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีในปี 2563 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี จากปัจจัยการแพร่ระบาดของไววัสโควิด-19 ทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง ที่คาดการณ์ว่าการขยายตัวจีดีพีของจีนในปี 2563 จะอยู่ที่ราว 2-3% ลดลงจาก 6.1% ในปี 2562 ซึ่งจะมีผลต่อความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง

          รวมทั้งรัสเซียมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนมาตรการลดกำลังผลิตตามแผนเดิมในเดือนกรกฎาคมนี้ ให้กลับไปอยู่ในกรอบข้อตกลงที่โอเปกและประเทศพันธมิตร เห็นพ้องกันในช่วงต้นปี หลังความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ตลาดขาดความมั่นใจจนกว่าจะมีข้อตกลงที่แน่ชัด

          ดังนั้น หลังการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของไทย ที่จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวในประเทศได้มากขึ้น ผู้ที่จะเดินทางด้วยรถยนต์ก็คงจะต้องทำใจ เพราะจะไม่ได้เห็นราคาน้ำมันลงไปถึงระดับ 15-17 บาทต่อลิตร คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน