แกงคั่วปูไข่ ใบชะคราม 

เมืองชายฝั่งอ่าวไทย ไล่ไปตั้งแต่ทรายเม็ดแรกที่พ้นแดนโคลนของคลองโคลนแหลมผักเบี้ยไปยันประจวบคีรีขันธ์ ยังมีกับข้าวรสพิเศษเมนูหนึ่ง คือ_แกงคั่ว

แกงคั่วนี้ไม่เหมือนแกงเผ็ด แม้จะสีพรรณวรรณะจะคล้ายคลึง  คนริมเลทำแกงคั่วด้วยว่าคั่วพริกแกงในหัวกะทิให้‘แตกมัน’ เสียก่อน มันจึงเปนแกง ‘คั่ว’ ไม่เปนแกงเผ็ด_แกงแดง

ทีนี้ไม่ว่าจะใส่หอยแห้ง ใส่ปูสด เปนเนื้อหนัง เขาจักเติมรสชาตินวลเปรี้ยวของวัตถุดิบพืชผลลงไปด้วย จะว่ามะขามเปียกมาก็ได้ จะใช้สับปะรดมาก็ดี เมื่อเคี่ยวกะทิแกงให้น้ำมันพริกเเตกลอยหน้า ยามตักเข้าปากแล้วรสชาติจะตัดกันลงตัวพอเหมาะพอเจาะ ทั้งรสของทะเล รสพริกแก รสมันกะทิคั่ว แลรสนวลเปรี้ยวสดชื่นนั้น

อนึ่งเคล็ดลับมีว่ายามจะใส่ของอย่างสับปะรด_กระท้อนใดๆลงแกงนั้น ต้องบีบน้ำของมันทิ้งนอกหม้อเสียบ้างก่อน แล้วจึงใส่เนื้อลงหม้อ ที่ว่างในชิ้นผลไม้จักทำให้ซับน้ำแกงได้รสเสมอกันพอดี

ร้าน “คนกินปลา” ที่คลองวาฬ มีปูชายเลนไข่เต็มกระดองหอมมัน ตำราว่าของมัน มันจะต้องต่อด้วยมัน จึงได้รสสุขสม _มันต่อมัน

อย่ากระนั้นเลยเพิ่มบอดี้แกงเสียด้วยใบชะครามรสเค็มยืนต้นล้มลุกริมเลนเล

แหม่ชะครามนี่ก็ช่างกะไรใส่ไปเปนได้เรื่องเสริมมันไข่ปู รสมันยกกำลังนี้ คนทำเปนเขาตัดมันเสียด้วยเปรี้ยวส้มมะขามและเผ็ดหอมเครื่องแกงคั่วแตกน้ำมัน

ข้าวสวยค้างปีหุงมาร้อนๆวักมันปูในกระดองสองไข่ กินเข้าด้วยน้ำแกงคั่วข้นคลั่ก  

อิ่มข้าวแล้วเท่าไร ก็ยังไม่อยากลุกจากที่นั่งพิร่ำพิไรบำเรอปากต่อไปด้วยใจชื่นในรสโอชา

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,575 วันที่ 17 - 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563