ผู้พิทักษ์สิทธิ์ปะทะ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

13 พ.ค. 2563 | 02:10 น.

คอลัมน์อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,574 หน้า 10 วันที่ 14 - 16 พฤษภาคม 2563

 

การควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ต้องปรบมือชื่นชม “ทีมแพทย์” บุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่อสม. ทีมฝ่ายปกครอง ที่ทำหน้าที่อย่างสุดกำลังในการตะลุยค้นหากลุ่มเสี่ยง ตรวจหาเชื้อ และรักษาจนตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศลดลงเหลือเพียงหลักหน่วย

 

แต่ถ้าเป็นด้านของการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน กับภารกิจ “เราไม่ทิ้งกัน” ก็ต้องปรบมือชื่นชมทีม “ผู้พิทักษ์สิทธิ์” ของกระทรวงการคลังทุกชีวิต ที่ลงพื้นที่ค้นหา “ผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์” หรือประชาชนที่ยื่นขอใช้สิทธิ์ แต่ข้อมูลอาจจะไม่ตรง หรือพิมพ์มาตกหล่น โดยทีมนี้ติดตามไปกรอกข้อมูลให้ถึงบ้านถึงร้าน

 

ผมมีโอกาสติดตามไปทำข่าวการลงพื้นที่ของผู้พิทักษ์สิทธิ์ของธนาคารกรุงไทย นำทีมโดย “ผยง ศรีวณิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย จัดทีมใหญ่พาผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์ของธ.กรุงไทย ลุยทบทวนสิทธิ์ ในหลายจังหวัดด้วยตัวเอง

 

รายที่เข้าไปตรวจสอบถึงบ้าน/ร้าน บางรายถึงกับร้องไห้ นํ้าตาซึม บอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่ากระทรวงการคลังจะส่งเจ้าหน้าที่มาถึงบ้านกันจริงๆ พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณเป็นการใหญ่ บางรายขายก๋วยเตี๋ยวแบบรถเข็น แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง กลุ่มอาชีพตระเวนหาเช้ากินคํ่าไปเรื่อยๆ ทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ก็อาศัยข้อมูลเบอร์โทร.ในลิสต์รายชื่อ โทรนัดหมายให้จอดรอในจุดที่จะเจอกันได้ ก็จอดรอจริง เพื่อตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อย

 

คุณผยงบอกกับผมว่า ทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ของธนาคาร กรุงไทยมีทั้งหมด 4,000 คน มีเป้าหมายในการตรวจสอบสิทธิ์ตามข้อมูลที่ได้รับมอบหมายกว่า 2 แสนรายทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่เขียน) แล้วก็เล่าเบื้องหลังของการตรวจสอบสิทธิ์ ที่เป็นสาเหตุว่าทำไมยื่นขอใช้สิทธิ์แล้วระบบถึงมีปัญหา

 

ผู้พิทักษ์สิทธิ์ปะทะ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

 

เพราะว่าหลายท่านให้ลูกหลาน คนใกล้ชิดลงให้ ให้รายละเอียดอาชีพ การประกอบอาชีพไม่ตรงกับเอกสารที่มีบางกรณีมีการพิมพ์ผิด บางตัวเลขไม่ชัดเจน เพราะการกรอกรายละเอียด ตัวเลขผิดไปตัวหนึ่งก็มีผล เพราะเมื่อไปตรวจก็มีผลในการตรวจสอบถึงข้อมูลในทุกหน่วยทุกหลัก

 

มีอยู่วันหนึ่ง ที่ตามไปทำข่าวที่สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์สุภาพสตรี เล่าเบื้องหลังอุปสรรคการทำงานให้คุณผยง และผู้บริหารกรุงไทยฟัง ผมก็ยืนฟังด้วย ทำให้ทราบว่า เธอเคยตกใจอย่างมาก ขณะที่กำลังทำการตรวจสอบสิทธิ์ประชาชนสมุทรปราการที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ปรากฏว่ามีตำรวจ 2 นาย แต่งกายนอกเครื่องแบบ มาขอตรวจค้น

 

เธอก็ตกใจ แต่ก็แสดงหลักฐานยืนยันคือบัตรแขวนคอ ที่มีโลโกผู้พิทักษ์สิทธิ์ และตราที่รับรองของกระทรวงการคลัง พร้อมกับบัตรพนักงานของธนาคารกรุงไทย ก็ใช้เวลากันพอสมควร กว่าจะพูดคุยเชื่อว่าเธอเป็นผู้พิทักษ์สิทธิ์ตัวจริง ไม่ใช่มิจฉาชีพ

 

คุณผยง ยืนยันว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ กระทรวงการคลัง ได้ออกหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วเช่นกัน ว่าจะมีผู้พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ทำหน้าที่ ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยอำนวยความสะดวกกันและกัน

 

ว่าแล้วกรรมการผู้จัดการกรุงไทย ก็ได้ให้กำลังใจผู้พิทักษ์สิทธิ์ท่านนั้น และท่านอื่น บอกว่าถ้ามีปัญหาอุปสรรคอะไร ขอให้รีบแจ้งมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ