‘พิษโควิด’ร้ายกว่าที่คิด เยียวยาก๊อก 2 แค่ประคองเศรษฐกิจ

คอลัมน์ล้วงตับ โดย จิ้งจกตัวใหญ่

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,573 หน้า 5 วันที่ 10 - 13 พฤษภาคม 2563

จ๊อก จ๊อก จ๊อก...จิ้งจกตัวใหญ่วันนี้เสียงอ่อยลง เพราะต้องยอมรับจริงๆ ว่าสถานการ์โควิดในไทย ที่พวกเราทุกคนในชาติร่วมกันฝ่าวิบัติภัยในครั้งนี้นั้น มันร้ายแรงและหนักหน่วงกว่าที่คิด

จริงอยู่ว่าช่วงหลายสิบวันที่ผ่านมานั้น ตัวเลขการติดเชื้อลดน้อยลงอย่างมาก ลดเหลือตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง แต่ถึงแม้ว่าจำนวนการแพร่ระบาดการติดเชื้อโควิด-19 จะเป็นที่พึงพอใจ เพราะรัฐบาลเข้าควบคุมอย่างจริงจังก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พังไปต่อหน้าต่อตา คือ “เศรษฐกิจ”

วันนี้...คนไทยหลายคนได้รับการเยียวยา ได้รับการดูแลจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เยียวยา 5,000 บาท ในโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” ลดค่านํ้า ค่าไฟ ช่วยเหลือเกษตรกร อันนี้เป็นเรื่องที่ดี ที่จิ้งจกตัวใหญ่ขอเชียร์รัฐบาล เพราะท่านได้มองเห็นความเป็นอยู่ที่ลำบากมากของพี่น้องประชาชนท่าม กลางวิกฤตินี้

แต่ก็ยังมีประชาชนอีกหลายล้านคน ที่ยังเดือดร้อนหนัก ตกงาน ขายของไม่ได้ เพราะ “โควิด-19” เป็นพายุร้ายที่พัดผ่านมาแล้วเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้ง คน และ ภาคธุรกิจ

จริงอยู่ รัฐบาลได้หาวิธีการต่างๆ ที่จะกู้วิกฤติโควิดให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ทั้งเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ถึงจำเป็นต้องออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาอัดฉีด เยียวยา ให้กับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อต่อลมหายใจให้กับพี่น้องร่วมชาติของเรา ยอมรับว่าเป็นการกู้เงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์

แต่อย่าลืมว่า... การแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น วันนี้ จิ้งจกตัวใหญ่คิด ว่า ทุกบาททุกสตางค์จะต้องคำนวณอย่างรอบคอบ เพราะต้องบอกว่า วงเงินก้อนนี้มีจำกัด บอกได้ว่าเป็นงบที่มีความสำคัญอย่างมาก และเราไม่สามารถที่จะไปกู้ก่อหนี้เป็นภาระแผ่นดินไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นการวางแผนกระตุ้น เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจในก๊อกที่ 2 นี้ ต้องใช้ทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่าและรอบคอบ

ในวงเงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น จิ้งจกตัวใหญ่ขอเป็นตัวกลางขยายต่อให้แฟนๆ คอลัมน์ได้เข้าใจว่า รัฐบาลเขาจะแบ่งสัดส่วนอย่างไรในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ก้อนแรก 6 แสนล้านบาท รัฐบาลได้นำเงินจำนวนนี้เยียวยาส่งตรงถึงกระเป๋าพี่น้องคนไทยผ่านโครงการเยียวยาต่างๆ ทั้งแรงงานที่ตกงาน กลุ่มอาชีพิสระ เกษตรกร ซึ่งว่ากันกลมๆ เงินก้อนนี้รัฐบาลอัดฉีดดูแลพี่น้องเรามากกว่า 40 ล้านคน

ก้อนที่สอง 4 แสนล้าน เงินก้อนนี้รัฐบาลมีแผนที่จะใช้ในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการออกมาตรการต่างๆ ต่อลมหายใจภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ เอสเอ็มอี ให้สามารถขับเคลื่อน และสามารถจ้างงานต่อไปได้ ซึ่งจำนวน 4 แสนล้านบาทนี้ จะเน้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจขึ้นมา ทั้งเรื่องการทำเกษตร ทั้งเกษตรดั้งเดิม, เกษตรสมัยใหม่,  เกษตรอินทรีย์, การพัฒนาแหล่งนํ้าและโครงสร้างพื้นฐานในชนบท เพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเดินหน้าไปได้

พร้อมทั้งใช้เวลานี้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนในแต่ละจังหวัด เพราะเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ จะส่งผลทำให้เกิดการท่องเที่ยวยั่งยืนได้ นอกจากนั้นแล้วยังควรพัฒนาแพลตฟอร์มด้านไอที ทั้งด้านดิจิทัล การจัดส่งสินค้า และโลจิสติกส์ และการฝึกอบรม พัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น

เป้าหมายคือ ในเงินก้อนที่สองนี้ รัฐบาลเข้าต้องการให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เศรษฐกิจชุมชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จิ้งจกตัวใหญ่ขอยกย่องอย่างยิ่ง เพราะการทำเช่นนี้ คือ การสร้างความยั่งยืนไม่แบมือขอเงินอย่างเดียว

อันที่จริง โควิด-19 ทุกวันนี้พี่น้องคนไทยเราไม่ได้กลัวตายกับโรคนี้เลย ทั้งๆ ที่เขาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการ #อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่เขากลัว “อดตาย” มากกว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ในก้อน 4 แสนล้านบาทนี้ ที่ “ขุนพลลุงตู่” ทางด้านเศรษฐกิจทั้งหลาย จะช่วยคิดและกันงบประมาณไว้สักครึ่งหนึ่งได้มั้ยสำหรับไว้ใช้ยามฉุกเฉิน...

เพราะต้องยอมรับจริงว่า ถึงแม้จะมีเงินมากมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อย่าลืมว่าครั้งนี้ ทุกคนในชาติกระทบหมด บอกตรงๆ ว่า “เยียวยาก๊อกสอง แค่ประคองเศรษฐกิจ” เท่านั้นจริงๆ เพราะฉะนั้นน่าจะเตรียมงบไว้เปิด “โรงทาน” หรืออะไรก็แล้วแต่ในการช่วยเหลือพี่น้อง

หากเศรษฐกิจไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วนัก อย่างน้อยๆ พี่น้องเราไม่มีเงินในกระเป๋า แต่รัฐบาลก็ยังมี “ข้าว” ให้เขากิน เขาจะได้ไม่ต้องกลัวอดตาย...จ๊อก จ๊อก จ๊อก