รัสเซียยังไหวไหม? นายกฯติดโควิด-ยอดทะลุแสน

อาการหนักกว่าที่คาด สัปดาห์นี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในแดนหมีขาวยังคงพุ่งไม่หยุด เพิ่มขึ้นวันละไม่ต่ำกว่า 5,000 คนทุกวันอย่างต่อเนื่อง จนยอดสะสมทะลุเหยียบหลักแสนคนแล้วเมื่อกลางสัปดาห์ กลายเป็นอันดับที่ 8 ของโลกที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด

ซ้ำร้าย ยังมีข่าวที่น่าตกใจประจำสัปดาห์ เมื่อนายกรัฐมนตรีมือใหม่ของรัสเซีย นายมิคาอิล มิชูสติน ออกมาประกาศว่าเขาเองก็เพิ่งได้รับผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 เพียงหนึ่งวันหลังการครบรอบ 100 วันที่เข้ามานั่งในเก้าอี้นี้ กลายเป็นผู้นำโลกคนที่ 2 ที่มีรายงานว่าติดเชื้อโควิดต่อจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤ

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณตอนนี้ อาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้”

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินกล่าวตอบนายมิชูสตินหลังจากที่เขารายงานข่าวการติดเชื้อของตัวเองผ่านทางการประชุมออนไลน์ สะท้อนความไม่แน่นอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสภายในรัสเซียได้เป็นอย่างดี 

จากตอนแรกที่รัฐบาลรัสเซียขยันขันแข็งออกนโยบายอย่างเด็ดขาด รีบปิดชายแดน รีบควบคุมคนเข้าออกประเทศ สั่งหยุดงานทั่วประเทศโดยให้เงินเดือนเต็ม หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างฉับไวมีประสิทธิภาพ แต่จนถึงตอนนี้ผลลัพธ์ดูจะไม่เป็นดังหวัง ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่ไปถึงจุดที่พีคที่สุด จนต้องประกาศมาตรการเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงขยายวันหยุดออกไปอีกถึงวันที่ 11 พฤษภาคมนี้

ถึงอย่างนั้น คนทำงานยังเชื่อว่ารัสเซีย “ยังไหว” กับสถานการณ์นี้ พยายามบอกประชาชนในประเทศว่าตัวเลขที่สูงขึ้นนั้นเป็นผลมาจากมาตรการการการตรวจที่เข้มข้น ตามตรวจทุกคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น จำนวนชุดตรวจก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะรัสเซียสามารถผลิตเองได้และมากพอที่จะส่งออกไปให้อีก 20 ประเทศคู่ค้าได้อีก พยายามย้ำชัดๆ ว่าราว 40% ของผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ คือกลุ่มคนที่ยังไม่มีอาการของโรคแต่อย่างใด ยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่ารัฐบาลรัสเซียไม่ได้ปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อ รวมทั้งผลตรวจที่ออกมาก็ได้มาตรฐานสากลเนื่องจากรัสเซียทำงานร่วมกับทีมงานชาวจีนโดยตลอดเพื่อคอยเช็คประสิทธิภาพของชุดตรวจ
 

ปัญหาหลักของรัสเซียในขณะนี้ที่น่าจับตาคือปริมาณผู้ป่วยที่กระจุกอยู่ในกรุงมอสโกและเมืองข้างเคียงที่คิดเป็นปริมาณมากกว่า 50% ของยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ ต้องคอยระวังไม่ให้ยอดผู้ป่วยสะสมมากเกินไปจนเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์รับรองไม่พอ แม้ในกรุงมอสโกจะเปิดโรงพยาบาลสนามที่สร้างขึ้นมารับมือเฉพาะไปแล้ว ก็ยังมีลุ้นว่าจะรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมดหรือไม่

ในส่วนอื่นๆ ของประเทศ บางภูมิภาคยังคงทำตัวสบายๆ ต่างจากบรรยากาศในเมืองหลวงอย่างกับหนังคนละม้วน เนื่องจากในสถานการณ์ครั้งนี้รัฐบาลรัสเซียให้อำนาจทีมบริหารแต่ละภูมิภาคจัดสรรมาตรการรับมือกันเองได้อย่างอิสระ ทำให้ในบางภูมิภาคยังมีผู้ป่วยสะสมอยู่ในหลักสิบหรือหลักร้อยต้นๆ ยังไม่ได้ประกาศล็อคดาวน์อย่างจริงจังเท่าไหร่นัก ผู้คนยังออกมาใช้ชีวิตเหมือนปกติ ต่างจากภาพในเมืองหลวงที่ประชาชนถูกสั่งอย่างจริงจังให้อยู่กับบ้าน ต้องคอยขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งที่จะออกไปไหน ทำอะไร รวมทั้งอาจถูกปรับหากฝ่าฝืน

สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นคล้ายๆ กันทั่วประเทศในตอนนี้ คือการควบคุมการเดินทางของผู้คนระหว่างภูมิภาค เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ เกิดจากผู้คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากมอสโกหรือเมืองใกล้เคียงที่มีการแพร่ระบาดหนัก ทำให้บางเมืองต้องออกกฎบังคับกักตัวดูอาการผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับเข้ามาอย่างจริงจัง และเริ่มออกมาตรการควบคุมรถยนต์เข้าออกระหว่างภูมิภาค เนื่องจากช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี มักเป็นช่วงเวลาที่ชาวรัสเซียนิยมไปพักผ่อนหย่อนใจที่บ้านพักอากาศส่วนตัวนอกเมือง หรือที่เรียกกันว่า “ดาช่า” (Дача)

การคาดการณ์ล่าสุดจากสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ คาดว่ามาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เคร่งครัดในรัสเซียน่าจะเริ่มคลี่คลายลงได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ หัวหน้าหน่วยงานสิทธิผู้บริโภคและสวัสดิการมนุษย์ของรัสเซียกล่าวระหว่างการสัมภาษณ์ในสัปดาห์นี้ย้ำว่าจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดสงบลงขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากประชาชนชาวรัสเซียทั่วประเทศ พร้อมกับทิ้งท้ายย้ำเตือนกันอีกสักนิดว่า อย่าลืมล้างมือ เว้นระยะห่างกับสังคม กินอาหารที่มีประโยชน์ และเสริมวิตามินซีเพื่อสร้างเสริมสุขภาพกันด้วย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสที่ดีให้กับร่างกาย

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **

Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย