‘ลุงตู่’สู้โควิดรึ? ข้าไม่ให้-ไม่คืนงบ

คอลัมน์ ล้วงตับ โดย จิ้งจกตัวใหญ๋

หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,567 วันที่ 19-22 เมษายน 2563

จ๊อก จ๊อก จ๊อก จิ้งจกตัวใหญ่มาแล้ว... ครั้งนี้เหลืออดพูดไม่ได้จริง ๆ เหลืออดกับบรรดานักการเมืองเหลือเกิน ณ วันนี้คนไทยทั้งชาติมีสถานะชีวิตที่เปรียบได้ว่าเหมือนแขวนอยู่บนเส้นดาย ท่ามกลางวิบัติภัยเชื้อไวรัสมรณะโควิด-19 แต่บรรดานักการเมืองทั้งหลาย ยังสนใจแต่ผลประโยชน์ตักตวงเข้าประเป๋าตัวเองและพวกพ้องอย่างไร้สำนึกต่อชาติ และคนในชาติ

พลันที่ ครม.ไฟเขียวสั่งทุกกระทรวงหั่นงบตัวเองทุกกระทรวง 20% เป้าหมายรวบรวมเงินไว้ที่งบกลาง ให้ได้ 6.6 แสนล้านบาท เพื่อใช้เยียวยาวิบัติภัยโควิด จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องดีมากๆ เพราะจะได้นำเงินที่ยึดคืนนั้นมาบริหารประเทศในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ แต่...ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะหลังจากมีมติหั่นงบทุกกระทรวงนั้น “ลุงตู่” เรียกงบคืน แต่ละกระทรวงดันหวงไม่ยอมให้ “ลุงตู่” แลัวทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

มา มา มา...จิ้งจกตัวใหญ่จะเล่าให้ฟัง ชนวนเหตุที่ให้เร่งรัดการ เบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ได้นั้น เนื่องจากกรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมการเบิกจ่ายแล้ว ผ่อนปรนการจัดซื้อจัดจ้างที่สามารถดำเนินการได้ก่อนก็ให้เร่งดำเนินการ รวมถึงเตรียมพร้อมเร่งลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหลังจากงบประมาณปี 2563 มีผลบังคับใช้ เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ที่มีความล่าช้ากว่าปกติราว 4-5 เดือนนั้น เป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น

เพราะฉะนั้นหน่วยงานต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมที่จะเริ่มเปิดประมูลงานในช่วงนี้ โดยสามารถที่จะทำเงื่อนไขการเปิดประมูลเพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า และเมื่องบฯ ผ่านก็ให้เริ่มกระบวนการประมูลและลงนามสัญญาทันที ซึ่งจะช่วยให้ระยะเวลาการเบิกจ่ายเร็วขึ้นได้อีกประมาณ 15 วัน หรือ 1 เดือน นั่นหมายความว่า สามารถตั้งเรื่องเซ็นอะไรทุกอย่างได้ แล้วก็ไปจ่ายเงินกันที่หลังได้

ผลตรงนั้นก็คือบรรดานักการเมือง ที่ “กระทรวงหูกวาง” มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับโครงการต่างๆ
ทั้งๆ ที่การประกวดยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งใช้งบประมาณกันไปแล้วกว่า 45% ของงบกระทรวง ซึ่งงบกระทรวงหูกวางนั้น มีมากถึง 1.78 แสนล้านบาท

ยังๆ ยังมีอีก “กระทรวงย่านสถาบันทรวงอก” มีการเซ็นสัญญาล่วงหน้า สัญญาจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้าไปแล้วใช้ไปแล้วกว่า 35% ของงบกระทรวง ซึ่งงบกระทรวงย่านสถาบันทรวงอกนั้น มีงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท

ยังๆๆๆ ยังไม่หมด อีกกระทรวงหนึ่งซึ่งเป็นพี่ใหญ่เสียด้วย คือ “กระทรวงคลองหลอด” ซึ่งกระทรวงนี้ไม่น้อย หน้าเลย เซ็นสัญญาล่วงหน้า กับโครงการต่างๆ สัญญาจัดซื้อจัด จ้างล่วงหน้าไปแล้วใช้ไปแล้วร่วม 48% ของบประมาณกระทรวง ซึ่งงบกระทรวงคลองหลอดมีขุมทรัพย์มากเหมือนกันอยู่ที่ 2.33 แสนล้านบาท

ท่านๆ ลองกดเครื่องคิดเลขกันดูเองว่าเร่งรัดรีบใช้เงินกันไปแล้วเท่าไหร่ บอกได้คำเดียวว่า “มหาศาล”

การที่หลายกระทรวงรีบเร่งรัดทำสัญญาเบิกจ่าย มีหรือ? ทุกโครงการที่จะไม่มีมี “เงินปากถุง” ตั้งแต่ต้นนํ้ายันปลายนํ้า โดยเฉพาะตัวเป้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จิ้งจกตัวใหญ่ได้เคยแฉไว้นั้น ส่วนใหญ่มักช้อนเงินปากถุงทุกโปรเจ็กต์ประมาณ 25-30% เสมอ ...จ๊อก จ๊อก จ๊อก มันเป็นหลักสูตรตายตัวของพวก “อีแร้งทางการเมือง” ในเมื่อผลประโยชน์มันมากเช่นนี้ใครจะยอมคืนให้ “ลุงตู่” ง่ายๆ การหั่นงบทุกกระทรวงคืน 20% นั้น มันเลยยาก เพราะไม่ยอมคืน อย่าว่าแต่กระทรวงเลย ...บรรดาพวกรัฐวิสาหกิจก็เก็บ เป็นอีแร้งเหมือนกัน ใช้วิธีการสบช่วงทำชั่วเช่นเดียวกัน

ท่านๆ ทั้งหลายจิ้งจกตัวใหญ่ขอร้อง... ณ เวลานี้หยุดเล่นการเมือง หยุดแสวงหาแต่ผลประโยชน์สักครั้งเถิดหนา ...เพราะคนไทยในทุกวันนี้จะสิ้นลมอยู่แล้ว เพราะพิษโควิดทำลายเศรษฐกิจในทุกระดับชั้น จะรวยจะจนกระทบกันหมด ไม่ได้ตายเพราะโรคร้ายก็อาจจะตายเพราะ “อดตาย” ก็เป็นได้

ถ้าจิ้งจกตัวใหญ่ขอพรได้ 1 ข้อ จะข้อให้ “พวกอีแร้งทั้งหลายหยุดช่วยคืนเงินให้ลุงตู่ด้วย คนไทยเดือดร้อนหนัก” แต่ถ้าหากไม่ยอมคืน ก็ขอเชียร์ให้ “ลุงตู่” กำจัดให้ราบเป็นหน้ากอง แต่ถ้าจะให้ช่วยสาวไส้พวกอีแร้ง...จิ้งจกตัวใหญ่พร้อมที่จะเปิดหน้าชกแฉทุกกระบวนการ เอาให้ตายกันไปข้าง?

จับตาดูต่อไป ...หากไม่ยอมคืนงบเพราะเก็บเงินเข้าพอร์ตไม่ได้ตามเป้า จะแฉความเลวร้ายเส้นทางหากินทุกโครงการเลยคอยดู...