กำลังใจแด่... หมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

16 เม.ย. 2563 | 05:30 น.

คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3566 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 16-18 เม.ย.63 โดย... ประพันธุ์ คูณมี

 

          ครั้งหนึ่ง ในช่วงเวลาของชีวิตและการทำงาน ผมได้มีโอกาสรู้จักและพบปะพูดคุยกับคุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน น่าจะเป็นเวลานานมาแล้วมากกว่า 10 ปี โดยเคยพาลูกชายไปพบและปรึกษาคุณหมอ ในฐานะจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เพื่อขอคำแนะนำในการปฏิบัติตัว แก้ไขปัญหาทางความคิดและสุขภาพของเด็กในช่วงวัย ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำที่ดี 

          ผมเองก็รู้สึกประทับใจในบุคคลิก และการให้ข้อคิดเห็น คำแนะนำจากคุณหมอ โดยช่วงเวลาดังกล่าวผมเองก็ยังมิได้ทราบว่า คุณหมอเป็นคนที่มีพื้นเพมาจากภาคอีสาน เช่นเดียวกันกับผม หลังจากนั้นมาก็ได้ติดตามการทำงานของคุณหมอ ผ่านบทบาทในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นระยะๆ ทั้งในฐานะที่ผมเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

          เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก จนเกิดภาวะวิกฤติร้ายแรงที่ผู้คนล้มตายเรือนแสน ติดเชื้อหลายล้านคน ร่วม 210 ประเทศ ทั่วโลก รัฐบาลไทยจำเป็นต้องประกาศให้เป็นปัญหาวาระแห่งชาติ ที่คนไทยทั้งประเทศ ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สามัคคีกันแก้ไขปัญหาฝ่าฟันวิกฤติที่ร้ายแรงนี้ไปด้วยกันให้ได้ เพื่อรักษาชีวิตคนไทย รักษาประเทศไทย ให้รอดพ้นจากปัญหาดังกล่าว 

          ด้วยความร้ายแรงจนกลายเป็นสงครามโรคเป็นเหตุวิกฤติร้ายแรงและเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-30 เมษายน 2563 และเพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรี จึงได้มีคำสั่งที่ 5/2563 จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งก็เรียกชื่อโดยย่อว่า "ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19" หรือ "ศบค." ที่เรารู้จักกันดีในวันนี้

          ศบค. มีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ คณะรัฐมนตรีทั้งหมด เป็นกรรมการ และข้าราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นกรรมการ เป็นผู้ประสานงาน และเลขาธิการ ซึ่งในที่ประชุม ศบค. เมื่อ 26 มีค.63 ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษก ศบค. 

          นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา สถานการณ์การรับมือกับปัญหาวิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาลที่เป๋ไปเป๋มาในช่วงต้น จึงเริ่มมีศูนย์อำนวยการ ที่มีบทบาทชัดเจน เข้มแข็ง มีพลัง เพียบพร้อมด้วยบุคคลากร ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความรู้ความสามารถ ทำงานแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และมีการสื่อสารกับประชาชนได้เป็นอย่างดี 

          ซึ่งหนึ่งในบุคคลากรที่สำคัญ ผู้ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าที่กุมหัวใจของงานและภารกิจของ ศบค.มารายงานสื่อสารกับประชาชนในทุกๆ วันก็คือ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกของ ศบค. นั่นเอง ซึ่งด้วยบทบาทและลีลาการแถลงข่าว การพูดอธิบาย และการนำเสนอข้อมูลต่อประชาชน สื่อมวลชน ทำให้คุณหมอกลายเป็นขวัญใจของมหาชนเพียงชั่วข้ามคืน มีแฟนคลับเฝ้ารอการแถลงข่าวของคุณหมอด้วยความสนใจในเวลาช่วงเที่ยงถึงบ่ายแก่ๆ ทุกสายตาต่างเฝ้าจับตามองและคอยคุณหมอทางหน้าจอ ไม่ต่างจากแฟนมินิซิรี่ส์หนังเกาหลี

          การตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและจัดตั้ง ศบค. ของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดและถูกต้อง ภายใต้สถานการณ์วิกฤติและอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ อันมีผลต่อความเป็นความตายกับชีวิตประชาชน และอนาคตของประเทศชาติอย่างยิ่ง หากการตัดสินใจของผู้นำประเทศ ณ เวลานั้นผิดพลาด บ้านเมืองของเราคงไม่เป็นอย่างที่เห็น ผลของสถานการณ์ไวรัสโควิดคงไม่ดีขึ้นดังปรากฎในปัจจุบัน ประเทศไทย จึงจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่รับมือกับสถานการณ์ได้ดี เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ประเทศมหาอำนาจจากทั่วโลกล้วนชื่นชม องค์กรอนามัยโลกก็ยกย่อง

          นอกจากการตัดสินใจที่ถูกต้องอันเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จดังกล่าวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้การปฏิบัติภารกิจของ ศบค.ประสบผลสำเร็จและได้รับคำชื่นชมจากประชาชนทั้งประเทศ คือการที่นายกรัฐมนตรี ได้เลือกเอานายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ให้มาทำหน้าที่โฆษกของ ศบค. นั่นเอง ซึ่งก็เห็นผลว่า การทำหน้าที่ของคุณหมอในฐานะโฆษก ภายใต้สถานการณ์วิกฤติของบ้านเมือง ไม่ได้ทำให้รัฐบาลและประชาชนผิดหวัง 

          คุณหมอได้ทำหน้าที่โฆษก ศบค.ได้ดีเกินคาด แถลงข่าวครบถ้วนในหน้าที่ สื่อสารกับประชาชนได้เนื้อหาสาระที่เข้าใจง่าย ท่วงทำนองการพูดที่ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงราบเรียบ สุภาพ น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง บุคคลิกก็ดูดีน่าเชื่อถือ อธิบายแต่ละประเด็นเพียบพร้อมด้วยข้อมูล ตัวเลข สถิติ แถมมีภาพกราฟฟิคประกอบกับบทวิเคราะห์ ที่มีเหตุผลเป็นวิทยาศาสตร์ ตอบคำถามได้ตรงและให้ข้อมูลครบ ผู้ถามฟังแล้วเข้าใจ ผู้รับฟังการแถลงข่าว สามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการพิจารณา ในส่วนงานของตนที่เกี่ยวข้องได้ 

          ที่สำคัญประชาชนฟังหมอแถลงและอธิบายแล้ว ต่างอบอุ่นในจิตใจและมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ ศบค. และบุคคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขของไทย เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล และเชื่อมั่นว่าเราจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยกันแน่นอน ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ และยินดีให้ความร่วมมือในทุกมาตรการของรัฐบาล  

          ขณะเดียวกันก็ทำให้นายกฯ เบาแรงไปมาก พูดน้อยลง ตอบคำถามนักข่าวน้อยลง และยังได้เห็นท่วงทำนองในการพูดหรือแถลงข่าวของนายกฯ พูดช้าขึ้น ออกเสียงถูกอักขระ พยัญชนะ ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ลิ้นรัวๆเร็วๆ เหมือนเดิม อันเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น เหมาะกับบุคลิกภาพผู้นำ

          ไวรัสโควิด-19 เป็นเชื้อโรคมรณะ เป็นศัตรูของคนทั้งโลก โดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา สีผิว หรือลัทธิการปกครอง และในเมืองไทยมันก็ไม่ได้เลือก ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เผด็จการหรือประชาธิปไตย สีไหนๆมันไม่เลือก ติดเชื้อก็ป่วยเจ็บตายได้เหมือนกัน การทำหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อแก้วิกฤติ การปฏิบัติภารกิจของ ศบค.เพื่อเอาชนะไวรัสโควิด ก็ดี การทำหน้าของโฆษก ศบค. เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจกับประชาชน สร้างความร่วมมือกับทุกคนต่อมาตรการของรัฐบาล ล้วนมีผลต่อทุกชีวิตจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องให้กำลังใจรัฐบาล ให้กำลังใจ ศบค.และให้กำลังใจการทำหน้าที่ของคุณหมอทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ครับ

          ความสำเร็จของรัฐบาลในการต้านไวรัสโควิด-19 คือชัยชนะร่วมกันของประชาชนไทยทุกคน!! 

          ผมคนหนึ่งขอเป็นกองเชียร์คุณหมอทวีศิลป์ ที่รักหมอ เชียร์และให้กำลังใจหมอ เพราะหมอทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนครับ