‘อีแร้งแตกรัง’ดับฝัน โกย1,500ล้าน จิกกิน‘นํ้ายา-ชุดตรวจโควิด’

05 เม.ย. 2563 | 03:17 น.

คอลัมน์ ล้วงตับ โดย จิ้งจกตัวใหญ่

หน้า 7 หนังสือพิมพฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,563 วันที่ 5-8 เมษายน 2563

 

จ๊อก จ๊อก จ๊อก... เหลืออดเหลือทนกับกระทรวงที่อยู่ใกล้ๆ กับสถาบันทรวงอก ย่านติวานนท์ บังเอิญวันนั้นจิ้งจกตัวใหญ่ดันไปเกาะอยู่แถวนั้นพอดี เลยไปได้ยินคนหลายคนมาบ่นอุ๊บกันเลยตอนนี้ว่าจิ้งจกตัวใหญ่มีเพื่อนเพิ่ม ตัวที่ 2 ตัวที่ 3 อยู่กระจายไปทั่วเต็มไปหมดที่กระทรวงแห่งนี้ ออกคำสั่งห้ามระบบการตรวจแบบง่าย ที่สุ่มตรวจคนได้ ประเภท Drive thru ให้ปิดหมดเลยทุกโรงพยาบาล อ้างว่าไม่ได้มาตรฐานแล้วเป็นไงล่ะทีนี้ ค่าใช้จ่ายตรวจโควิด เวลานี้ ปาเข้าไป 7,000 บาท ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นจิ้งจกตัวใหญ่ตั้งคำถามดังๆ ในใจว่า ทำไมต้องสั่งห้าม?

 

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จิ้งจกตัวใหญ่เลยเดินไปทั่วสอดส่องทุกสำนักที่อยู่ในบริเวณกระทรวงย่านติวานนท์ แต่ไปสะดุดถึงกับต้องหยุดฟังอยู่นาน ที่สำนักหนึ่งที่ขึ้นชื่อมีผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งชื่อย่อ 2 ตัวอักษร ด้วยความที่ว่าสำนักนี้เจ้าสำนักไม่ค่อยรู้เรื่องกฎเกณฑ์กติกาหรือการมอบหมายสิทธิต่างๆ จึงมอบให้เบอร์ 2 ของเจ้าสำนักนี้เป็นผู้ควบคุมและดูแลทั้งหมดแทน จึงเป็นช่องว่างสำคัญเปิดสามารถเปิดทางให้ผู้มากบารมีทั้งหลายสามารถชักใยสั่งการตักตวงผลประโยชน์ได้อย่างสบายใจ

 

แต่เรื่องที่จิ้งจกตัวใหญ่จะแฉนั้น ก็คือ มีฝูงอีแร้งฝูงหนึ่งที่ไร้สำนึกอย่างมาก จ้องหากินบนความเป็นความตายของพี่น้องคนไทยในสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19 โดยมีสมุนอีแร้งตัวหนึ่งเป็นที่ปรึกษาใหญ่ ชื่อ นาย ทอให้กับจ่าฝูงอีแร้ง ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ชื่อหมอมนต์ดำส่งไปคุมเกมในสำนักงานสำคัญนั้นในการออกใบอนุญาต หรืออนุมัติในการตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ สั่งการให้เบอร์ 2 ของสำนักชื่อย่อ 2 ตัวอักษร ให้ตั้งเรื่องวางแผนว่าที่จะนำเครื่องตรวจเชื้อไวรัสแบบ PCR-Polymerase Chain Reaction ซึ่งเป็นกระบวนการในการสังเคราะห์ชิ้นส่วนของดีเอ็นเอ (DNA) ของสิ่งมีชีวิตในหลอดทดลอง เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อโรคจากพันธุกรรม การผันแปรทางพันธุกรรม และการ กลายพันธุ์ของยีน แผนของฝูงอีแร้งกลุ่มนี้ไปวางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว ว่าจะเอาเครื่องตรวจเชื้อไวรัสแบบ PCR ประเภทน็อคดาวน์ ประมาณ 16, 19, 20, 30 Sample ที่ไปวางไว้ทุกตัวต่อ 1 ครั้งประจำตำบล และบางชุมชน ซึ่งเครื่องตรวจ PCR จะเป็นเครื่องตรวจแบบพกพาราคาชุดละ 2-3 แสนบาท ลองคิดง่ายๆ ตำบลทั้งหมดมีกว่า 5 พันชุมชน เอาลงทีเดียว พรึบทั้งหมดโครงการนี้มี 5,000 ตำบล ลงไปทั่วประเทศ เขาจะได้กินค่าหัวคิว 800 ล้านบาท

‘อีแร้งแตกรัง’ดับฝัน  โกย1,500ล้าน  จิกกิน‘นํ้ายา-ชุดตรวจโควิด’

แหม่...เครื่องตัวเดียวผลประโยชน์ยังไม่พอ เพราะนอกจากจะมีเครื่องตรวจแล้ว ยังต้องมีนํ้ายาอีกตัวนึงทั้ง Sample, Rabbit paste และ PCR เขาใช้นํ้ายาตัวนี้ผสมด้วย ซึ่งนํ้ายาจะผันแปรตามจำนวนผู้ใช้ โดยต้นทุนนํ้ายามีแค่ 200-300 บาท ต่อ 1 ครั้ง แต่จิ้งจกตัวใหญ่เดินไปสำรวจพบว่า ตอนนี้ราคาต้นทุนนํ้ายาพุงขึ้นเท่าตัวราคาขยับไปอยู่ที่ 400-500 บาท เพราะนํ้ายาขาด หรือถูกทำให้ถูกขาด?


 

ตามจิ้งจกให้ทันนะ... ต้นทุนนํ้ายาจะผันแปรยังไง? ถ้าประชาชน 1 ล้านคนไปใช้นํ้ายา สมมุติที่ 300 บาท ก็เท่ากับว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 300 ล้าน ถ้าจำนวนประชาชน 2 ล้านคน ก็จะได้ 400 ล้าน แต่ต้นทุนจริงๆ แค่ไม่ถึงล้าน ถ้านํ้ายาขึ้นไป 400 บาทต่อ 1 ครั้ง นั่นหมายความว่า 1 ล้านคนคือ 400 ล้าน 2 ล้านคนคือ 800 ล้าน ถ้า 3 ล้านคน 1,200 ล้านบาท

 

โปรแกรมนํ้ายานี้จะกินหัวคิวมากกว่าโปรเจคเครื่อง เพราะนํ้ายาจะผกผันตามปริมาณ ซึ่งอีแร้งกลุ่มนี้ประเมินว่าควรจะตรวจทั้งหมด สำหรับไวรัสโควิด 6 ล้านคน จะเท่ากับ 1,800 ล้าน อีแร้งขอ 30% ค่าหัวคิวก็จะเท่ากับกว่า 500 ล้าน จิ้งจกตัวใหญ่แฉได้เลยว่า คนที่ทำชื่อหมอมนต์ดำซึ่งเป็นจ่าฝูง อีแร้งกลุ่มนี้

 

ยัง ยังไม่หมด...อีแร้งกลุ่มนี้ยังไม่สาแก่ใจ รุมจิกกินผลประโยชน์บนความเป็นความตายของคนในชาติด้วยกันเองต่ออีก เพราะว่าในบรรดาคนที่ป่วยทั้งหมด สุดท้ายพวกเขานั้นต้องเข้าไปใช้เครื่องช่วยหายใจฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยโควิด ซึ่งแตกต่างจากเครื่องช่วยหายใจที่พวกเราเคยเห็นกันทั่ว ไป เครื่องที่ว่านั้นในบ้านเราทั้งหมดทั้งมวลตอนนี้มีไม่ถึง 100 เครื่อง

 

จิ้งจกตัวใหญ่ได้ยินมาว่าเขาจะเอาไอ้เครื่องนี้ไปติดตั้งทุกโรงพยาบาล ประจำจังหวัด และโรงพยาบาลประจำตำบลเจ้ากระทรวงร่างทรงหมอมนต์ดำรีบบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะ 1 เครื่องตกประมาณ 15 ถึง 20 ล้าน ทำให้โครงการนี้จะมีค่าหัวคิดตกหล่นอยู่ที่ 300 ล้าน แต่คนที่ตัด สินใจได้นั้นจะต้องไปคุยกับหมอมนต์ดำ

แสดงว่าถ้าฝูงอีแร้งกลุ่มนี้ทำสำเร็จ จะทำให้พรรคการเมืองที่อีแร้งกลุ่มนี้อาศัยหลบอยู่ใต้ชายคาบังหน้าอยู่นั้น จะมีรายได้จากความตายของคนในชาติในสถานการณ์โควิด-19 ไม่ตํ่ากว่า 1,500 ล้านบาท โอ้คุณพระ! จิ้งจกตัวใหญ่เห็นตัวเลขถึงกลับตกใจหล่นจากเพดานลงพื้นเกือบตาย ไม่คิดว่าจะมีความไร้สำนึก ไม่สนบาปบุญคุณโทษนอกเหนือจากเอาเงินเข้าพอร์ตตัวเอง

 

แต่เหมือนฟ้ามีตา...ดลจิตดลใจหรือส่งสัญญาณไปถึงหูลุงตู่ให้รู้ทันเกมพวกอีแร้งเลวทรามกลุ่มนี้ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาลุงตู่ประกาศสายฟ้าฟาดลงใส่ทันที ว่า ต่อไปนี้ในการออกใบอนุญาตต้องทำให้เร็ว ใครไม่เคยมีใบอนุญาต สามารถนำเข้าเครื่องมือเหล่านี้ได้และขอเวลาในการพิจารณาแค่ 1 วัน แต่ถ้าเป็นองค์กรการกุศล หรือสถาบัน ให้หน่วยงานที่สำคัญในการออกใบอนุญาตให้ทำทันทีภายใน 1 ชั่วโมง

 

สายฟ้าฟาดดอกนี้ทำให้ฝูงอีแร้งถึงกลับแตกกระเจิง เพราะไม่สามารถเดินตามแผนการที่วางไว้ได้ เพราะหลายคนนั้นสามารถนำเข้าได้เลยเพื่อการบริจาค เพื่อองค์กรการกุศล จิ้งจกตัวใหญ่ขอละมือที่เกาะกำแพงเพดานอยู่ เพื่อชูจักแร้เชียร์ลุงตู่เลยงานนี้ ที่ดับวงจรอุบาทว์ได้

 

จิ้งจกตัวใหญ่ขอเตือนฝูงอีแร้งสายหมอมนต์ดำว่า... ต่อจากนี้ไปลำบากแน่นอน เพราะจิ้งจกตัวใหญ่จะตามติดไปทุกที่ เพราะเชื่อว่าพวกมันไม่หยุดเพียงเท่านี้ ที่จะทำนาบนหลังคนไทย ตักตวงผลประโยชน์ชาติมหาศาล โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม จิ้งจกตัวใหญ่จะเปิดโปงความชั่วขึงพรืด ให้คนในชาติประณาม จะไม่มีผืนแผ่นดินให้อยู่เลย..คอยดู