นับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ที่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตัดสินใจใช้ยาแรง รวบอำนาจด้วยการงัดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศภาวะฉุกเฉิน คุมการระบาดของไวรัสร้ายโควิด-19 ให้อยู่หมัด
ตอนต้นมีการแต่งตั้ง “หัวหน้าผู้รับผิดชอบ” จากปลัดกระทรวง 6 ด้าน 1.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบเกี่ยวกับการสาธารณสุข 2. ปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าฯ กทม. 3.ปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบการควบคุมสินค้า 4. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รับผิดชอบเกี่ยวกับการต่างประเทศและคุ้มครองช่วยเหลือผู้มีสัญชาติไทยในต่างประเทศ
5. ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ รับผิดชอบเกี่ยวกับการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ และ 6. ผู้บัญชาการทหารสูง สุด รับผิดชอบเกี่ยวกับความมั่นคง และ แต่งตั้งให้ “นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข” ขึ้นมาเป็นศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ไม่เท่านั้นยังตั้งอีก 10 ศูนย์ย่อยให้ครอบคลุมทุกด้าน 1. สำนักงานเลขาธิการ 2. สำนักงานประสานงานกลาง 3. ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข 4. ศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน 5. ศูนย์ปฏิบัติการกระจายหน้ากาก และเวชภัณฑ์สำหรับประชาชน
6. ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมสินค้า 7. ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทาง เข้าออกประเทศ และดูแลคนไทยในต่างประเทศ 8. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ 9. ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และ 10. ศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูล มาตรการแก้ไขปัญหาจากการติดเชื้อโควิด-19
สิ่งที่อยากจะชวนโฟกัส คืองานด้านการสื่อสารของรัฐบาลทั้งหมดในยามนี้ เรียกว่าใช้สรรพกำลัง(เกือบ) หมดหน้าตักมาใช้ในการสื่อสารกับสังคม โดยลดการให้คณะรัฐมนตรี ที่เป็น “นักการเมือง” งดการออกมาสื่อสารให้น้อยที่สุด หรือไม่ออกมาได้ยิ่งดี
แต่มีครม.เพียงคนเดียวตอนนี้ที่ “บิ๊กตู่” ใช้บริการทุกวันแทบทุกวง คือ อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ที่คอยให้คำแนะนำถึงมาตรการต่างๆ ที่กำลังจะทำต้องดูข้อมูลกฎหมายให้ละเอียดทุกเม็ดทุกดอก
และอีกหน้าที่ที่เห็นบทบาทของ “รองนายกฯวิษณุ” บ่อยขึ้น คือ งานชี้แจง จะเรียกว่าในฐานะ “โฆษกกิตติมศักดิ์” ของรัฐบาลในทุกสถานการณ์ใหญ่ก็ว่าได้ ที่ต้องการคนที่สื่อสารรู้เรื่อง เข้าใจที่ไปที่มาของเรื่องที่อาจจะต้องย้อนอดีตของกฎหมายไปไกล และคาดการณ์เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต คือผลของกฎหมายที่บังคับใช้
ทั้งในวันที่ก่อนประกาศภาวะฉุกเฉิน “รองนายกฯ วิษณุ” ก็ออกมาแถลงข้อมูลเสริมจากบิ๊กตู่ หลังการประกาศภาวะฉุกเฉิน อาจารย์วิษณุก็ออกมาแถลงอธิบายเพิ่มเติม แม้กระทั่งผลการประชุมบางวัน ก็ยังออกมาแถลงลงรายละเอียดที่หน่วยงานอาจจะตกหล่นบางประเด็น
และบทบาทนี้ของ “วิษณุ” ในภาวะวิกฤติโควิดจะเห็นเป็นระยะ ซึ่งเป็นภารกิจที่อาจจะการันตี รวมไปถึงคนโดดเด่นแบบไม่เพิ่มปัญหาให้ในยามนี้ ปรับครม.ไม่มีหลุดโผแน่นอน
คอลัมน์ อินไซด์สนามข่าว โดย จีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,562 วันที่ 2-4 เมษายน 2563