แอร์ไลน์ทั่วโลกโคม่า หยุดบินชั่วคราว ตกงานระนาว

     .....โลกยังโกลาหลกับการรับมือพิษโควิด-19 การเดินทางทั่วโลกใกล้ “นิ่งสนิท” เอกซเรย์ความเคลื่อนไหวของสายการบินทั่วโลก เริ่มทยอยโบกมือลา น่านฟ้าโลกชั่วคราว จอดนิ่งสนิทเครื่องบิน หลังไร้เงาผู้โดยสารและการประกาศ “ชัตดาวน์” ของหลายประเทศ อาทิ แควนตัสกรุ๊ปและเจ็ทสตาร์ หยุดบิน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนี้ แน่นอนว่ากระทบพนักงาน 3 หมื่นคน เพราะเครื่องบินต้องจอด “กราวด์” ถึง 150 ลำ หลังก่อนหน้านั้นบอร์ดไม่รับเงินเดือนและโบนัสยาวถึงเดือนมิถุนายน ส่วนพนักงานก็ว่ากันไปตามสเต็ป ตั้งแต่ ลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือน พักร้อนยาว ลดเงินเดือน เออร์ลี่รีไทร์ เป็นขั้นเป็นตอนไป

     .....สายการบินค่าเธ่ย์แปซิฟิค และ คาเธ่ย์ดรากอนแอร์ ลดจุดบินเดือนเมษายน-พฤษภาคม เหลือแค่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์สู่ 12 จุดบิน ไปยังเมืองหลักทั่วโลก อาทิ ลอนดอน แอล.เอ แวนคูเวอร์ โตเกียว ไทเป นิวเดลี กรุงเทพฯ จาการ์ตา มะนิลา โฮจิมินห์ สิงคโปร์ ซิดนีย์ ส่วนคาเธ่ย์ดรากอนแอร์จะลดเหลือบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยโฟกัสไปที่เมืองหลักในเอเชีย อาทิ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กัวลาลัมเปอร์ เพื่อรักษาความเป็นศูนย์กลางการบินของฮ่องกงเอาไว้ ซึ่งประเมินแล้วลดเที่ยวบินไปทั้งหมดราว 96 % ตามจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง รวมถึงสายการบิน ฮ่องกงเอ็กซ์เพรส ประกาศล่าสุด ยกเลิกบินทุกเส้นทางตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม-30 เมษายน

     .....ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “ฮับ” ของตะวันออกกลาง “เอมิเรตส์” ประกาศยกเลิกเที่ยวบินชั่วคราว ทั้งหมดเริ่มวันที่ 25 มีนาคม แต่คาร์โกยังบินอยู่ พร้อมกับนโยบายปรับลดเงินเดือนพนักงานและผู้บริหาร ตั้งแต่เดือนเมษายน เช่นประธานไม่รับเงิน ฝ่ายบริหารลดเงินเดือน 50% กัปตัน หัวหน้าลูกเรือลด 50% ส่วนระดับพนักงาน แอร์โฮสเตทลด 25% ตามลำดับ

     .....“เตอร์กิชแอร์ไลน์” สายการบินแห่งชาติของตุรกี ศูนย์กลางจุดบินเชื่อมยุโรปกับเอเชีย ประกาศตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมนี้จะปรับลดเส้นทางบินแค่ 5 จุดบินเท่านั้น ได้แก่ เอธิโอเปีย ฮ่องกง มอสโก นิวยอร์ก วอชิงตัน จากเดิมที่เคยบินอยู่ 126 ประเทศทั่วโลกเหลือแค่ 4 ประเทศ โดยสหรัฐอเมริกาบินเข้า 2 เมืองใหญ่ ส่วนเส้นทางบินในประเทศ ยังบินอยู่บ้าง โดยลดอัตราขนส่งผู้โดยสารลงถึง 85% ซึ่งจะบินออก “อิสตันบูล” ศูนย์กลางทางการบินของตุรกี 

     .....“กาตาร์แอร์เวย์” ประกาศจอดสนิทนกยักษ์แอร์บัส A 380 ทั้งฝูงบิน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ก่อนหน้านั้น สายการบินยักษ์ใหญ่โลกก็ประกาศแขวนนวมไปก่อนหน้านั้น ไม่ว่า แอร์ฟรานซ์ ไชน่าเซาท์เทอร์นแอร์ไลน์ เอทิฮัดแอร์เวย์ โคเรียนแอร์ ลุฟท์ฮันซา มาเลเซียแอร์ไลน์ แควนตัส ได้ประกาศ “จอดสนิท” นกยักษ์ ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์จุผู้โดยสารได้กว่า 500 คน แอร์บัสรุ่นนี้ไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

     .....ยักษ์ใหญ่ฝั่งสหรัฐอเมริกา “ยูไนเต็ดแอร์ไลน์” หลังทยอยบินส่งผู้โดยสารต่างชาติกลับบ้าน จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม หลังจากนั้นจะลดเที่ยวบินเหลือ 6 จุดบิน โดยโฟกัสในหัวเมืองหลัก อาทิ นิวยอร์ก-แฟรงก์เฟิร์ต, นิวยอร์ก-ลอนดอน, นิวยอร์ก-เทลอาวีฟ, ฮุสตัน-เซาเปาโล ซานฟรานซิสโก-โตเกียว,ซานฟรานซิสโก-ซิดนีย์ เป็นต้น ส่วนสหภาพฯพนักงานสายการบินแอร์แคนาดา และแคนาดารูจ สายการบินต้นทุนต่ำออกมาเคลื่อนไหวหลังพนักงานร่วม 5 พันคนส่อเค้าตกงาน

     .....กลับมาดูสายการบินในไทยประกาศหยุดบินเส้นทางระหว่างประเทศ เป็นการชั่วคราวกันทั่วหน้า อาทิ “บางกอกแอร์เวย์ส” ประกาศหยุดเส้นทางบินต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป “ไทยไลอ้อนแอร์” หยุดบินทุกเส้นทางตั้งแต่วันที่ 25มีนาคม - 30 เมษายน “ไทยแอร์เอเชีย” หยุดบิน ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม - 25 เมษายน นกแอร์ หยุดบินเส้นทางต่างประเทศเช่นกัน ส่วนไทยสมายล์ หยุดบินทุกเส้นทางต่างประเทศ เหลือในประเทศ ส่วนการบินไทยประกาศยกเลิกเส้นทางบินทั้งหมดทั่วโลกชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่่ 31 พฤษภาคม 2563  เหลือคาร์โก และเที่ยวบินสำรองชาร์เตอร์ไฟลต์  พร้อมปิดสำนักงานในต่างประเทศเพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนช่วง 2 เดือนหยุดบิน พนักงานกว่า 2 หมื่นคนระทึก !

     .....ทั้งหมดเป็นประมวลภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินโลกที่ต้องปรับแผนการบินกันอุตลุด เมื่อไม่มีผู้โดยสารสิ่งที่ต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วน คือลดเที่ยวบิน ยกเลิกบิน ผลที่ตามมาคือตัดค่าใช้จ่าย ลดเงินเดือน ดังนั้นกว่าโควิด-19 จะสงบ เฉพาะในอุตสาหกรรมการบินคงขาดรายได้ไปมหาศาล ซึ่งมีผลถึงธุรกิจต่อเนื่อง และที่ทานไม่ไหวก็ล้มหายตายจากกันไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกครึ่งปีนี้ไม่มีทางฟื้น จบ!!