“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

21 มี.ค. 2563 | 00:44 น.

รายงานพิเศษ : “ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

 

“นายกฯได้ย้ำว่า ฝากบอกประชาชนให้อยู่บ้าน ดังนั้นอยากให้ช่วงนี้คนไทยอยู่บ้าน ก่อนที่เราจะบังคับต้องขอความร่วมมือ”

ข้อความฝากบอกของ บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ผ่านโฆษกรัฐบาล ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อทำเนียบเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา อาจจะทำให้สังคมเห็นสัญญาณที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในการคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมาในวันเดียวกัน ดร.นฤมล ส่งข้อความผ่านไลน์นักข่าวทำเนียบและเผยแพร่ทางเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ระบุพาดหัวข่าวมาว่า "นายกฯ พร้อมตัดสินใจใช้มาตรการเข้มข้นสูงสุด อาจกระทบประชาชนบ้าง แต่ขอให้อดทนร่วมมือก้าวผ่านวิกฤต"

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

เมื่อหากย้อนไปอ่านรายละเอียดของมาตรการที่ผ่านมาก่อนหน้านี้จะพบว่า “ยาแรง” ถูกนำมาใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั่วประเทศคู่ขนานกับยาที่เป็นมาตรการเยียวยา

17 มี.ค. 63  ที่ประชุมครม.มีมติมาตรการ 6 ด้านคุมการระบาด โดยเฉพาะมาตรการด้านการควบคุม มีการปิดสถานที่ชั่วคราว 14 วัน ในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา และทุกสถาบัน สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ และโรงมหรสพ ส่วน ห้าง ตลาด สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ แม้ไม่ปิดแต่ก็ต้องมีมาตรการรองรับทางสาธารณสุข และให้เหลื่อมเวลาทำงาน สนับสนุนการการทํางานที่บ้าน ประชุมผ่านคอนเฟอร์เร๊นซ์ 

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 
ประกาศงดวันหยุดสงกรานต์ วันที่ 13-15 เมษายน 2563 งดกิจกรรมรวมคนจํานวนมาก ลดการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากข้ามจังหวัดของหน่วยงาน ทหาร เรือนจํา โรงเรียน แรงงานต่างด้าว 

ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ใช้อํานาจตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 35 จํากัด ดูแล กําหนดมาตรการ และให้มีหน่วยปฏิบัติควบคุมโรคทุกอําเภอ เขต หมู่บ้าน  ยกเลิกวีซ่า VOA 18 ประเทศ และฟรีวีซ่า 3 ประเทศ

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

และหลังจากครม.มีมติ กระทรวงศึกษาธิการออกประกาศปิดสถานศึกษาทั่วประเทศ 18 มี.ค.63 เป็นต้นไป  ตามมาด้วยกรุงเทพมหานครออกประกาศ  ปิดสถานที่ 18 - 31 มี.ค.63 สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ) สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า 

ต่อมา 19 มี.ค. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศ ถึงทุกสายการบินทั่วโลกว่าถึงผู้โดยสารต่างชาติทุกประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในไทยต้องทำเพิ่มอีก 3 อย่าง  1.จะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าไม่เป็นโรคโควิด-19  2.หากเดินทางเข้าประเทศไทยจะต้องซื้อประกันภัยในวงเงินประกัน 100,000 เหรียญฯ หรือประมาณ 3 ล้านบาทต่อคน 3.ต้องมีการกรอกข้อมูลว่ามาเมืองไทยพักอยู่ที่ไหน

ในส่วนที่เป็นคนไทยที่จะเข้ามาประเทศไทย จะต้องมีหนังสือรับรองจากสถานฑูต หรือ สถานกงศุล รับรองว่าเป็นคนไทย และเข้ามาประเทศไทย พักอาศัยเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามประกาศดังกล่าวจะไม่ได้กำหนดว่ามาจากประเทศใด แต่ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก

20 มี.ค. โฆษกรัฐบาล แจ้งข่าวจาก "นายกรัฐมนตรี" ว่า โดยขอความร่วมมือประชาชน ให้ช่วยงดเดินทางโดยไม่จำเป็น เพราะอาจจะเป็นพาหะในการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเป็นการขอความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการ ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทย ใช้อำนาจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตามที่มติครม.เห็นชอบได้สั่งสถานบริการ และสถานบันเทิงทั่วประเทศกว่า 23,723 แห่ง

ออกประกาศให้ผู้ว้าราชการจังหวัดชายแดนพิจารณาระงับการใช้ช่องทาง ณ จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรนการค้า และจุดผ่อนปรนพิเศษเป็นการชั่วคราวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  พร้อมแนบหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติในการพิจารณาระงับหรือปิดจุดผ่านแดนประเภทต่าง ๆ

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

ซึ่งรายละเอียดที่แนบ บอกได้คำเดียวว่า ต้องมีธุระจริงๆจึงอยากจะเข้ามาในประเทศไทย  “กรณีผู้เดินทางที่มาจากท้องที่หรือเมืองท่านอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ให้กักกันบุคคลดังกล่าวไว้ ณ สถานที่ที่กําหนด กรณีคนต่างด้าวให้กักกัน ณ โรงแรมที่กําหนดไว้ โดยให้บุคคลผู้นั้น เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้ที่เกิดขึ้น กรณีคนไทยให้นําตัวส่งไปกักกัน ณ ที่พํานักหรือที่พักอาศัยตามภูมิลําเนาของ บุคคลนั้นเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน”


“กรณีผู้เดินทางที่มาจากท้องที่หรือเมืองท่านอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาด ต่อเนื่องตามประกาศของกรมควบคุมโรค ให้กักกันบุคคลดังกล่าวไว้ ณ สถานที่ที่กําหนด กรณีคนต่างด้าวให้กักกัน ณ โรงแรมที่กําหนดไว้ โดยมีระบบแอพพลิเคชั่นติดตามตัว กรณีคนไทยให้อยู่ในที่พํานักของตนเองและอาจอนุญาต ให้ไปในบางสถานที่ที่จําเป็นได้ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน”

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

ความเข้มข้นการคุมระบาดที่ไล่เรียงมา ยังไม่รับรวมถึงมาตรการของแต่ละประเทศที่เข้มงวดในจำกัดการเดินทางของประชาชนออกจากประเทศตัวเอง

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 

สอดรับกับ การแถลงของ “ศูนย์ข้อมูลโควิด –19 ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทำเนียบรัฐบาล” เมื่อวันที่ 20 มี.ค.  โดย "โฆษกรัฐบาล" บอกว่า “ไม่อยากให้ประชาชนยึดติดกับคำว่าปิดประเทศ แต่ให้ดูผลลัพธ์ คือ การควบคุมเชื้อจากต่างประเทศและภายในประเทศว่าเราควบคุมได้แค่ไหน สำหรับเชื้อจากต่างประเทศ โอกาสที่จะมีคนเดินทางมาได้น้อยมาก วันนี้ทุกคนที่เดินทางเข้ามาไทยทั้ง บก น้ำ อากาศ ต้องมีใบรับรองแพทย์ ต้องมีอายุไม่เกิน 3 วัน ต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ และต้องกักตัว 14 วัน เชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแทบไม่มี แม้ไม่ปิดประเทศ แต่ผลลัพธ์ก็คล้ายๆ กัน”

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 
โฆษกยังบอกด้วยว่า ส่วนเชื้อในประเทศนั้น ที่พูดถึงคำว่า ปิด กทม.หมายความว่า แค่ไม่ให้คนเข้าออกกทม หรือไม่ให้ออกจากบ้านเลย ถ้าไม่ให้ออกจากบ้านจะส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกคนใน กทม. ถ้าประกาศเปรี้ยงไปเลยจะเกิดผลอย่างมาเลเซีย คนจะแห่ออกไปต่างจังหวัดทันที เชื้อจะออกจาก กทม.อย่างรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้ เราจึงเลือกใช้วิธีการที่จะควบคุมเชื้อใน กทม.และปริมณฑล และถ้าไม่ให้ออกจากบ้านต้องมีแผนรองรับ ทั้งการเตรียมอาหาร ของใช้จำเป็น ต้องมีการเตรียมพร้อมให้เพียงพอ รวมถึงกระบวนการลำเลียงสิ่งของไปให้ ซึ่งได้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ 

“ล็อกดาวน์” (อย่างไม่เป็นทางการ) 
“ตอนนี้เป็นการปรับพฤติกรรมคนไทยในการดูแลตัวเอง บุคลากรทางแพทย์เหมือนอยู่ในสนามรบ ด่านหน้า ปะทะกับเชื้ออยู่ ถ้าอยากช่วยขอให้ทุกคนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หากยกระดับ พวกเราจะได้พร้อมที่จะเข้าสู่การยกระดับ จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกับรัฐ ถ้าจะมีการปิดสถานที่อะไรเพิ่มเติม ขอให้รับฟังจากศูนย์ฯนี้เท่านั้น”