2-3 วันมานี้ ขบวนนกเหล็กร่วม 110 ตัว ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติของไทยที่นิ่งเงียบมานาน พาเหรดกันส่งเสียงร้องดังหวีดหวิว กึกก้องไปทั้งป่าคอนกรีตผสมเสร็จ
พรานฯ ที่นั่งส่องสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ ต้องกระโดดจากการซุ่มโป่งเงยหน้าแหงนคอตั้งบ่าว่าเกิดอะไรขึ้น
กลิ่นสาบสางที่โชยกลิ่นออกมาจากอีเห็นบอกว่า...สัปดาห์ก่อนโน้น นกตัวใหญ่ร้อง “จุ๊กกรู๊ๆ จุ๊ก” ดอดไปหารือกับบรรดาเจ้าหนี้ทั้งสถาบันการเงินไทยและต่างประเทศ เพื่อขอเจรจาว่าจะทำการยืดการชำระหนี้ทั้งหมดออกไปเป็นระยะยาวให้หมด ไม่เช่นนั้นจะต้องประกาศ “Debt Moratorium”...แปลว่า ข้าชักดาบ...
เพราะพิษไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” นั้น ระบาดใส่จนรายได้ แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายเสียแล้ว
นังบ่างสอดปากสอดคำบอกว่า ในปี 2562 รายได้การบินไทยเฉลี่ย 184,046 ล้านบาท ตกเดือนละ 15,337 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 196,470 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 16,372 ล้านบาท สายการบินแห่งชาติแห่งนี้จึงขาดทุนรวมสุทธิ 12,017 ล้านบาท
มาปีนี้นับตั้งแต่พิษไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดไปทั่วโลก ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม การบินไทยหยุดเที่ยวบินไปแล้วกว่า 70% เหมือนกันกับสายการบินอื่นๆ ที่ปัจจุบันทำการยกเลิกบินมาเมืองไทยไปแล้ว 9,500 เที่ยวบิน
รายได้ที่เคยได้เดือนละ 15,000 ล้านบาท ขณะนี้อย่าว่าแต่ 4,000 ล้านบาทเลย 2,000 ล้านบาท ก็ดีถมถืดแล้วพ่อแก้วแม่แก้วเอ๊ย...
แล้วการบินไทยมีรายได้จากไหน รายได้หลักมาจากค่าโดยสารตกปีละ 149,044 ล้านบาท ตอนนี้เหลือเดือนละหลักพันล้านบาทเท่านั้น
รายได้ค่าโดยสารในเส้นทางบินในภูมิภาคเอเชียตกปีละ 82,484 ล้านบาท ตอนนี้ยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วทุกเส้นทาง
รายได้ค่าโดยสารสำหรับเส้นทางบินข้ามทวีปปีละ 55,666 ล้านบาท ตอนนี้อเมริกาห้ามบินเข้า ยุโรปก็ลดเที่ยวบิน แล้วจะมาจากไหนละพี่น้อง
รายได้ค่าโดยสารเส้นทางบินภายในประเทศปีละ 10,507 ล้านบาท โปรดอย่าถามว่าแต่ละเที่ยวบินจะเหลือผู้โดยสารกี่คนในเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองแทบร้างเหลือคนแค่วันละหลักหมื่นคนจากเดิมวันละเป็นแสนเป็นล้านคน
รายได้จากค่าขนส่งและค่าพัสดุปีละ 17,784 ล้านบาท ตอนนี้หดหายไปเหลือไม่ถึงครึ่ง
ถ้ารายได้ขนาดนี้ แต่รายจ่ายคงที่เหมียนเดิมจะเกิดอะไรขึ้น!..นังบ่างถามดังๆ อีเห็นบอกว่า ต้องเจรจากับเจ้าหนี้สิครับ...ถ้ารายได้ไม่พอจ่ายก็เจ๊งสิ
แล้วค่าใช้จ่ายของสายการบินแห่งชาติมีอะไรบ้าง ค่านํ้ามันเครื่องบินปีละ 54,675 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายบริหารความเสี่ยงนํ้ามันปีละ 981 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานปีละ 137,550 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์พนักงาน บุคลากร ค่าตอบแทนผู้บริหาร และกรรมการ ปีละ 28,483 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบิน เช่น ค่าบริการการบิน
ค่าสินค้าและพัสดุปีละ 30,159 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายให้นักบินและลูกเรือปีละ 6,242 ล้านบาท
นี่คือสิ่งที่ต้องจ่ายตามจำนวนปฏิบัติการการบินที่ลดลง
เห็นแบบนี้ต้องบอกว่าเหนื่อยสำหรับสายการบินแห่งชาติที่ตอนนี้ “ดีดีถั่ว-สุเมธ ดำรงชัยธรรม” โบกมือบ๊ายบาย และคณะกรรมการการบินไทยจึงแต่งตั้งให้ “จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล” รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะตัวแทนกระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มารักษาการแทน
พรานฯ แว่วมาว่าตอนนี้ “จักรกฤศฏิ์” เดินหน้าเจรจาเจ้าหนี้เพื่อขอพักการชำระหนี้ไประยะหนึ่งอย่างหนักหน่วง
หนี้การบินไทยที่ต้องจ่ายมีอะไรบ้าง เงินกู้ระยะสั้นประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินกับสถาบันการเงินรวม 21,500 ล้านบาท
เงินกู้ระยะยาว 21,000 ล้านบาท หุ้นกู้ระยะสั้น 18,000 ล้านบาท
เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินในประเทศ 5,000 ล้านบาท ที่นำมาใช้ในการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน
สินเชื่อระยะสั้นประเภทวงเงิน Committed Credit Line 13,500 ล้านบาท เงินกู้ Uncommitted Credit Line อีก 7,800 ล้านบาท ที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ...นี่คืองานใหญ่เฉพาะหน้า
แว่วว่า รักษาการดีดีคนใหม่ ดอดหารือภายในกับรัฐมนตรีว่าอยากให้รัฐบาลเข้ามา “อุ้มการบินไทย” ก่อนจอดไม่ต้องแจว
แค่นั้นยังไม่พอ พนักงานการบินไทยที่มีอยู่ 35,000 คน เตรียมตัว เตรียมใจไว้ได้ “ลดเงินเดือน-ลดเบี้ยเลี้ยง-ลดโอที-ปรับลดคน-ให้ออก” กำลังตามมาในไม่ช้า
เชื่อพ่อพรานเถอะ ถ้าพนักงานไม่รวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการนำพาสายการบินแห่งชาติให้พ้นพงหนามโควิด-19 รับประกันไม่ถึงเดือนพฤษภาคม...ลมพายุใหญ่พัดจนเจ้าจำปีปีกหักแน่
เพราะอะไรนะหรือ เพราะเงินทุนเหลือแค่ 11,600 ล้านบาทเท่านั้น!
เพี้ยง! ขอให้ใครต่อใครอย่าไปถามไถ่เรื่องกระแสเงินสดนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจมีคนเป็นลมล้มพับได้