เปิดโฉม "ทีมคุมระบาด" ที "บิ๊กตู่" ต้องฟัง

ในสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ที่เริ่มระบาดหนักขึ้นในประเทศไทย แม้จะยังไม่ได้ประกาศสถานการณ์เข้าสู่ระยะ 3 หรือ ปิดประเทศ ตามที่มีบางคนเรียกร้อง แต่รัฐบาลก็มีมติครม.เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 63 งัดยาแรง มาตรการ 6 ด้าน เพื่อควบคุมการระบาด 

นับเป็นห้วงเวลาที่คนไทยต้องรวมใจฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากภาพ 1 ภาพ ของศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC ) ที่เผยแพร่ภาพ “ทีมที่ปรึกษาเฉพาะกิจ” ที่ร่วมวงหารือวงเล็ก โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธาน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 63 ก่อนการประชุม “คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)”  ครั้งที่ 1/2563 ที่สุดท้ายมีมติคุมการระบาด 6 ด้าน ก่อนที่จะส่งให้ครม.มีมติอีกครั้งในวันถัดไป

บุคคลในภาพที่ ปรากฏใน “เฟซบุ๊ก PMOC ศปก.นรม.” ในวงการแพทย์เขาเรียกว่า “สุดยอดอาจารย์หมอ” ที่มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วโลก

คนแรก “ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร” อายุ 71 ปี ปัจจุบันเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล แต่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ช่วงคสช. และพ่วงอีกหลายตำแหน่งในวงการแพทย์ทั้งอดีตและปัจจุบัน เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำมหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งสู่การติดอันดับ 1 ใน 100 ของมหาวิทยาลัยโลก เป็นคณบดีคนที่ 15 ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ต่อเนื่อง 2 สมัย พ.ศ. 2543 – 2550 

ศ.นพ.ปิยะสกล เป็นบุตรของหลวงสกลสัตยาทร และนางประหยัด สกลสัตยาทร สมรสกับ พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด มหาชน มีบุตรธิดาจำนวน 3 คน คือ นายสืบสกล นางสาวสรัลธร และ พญ.ณัฎฐา สกลสัตยาทร  จบการศึกษาชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จากโรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อปี พ.ศ. 2514ได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ จากแพทยสภา เมื่อปี พ.ศ. 2518 ผ่านการอบรม Fellowship Training สาขา Critical Care Medicine จากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ เมื่อปี พ.ศ. 2528 และสาขา Injury Epidemiology เมื่อปี พ.ศ. 2531 จาก Centers for Disease Control, เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา สำเร็จหลักสูตร วปอ. จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ. 2538 

ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัย 69 ปี เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกิดวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2493 ที่กรุงเทพมหานคร ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ในช่วงงานภูเขาทองเพราะแม่บอกว่ามีเสียงงานภูเขาทอง เป็นแฝดน้องของ “รศ.ยืน ภู่วรวรรณ(นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ของไทย) หลังจากนั้นได้ย้ายไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมของแม่ ที่ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม 

นายแพทย์ยง จบการศึกษามัธยมจากพระปฐมวิทยาลัย และ มัธยมศึกษาตอนปลายที่เตรียมอุดมศึกษา หลังจากนั้น เข้าศึกษาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ารับการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางสาขากุมารเวชศาสตร์ 2518-2521จากนั้นบรรจุเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ และได้ไปฝึกอบรมเป็น research fellow ที่ King’s College Hospital Medical School กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร (2527-2528) รับราชการเป็นอาจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ระดับ 11 ในสาขาวิชากุมารเวชศาสตร์

การศึกษา วิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การแพทย์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วุฒิบัตรแสดงความรู้หรือความชำนาญ การประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขากุมารเวชศาสตร์ แพทยสภาแห่งประเทศไทย Research fellow, King's College Hospital Medical School, London, UK ตลอดชีวิตการทำงานมีเกียรติประวัติและผลงานดีเด่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 กับ รางวัลผลงานวิจัยดีเด่น เรื่อง ไวรัสตับอักเสบและการป้องกันจากกองทุนรัชดาภิเษกสมโภช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ.2562 รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผุ้ทำประโยชน์ทางด้านวัคซีน (สถาบันวัคซีนแห่งชาติ)

ศ. พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์  นายกแพทยสภา และอดีตหัวหน้าภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เกิดวันที่ 30 เมษายน 2483 การศึกษา แพทยศาสตรบัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประกาศนียบัตรการแพทย์ชั้นสูง (กุมารเวชศาสตร์) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้รับปริญญาเอกทางวิสัญญีวิทยา (Dr.med) (Anesthesiology) และประกาศนียบัตรโรคเขตร้อน (D.T.M) Tropical Medicine จากมหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี และอนุมัติบัตรผู้เชี่ยวชาญวิสัญญีวิทยาจากแพทยสภา

ประสบการณ์การทำงานในวงการแพทย์ของพญ.สมศรี เรียกว่าไม่แพ้ใคร อดีตเป็นประธานราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย หัวหน้าภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ระหว่างปี 2531-2539 นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานฯ สปสช. กรรมาธิการสาธารณสุข,พาณิชย์และวิทยาศาสตร์ สภาผู้แทนราษฎร ประธานสมาคมแพทยสมาคมภาคพื้นเอเชียและคาบสมุทร

กรรมการแพทยสภา ประธานศูนย์การศึกษาต่อเนื่องแพทยสภา ประธานคณะกรรมการสอบสวนชุดที่ 9 แพทยสภา ผู้อำนวยการแพทยสมาคม (2549-ปัจจุบัน) ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ประธานเครือข่ายวิชาชีพแพทย์เพื่อการควบคุมการบริโภคยาสูบ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฯลฯ

และอีกท่าน ศ. นพ.อมร ลีลารัศมี อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และอดีตคณบดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม หรือที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและเพื่อนร่วมงานเรียกขานกันว่า “อาจารย์อมร”  เป็นแพทย์ที่มีอารมณ์ขัน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและยาต้านจุลชีพ แต่ขณะเดียวกันเป็นแพทย์ที่ชอบการเล่นกีฬาเป็นงานอดิเรก ทั้ง ตีปิงปอง แบดมินตัน ซึ่งหมออมรเล่นมาตั้งแต่มัธยมจนกระทั่งเป็นหมอก็ยังเล่นอยู่ และเริ่มออกก๊วนตีกอล์ฟกับเพื่อนช่วงอายุสี่สิบกว่า ๆ 

นี่อาจจะเป็นทีม "ที่ปรึกษาเฉพาะกิจ" ที่สังคมได้เห็นโฉมและรับรู้ถึงคุณภาพของแต่ละคน ซึ่งบอกเลยว่า นี่เป็นเพียงบางส่วนของทีมที่ปรึกษาเฉพาะกิจชุดใหญ่ที่ขอทำงานชนิดที่ว่า ถ้าเอ่ยคำปรึกษาใด "พลเอกประยุทธ์" ต้องเงี่ยหูฟังและเป็นทางเลือกในการตัดสิใจ