‘คนละเรื่องเดียวกัน’ ‘แพร่เชื้อระยะ 2’ vs ‘แจ้งเตือนระดับ 3’

14 มี.ค. 2563 | 03:10 น.

 

เข้าทำนองที่ว่า คนละเรื่องเดียวกันเมื่อปรากฏเอกสารออกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0308.2/ 6407 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2563 เรื่อง การให้บริการประชาชนในการออกหนังสือผ่านแดนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CoronaVirus Disease 2019 : COVID-19) ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีข้อความในตอนต้นระบุว่า

ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CoronaVirus Disease 2019 : COVID- 19) ของประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 2 คือ เริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คนภายในประเทศ และได้ยกระดับการแจ้งเตือนการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID - 19 เป็นระดับ 3 คือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว...”

เกิดความสับสนตามมาสังคมเข้าใจว่า ไทยมีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ในระยะที่ 3 แล้วหรือ? กระทั่ง กรมการปกครอง ต้องออกหนังสือชี้แจงตามมาอีกฉบับว่า

“... ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือ เริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คนภายในประเทศ แต่ระดับการเตือนภัยเป็นระดับที่ 3 คือ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวที่มีการเตือนภัยในระดับที่ 3 นี้...”


 

ทำให้ กระทรวงสาธารณสุขต้องกุมขมับเพราะนับตั้งแต่มีเรื่องนี้ออกมาต้องอธิบายชี้แจง ยํ้าแล้วยํ้าอีกกับสื่อมวลชนตลอดหลายวันที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ระดับ ปลัดกระทรวง ไปถึงเหล่าอธิบดีกรมต่างๆ เลยไป ผู้อำนวยการ ที่ต้องไขความกระจ่างด้วยประโยคคล้ายๆกันว่า

“...สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 คือการติดเชื้อยังอยู่ในวงจำกัด หรือ Limited local transmission ยังไม่มีการระบาดต่อเนื่อง อยู่ในระยะที่ควบคุมได้ ประเทศไทยยังไม่เข้าข่ายการระบาดระยะที่ 3”

 

‘คนละเรื่องเดียวกัน’  ‘แพร่เชื้อระยะ 2’ vs ‘แจ้งเตือนระดับ 3’

 

ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อเนื่องนี้ผู้เขียนขอนำคำนิยามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคและมาตรการรับมือ แต่ละระยะมาอธิบายให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ดังนี้

ระยะที่ 1 พบผู้ป่วยจากต่างประเทศ แต่ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทย เป้าหมายระยะแรก คือ ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ป้องกันการระบาดอย่างต่อเนื่อง และป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทาง การแพทย์และสาธารณสุข ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน

ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ในช่วงปัจจุบัน เริ่มมีการแพร่เชื้อในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการติดต่อ ระหว่างบุคคลสู่บุคคล เช่น ในกรณีคนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และอาจมีการติดเชื้อ ระหว่างบุคคลต่อเนื่องไปได้อีก ทั้งนี้ในกรณีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ผล การระบาดของเชื้อโรคก็จะยุติในระยะนี้ แต่ถ้าการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไม่ได้ผล สถานการณ์จะขยายตัวเข้าสู่ระยะที่ 3

ระยะที่ 3 ช่วงการระบาดอย่างกว้างขวางในประเทศ จะมีลักษณะคล้ายการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ (H1N1) การระบาดขยายตัวเพิ่มระดับ และขยายขอบเขต นอกจากจะทําให้มีจํานวนผู้ป่วยมากขึ้นแล้ว อาจมีผู้เสียชีวิต ซึ่งจะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อสภาวะเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศอย่างมาก

เรื่องใหญ่ระดับชาติเช่นนี้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนอกจากความเร็วที่ต้องมาเป็นอันดับแรกแล้ว เรื่องของความถูกต้องของข้อมูลก็สำคัญที่สุดเช่นกัน

 

คอลัมน์ ถอดสูตรคุย โดย กมลพร ชิระสุวรรณ 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,557 วันที่ 15-18 มีนาคม 2563