เข้าทำนองที่ว่า “คนละเรื่องเดียวกัน” เมื่อปรากฏเอกสารออกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0308.2/ว 6407 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2563 เรื่อง การให้บริการประชาชนในการออกหนังสือผ่านแดนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CoronaVirus Disease 2019 : COVID-19) ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีข้อความในตอนต้นระบุว่า
“ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (CoronaVirus Disease 2019 : COVID- 19) ของประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 2 คือ เริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คนภายในประเทศ และได้ยกระดับการแจ้งเตือนการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID - 19 เป็นระดับ 3 คือให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว...”
เกิดความสับสนตามมาสังคมเข้าใจว่า ไทยมีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา ในระยะที่ 3 แล้วหรือ? กระทั่ง กรมการปกครอง ต้องออกหนังสือชี้แจงตามมาอีกฉบับว่า
“... ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือ เริ่มมีการติดเชื้อจากคน สู่คนภายในประเทศ แต่ระดับการเตือนภัยเป็นระดับที่ 3 คือ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวที่มีการเตือนภัยในระดับที่ 3 นี้...”
ทำให้ “กระทรวงสาธารณสุข” ต้องกุมขมับเพราะนับตั้งแต่มีเรื่องนี้ออกมาต้องอธิบายชี้แจง ยํ้าแล้วยํ้าอีกกับสื่อมวลชนตลอดหลายวันที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ระดับ ปลัดกระทรวง ไปถึงเหล่าอธิบดีกรมต่างๆ เลยไป ผู้อำนวยการ ที่ต้องไขความกระจ่างด้วยประโยคคล้ายๆกันว่า
“...สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 คือการติดเชื้อยังอยู่ในวงจำกัด หรือ Limited local transmission ยังไม่มีการระบาดต่อเนื่อง อยู่ในระยะที่ควบคุมได้ ประเทศไทยยังไม่เข้าข่ายการระบาดระยะที่ 3”
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อเนื่องนี้ผู้เขียนขอนำคำนิยามสถาน การณ์การแพร่ระบาดของโรคและมาตรการรับมือ แต่ละระยะมาอธิบายให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ดังนี้
ระยะที่ 1 พบผู้ป่วยจากต่างประเทศ แต่ยังไม่พบผู้ป่วยในประเทศไทย เป้าหมายระยะแรก คือ ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ป้องกันการระบาดอย่างต่อเนื่อง และป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทาง การแพทย์และสาธารณสุข ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ในช่วงปัจจุบัน เริ่มมีการแพร่เชื้อในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการติดต่อ ระหว่างบุคคลสู่บุคคล เช่น ในกรณีคนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีน และอาจมีการติดเชื้อ ระหว่างบุคคลต่อเนื่องไปได้อีก ทั้งนี้ในกรณีการเฝ้าระวังและควบคุมโรคได้ผล การระบาดของเชื้อโรคก็จะยุติในระยะนี้ แต่ถ้าการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไม่ได้ผล สถานการณ์จะขยายตัวเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 ช่วงการระบาดอย่างกว้างขวางในประเทศ จะมีลักษณะคล้ายการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ (H1N1) การระบาดขยายตัวเพิ่มระดับ และขยายขอบเขต นอกจากจะทําให้มีจํานวนผู้ป่วยมากขึ้นแล้ว อาจมีผู้เสียชีวิต ซึ่งจะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อสภาวะเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศอย่างมาก
เรื่องใหญ่ระดับชาติเช่นนี้ “การสื่อสาร” ที่มีประสิทธิภาพนอกจาก “ความเร็ว” ที่ต้องมาเป็นอันดับแรกแล้ว เรื่องของ “ความถูกต้อง” ของข้อมูลก็สำคัญที่สุดเช่นกัน
คอลัมน์ ถอดสูตรคุย โดย กมลพร ชิระสุวรรณ
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,557 วันที่ 15-18 มีนาคม 2563