>> ในที่สุด “วรวิทย์ กังศศิเทียม” อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุด ก็ได้ก้าวขึ้นแท่นนั่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยมติเสียงข้างมาก 5 เสียง จากการประชุมร่วมของ 4 ตุลาการศาลรธน.ชุดปัจจุบัน และ 4 ว่าที่ตุลาการชุดใหม่
>> ขั้นตอนจากนี้ “นุรักษ์ มาประณีต” ประธานศาล รธน.ชุดปัจจุบันที่พ้นวาระ จะแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ เพื่อนำรายชื่อประธานและว่าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
>> “วรวิทย์ กังศศิเทียม” ประธานศาลรธน.คนใหม่ ปัจจุบันอายุ 68 ปี เป็นตุลาการศาลรธน. จากการเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เมื่อเดือนกันยายน 2557
>> สำหรับคำวินิจฉัยส่วนตน ของ “วรวิทย์” ในคดีการเมืองสำคัญที่ผ่านมานั้น
>> คดียุบ “พรรคไทยรักษาชาติ” อันเนื่องจากการดำเนินการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยมติเอกฉันท์ “วรวิทย์” เป็น 1 ใน 9 ตุลาการที่ลงมติให้ยุบพรรค
>> คดี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ พบว่า “วรวิทย์” เป็นตุลาการเสียงข้างมาก ที่ตัดสินให้ “ธนาธร” หลุดจากเก้าอี้ส.ส. ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับอีก 6 ตุลาการ
>> ขณะที่มีเพียง “ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ” และ “ชัช ชลวร” เป็นตุลาการเสียงข้างน้อย ที่ตัดสินว่า “ธนาธร” ไม่ผิด
>> คดี “ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน” ในระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 “วรวิทย์” ก็เป็นตุลาการเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง ที่ตัดสินให้พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 ไม่เป็นโมฆะ
>> แม้ต่อมาคดี “ยุบพรรคอนาคตใหม่” จากข้อกล่าวหากระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ หรือคดี “อิลลูมินาติ” ตุลาการทั้ง 9 คน มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ให้ยกคำร้อง ทำให้ “อนาคตใหม่” เฮลั่น เพราะรอดจากการยุบพรรค
>> แต่ล่าสุดคดีที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ร้องให้ “ยุบพรรคอนาคตใหม่” จากข้อกล่าวหากู้เงิน 191 ล้านบาท “วรวิทย์” กลับเป็น 1 ใน 7 เสียงข้างมากที่ลงมติให้ยุบพรรค
>> เมื่อได้ขึ้นมาเป็นประธานศาลรธน.แล้ว บทบาทของ “วรวิทย์” จะเป็นเช่นไร น่าจับตายิ่ง เพราะมีคดีการเมืองหลายคดี รอเข้าคิวชี้ชะตาอยู่...