ติดปีก‘สมคิด’ คุมทีมเศรษฐกิจ ทลายกำแพงพรรคร่วมรัฐบาล

07 มี.ค. 2563 | 05:10 น.

ถอดสูตรคุย โดย บรรทัดเหล็ก

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,555 วันที่ 8-11 มีนาคม 2563

 

น่าสนใจอย่างมากสำหรับข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการระยะเร่งด่วน สําหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า โควิด-19 (COVID-19)

ที่บอกว่าน่าสนใจเพราะ พล.อ. ประยุทธ์ ได้มอบหมายให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในการจัดทํามาตรการบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือครม.เศรษฐกิจพิจารณา ก่อนนําเสนอ ครม.ชุดใหญ่พิจารณาตามขั้นตอน

เมื่อเจาะลึกลงไปในคำสั่งฉบับนี้พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้อำนาจนายสมคิด ออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ครอบคลุมในทุกด้าน ทั้งมาตรการทางภาษี มาตรการด้านสินเชื่อและพักชําระหนี้ มาตรการด้านงบประมาณ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน มาตรการการจ้างงานและพัฒนาทักษะ และมาตรการด้านสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นในชุมชน

นั่นเท่ากับเปิดไฟเขียวทลายข้อจำกัดในการทำงาน ให้ นายสมคิด สามารถคิดและออกแพ็กเกจเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องห่วงว่ามาตรการที่ออกมาจะเป็นการก้าวล่วงการทำงานของรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาล ที่กำกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจสำคัญๆ อยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน เป็นต้น

ต้องยอมรับว่าการทำงานของทีมเศรษฐกิจในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” ในช่วงที่ผ่านมาขาดเอกภาพอย่างมาก เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคร่วม ซึ่งแต่ละพรรคก็มีรองนายกรัฐมนตรีเพื่อดูแลกระทรวงเศรษฐกิจของตัวเอง ทำให้การดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจไม่มีเอกภาพ

สะท้อนจากคำให้สัมภาษณ์ของนายสมคิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 ที่ระบุว่า “ผมไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่คุมด้านเศรษฐกิจแล้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงเศรษฐกิจเพียง 4 กระทรวงเท่านั้น”

แม้ว่าที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหานี้ด้วยการตั้งครม. เศรษฐกิจ เพื่อรวมศูนย์อำนาจในการดูแลด้านเศรษฐกิจด้วยตนเอง แต่การทำงานก็ยังไม่ไปในทิศทางเดียวกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ออกมาก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการด้านการคลังเป็นส่วนใหญ่

การที่นายกฯ มอบหมายให้นายสมคิดเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในครั้งนี้ จึงน่าจับตามองอย่างมากว่านายสมคิด จะสามารถทลายกำแพงการทำงานภายใต้ข้อ จำกัดทางการเมืองได้หรือไม่