ควันหลงซักฟอก อนาคตใหม่-เพื่อไทย ซัดกันนัว

28 ก.พ. 2563 | 11:00 น.

คอลัมน์คันฉ่องส่องการเมือง ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3553 หน้า 12 ระหว่างวันที่ 1-4 มี.ค.63 โดย นาย NO VOTE

 

 

          >> ศึกซักฟอกรัฐบาลจบลงด้วยชัยชนะของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย 5 รมต.ที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจต่างได้รับเสียงโหวตท่วมท้น “ไว้วางใจ” ให้ไปต่อ ทำเอาชื่นมื่นไปตามๆ กัน

          >> ตรงกันข้ามกับภาพของพรรคขั้วฝ่ายค้าน ที่เปิดฉากซัดกันเละหลังจบศึก ได้เวลามาถล่มรัฐบาล 21 ชั่วโมง แต่ก็จัดสรรกันไม่ลงตัว เหลือผู้ที่ยังไม่ได้อภิปรายอยู่อีก 4 คน

          >> “ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ” ส.ส.เพื่อไทย ตั้งใจจะ อภิปรายเรื่องขยะ และ “3 ส.ส.อนาคตใหม่” รังสิมันต์ โรม, จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ และ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่หวังแจ้งเกิดจากเวทีนี้ จนเกิดกระแสข่าวสะพัดออกมาว่า “เพื่อไทย” จงใจอภิปรายยืดเยื้อเพื่อให้หมดเวลาในการอภิปราย “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี พ่วงด้วย “บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ที่รอดไปแบบสบายๆ

          >> สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายค้านอย่างมากโดยเฉพาะ ส.ส.อนาคตใหม่ สวนกลับทันทีด้วยการ “วอล์กเอาต์” จากห้องประชุมสภา เมื่อคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เป็นที่มาของการโพสต์ข้อความเดือดผ่านทวิตเตอร์ของ Piyabutr Saengkanokkul ที่ระบุตอนหนึ่งว่า

 

          >> ส.ส.มีเวลาอภิปรายตามที่กำหนด เกินมา 5-10 นาที ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่เกินมา 1-2 ชั่วโมง ถือว่าเสียมารยาท ไม่เคารพ ส.ส.คนอื่นที่รออภิปรายอยู่ ส.ส.ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เห็นว่าเป็น ส.ส.หน้าใหม่ จะทำอะไรก็ได้ เราเหลืออีก 4 คน 210 นาที แต่โดนขโมยเวลาไปจนเหลือ 20 นาที

          >> พวกเราเตรียมข้อมูลการอภิปรายกันอย่างหนัก ใช้เวลาหลายเดือน ส.ส.หน้าใหม่มีความตั้งใจ สังเคราะห์ข้อมูล เชื่อมโยง ซ้อมอภิปราย ทีมงานเบื้องหลังช่วยค้นคว้า ทำสไลด์ แผนภาพให้คนเข้าใจง่าย แต่เจอ ส.ส.บางคนอภิปรายกินเวลาไปเยอะ ไม่เคารพคนอื่น ไม่ทำตามข้อตกลง จนหมดโอกาสอภิปรายในสภา

          >> ร้อนถึง “วัฒนา เมืองสุข” แกนนำพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาเคลียร์ พร้อมแก้ต่างให้กับสมาชิกพรรคในวันรุ่งขึ้น (28 ก.พ.) ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งว่า

          >> “...พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่าจงใจอภิปรายยืดเยื้อเพื่อให้หมดเวลาอภิปราย พล.อ.ประวิตร ผมไม่โกรธที่เพื่อนกล่าวหาเราแบบนั้น เพียงอยากเตือนสติว่า พรรคเพื่อไทยยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการมาก่อนจนมีพรรค อนค. และเป็นพรรคที่ถูกรังแกจากเผด็จการมากที่สุด ผมยอมรับว่าคนของพรรคมีส่วนผิดที่คุมเวลาไม่ได้ แต่คนของเพื่อไทยก็เสียสิทธิอภิปรายหลายคนเช่นกัน การจัดลำดับอภิปราย พล.อ.ประวิตร เป็นคนสุดท้ายก็เป็นมติของพรรคร่วม ดังนั้นข้อกล่าวหาว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อไม่อภิปรายใครจึงเป็นการกล่าวหาลอยๆ ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย วิธีการแบบนี้ผมไม่คุ้นเพราะไม่เคยระแวงหรือกล่าวหาเพื่อนโดยไม่มีหลักฐาน แม้จะมีข่าวว่าเพื่อนแอบไปคุยกับทหารมาก็ตาม...”

          >> จับมือสู้ศึกซักฟอกรัฐบาลกันได้ไม่นาน พรรคร่วมฝ่ายค้านก็หันมาเปิดฉากซัดกันเองเสียแล้ว จะ “ประสานงา” กันต่อไป หรือ “ประสานใจ” กันได้ คงต้องติดตามกันไป...