อะเมซิ่ง "ราคาหุ้นSPRC" เงินหาย 700 ล้าน 3 เดือนเพิ่งโผล่

26 ก.พ. 2563 | 04:20 น.

คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3552 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.63 โดย... พรานบุญ

          Amazing Thailand…ลิงค่าง บ่าง ชะนี อีเห็น ร้องกันระงมไปทั้งพงไพร

          เมื่อบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รายงานผลประกอบการปี 2562 เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 18.30 น. โดยซุกอยู่ในคำอธิบายและการวิเคราะห์งบการเงินว่า บริษัทมีรายได้รวม 1.68 แสนล้านบาท ลดลง 19.2% จากปีก่อนหน้า

          มีผลขาดทุนสุทธิ 2,800 ล้านบาท พลิกจากที่มีกำไร 2,260 ล้านบาทในปี 2561

          สาเหตุที่ขาดทุนท่วมหัวสูงกว่ากำไรในปีก่อน เพราะปริมาณนํ้ามันดิบที่เข้ากลั่นในปี 2562 ลดลงเหลือ 1.34 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนที่ 1.6 แสนบาร์เรลต่อวัน แถมค่าการกลั่นอ่อนตัวลง

          ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ SPRC พลิกมาเป็นขาดทุนครั้งแรก นับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นปี 2558 คือ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารจากปกติ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหาร ในไตรมาส 4 ประมาณ 700 ล้านบาท

          เพราะการถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอี-เมล์ในช่วงปลายปี ทำให้บริษัทมีการชำระเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้อง...โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง! เพราะการถูกโจมตีทางธุรกรรมทางอี-เมล์ในช่วงปลายปี ทำให้บริษัทมีการชำระเงินไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้องจึงมีการโอนไปจ่ายผิดที่ ร่วม 22-23 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 700 ล้านบาท...มึนพ่ะย่ะค่ะ

          หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว SPRC ได้ดำเนินการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที ทั้งภายในและภายนอกโดยทันที เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุและได้เพิ่มระบบป้องกันภายในให้แข็งแกร่งมากขึ้น

 

          ขณะนี้ SPRC ยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการเรียกคืนค่าความเสียหาย แต่ได้มีการรับรู้ค่าความเสียหายในงบการเงินไตรมาส 4 ไว้ก่อน หากไม่รวมค่าความเสียหายนี้ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน...เสือ สิงห์ กระทิง แรด อ้าปากค้างกันสิพี่น้อง!

          การแฮกเงินไปจ่ายเงินในบัญชีใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่คู่สัญญาเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2562 แต่ผู้ถือหุ้น นักลงทุนมารู้เอาคํ่าของวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่เป็นวันปิดตลาด และต้องไปหาอ่าน หรือแกะงบการเงินเอาเอง โดยที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 7795 ก็ไม่ได้ระบุในความเห็น “สมเป็นมืออาชีพ” มากๆ

          พรานฯ ท่องไพรอยู่ในป่าดง อาจไม่รู้มารยาท จรรยาบรรณที่ดีของบริษัทจดทะเบียนของอเมริกันชน แต่พรานฯ คือ หนึ่งในคนออกล่าหาข้อมูลและผลักดันให้ตลาดทุนไทยมีหลักธรรมาภิบาลต่อผู้ถือหุ้นและคู่ค้า ของบริษัทมหาชนมาร่วม 30 ปี เห็นว่าเรื่องแบบนี้ “มิใช่ผู้บริหารบริษัทมหาชน-กรรมการ-กรรมการตรวจสอบ” หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ-ก.ล.ต.จักต้องเพิกเฉย และปล่อยปละละเลย ให้มีคน “ทำเงินจากหุ้น” โดยเด็ดขาด

          มาดูนี่สิพ่ออเมริกันคนดี มาดูนี่สิผู้บริหารตลาดหุ้นคนเก่ง มาดูนี่สิ ก.ล.ต.พ่อทุกสถาบัน!

          บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งฯ หรือ SPRC มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 22,699 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ถึง 22,204 ราย คิดเป็น 39.37%

          ที่เหลือเป็น เชฟรอน เซาท์ เอเชีย โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 2,625 ล้านหุ้น คิดเป็น 60% หรือ 20,744 ล้านบาท ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถืออยู่ 213.4 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.92% มูลค่าหุ้นราว 1,685 ล้านบาท BC INVESTOR SERVICES TRUST ถืออยู่ 75 ล้านหุ้น คิดเป็น1.73% มูลค่า 593.72 ล้านบาท

 

ทิโมธี อลัน พอตเตอร์

 

          ถ้าผู้บริหารสูงสุดคือ ทิโมธี อลัน พอตเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิลเลียม ลูอีส สโตน, สตีเว่น ลีวิส กิ๊บสัน รองประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ วิชัย ชุณหสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง ศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ พงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ณรงค์ ไตรโยธี ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการกลั่นนํ้ามัน พอล แอนดรู รัชเวทธ์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการจัดส่ง

          นํ้ามัน ณัฏฐวรรณ ขำวิรรธน์ ผู้จัดการฝ่ายกฎหมายและกำกับกิจการองค์กร รู้!

          ถ้าคณะกรรมการบริษัท 8 คน คือ แบรนท์ โทมัส ฟิช ประธานกรรมการ ทิโมธี อลัน พอตเตอร์, ปลิว มังกรกนก รองประธานกรรมการ และประธานกรรมการตรวจสอบ นิโคลัส ไมเคิล บอสสึท, เค็ง ลิง ล๊ก, มนูญ ศิริวรรณ, โรเบิร์ต สแตร์ กัทธรี, กมลวรรณ วิปุลากร รู้

          ทำไมผู้ถือหุ้นรายย่อย 22,200 คน ไม่รู้เรื่อง! มาก่อน แถมมารู้เรื่องเอาเมื่อมีการ “แกะงบ” เอาเอง ด้วยซํ้าไป บริษัท SPRC มาชี้แจงและยอมรับกับข่าวนี้ตอน 08.30 น.ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563

 

          การ “ปิดหู-ปิดตา” ผู้ถือหุ้นรายย่อย ไม่บอกว่าเงินหาย บริษัทมีปัญหามายาวนานนั้น พรานฯขอบอกว่า ตายสนิท!

          เงิน 700 ล้านบาทที่ถูกแฮกไป จ่ายบิลผิดบัญชีให้ใครก็ไม่รู้ของฝ่ายบริหารนั้นถือเป็นเงินก้อนโตทีเดียว เพราะคิดเป็น 30% ของกำไรในปีก่อนหน้าเชียวนายท่าน

          พรานฯ อยากบอกทั้ง ก.ล.ต.พ่อทุกสถาบัน-ตลาดหุ้นผู้คุมกฎ Please ตรวจสอบดูราคาหุ้นย้อนหลังหน่อยเถอะว่าเป็นจั๋งใด๋ เพราะพนักงานของบริษัท SPRC มีอยู่ร่วม 500 คน ย่อมมี “นกรู้” ซ่อนตัวอยู่แน่นอน

          เพราะนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นมาหุ้น SPRC มีการซื้อขายผิดปกติ บัดเดี๋ยวแดง บัดเดี๋ยวเขียวสลับการทุบการดันราคามาตลอด และปริมาณการซื้อขายสลับกันตั้งแต่ 100 ล้านบาท 200-300 ล้านบาท บางวันทะลุ 400-600 ล้านบาท

          ราคาถูกผลักจาก 8.75 บาท/หุ้น ขึ้นมา 9.50-10.50 บาท สูงสุด11.50 บาท ก่อนถูกทุบร่วงมาตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2563 จนร่วงลงเหลือ 7.60 บาท และปิดที่ 8.85 บาท

          พรานฯได้กลิ่นมาว่า ถ้าไม่ใช่เสือ ก็เป็นสิงห์ หาไม่ก็พญาอินทรี ที่มีฤทธิ์ในการหาสตุ้งสตางค์รายวัน รายเดือน..หึหึ!

          ถ้าหาร่องรอยไม่ได้ พรานฯชี้โพรงลงไป ให้ ก.ล.ต.เข้าไปส่องดูผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้บริหารและคนในครอบครัว คนใกล้ชิด โบรกเกอร์ อาจเห็นเบาะแส หากลิ่น ร่องรอยบางประการได้

 

วิลเลียม ลูอีส สโตน

 

          วิลเลียม ลูอีส สโตน เคยถือหุ้นอยู่ 80,000 หุ้น ศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ และครอบครัวเคยถือหุ้นอยู่ 78,500 หุ้น จิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ เคยถือหุ้นอยู่ 267,100 หุ้น พงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ เคยถือหุ้นอยู่ 347,300 หุ้น ณรงค์ ไตรโยธี และครอบครัวเคยถือหุ้นอยู่ 500,000 หุ้น ณัฏฐวรรณ ขำวิรรธน์ เคยถือหุ้นอยู่ 205,500 หุ้น ฯลฯ โปรดอย่าปล่อยให้รายย่อย ตายเดี่ยว

          อย่าปล่อยให้ผู้บริหารระดับสูง กรรมการรู้คนเดียวแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่รู้ แถมยังถูกมือดี “แอบรู้ข้อมูลล้วงเงินในกระเป๋าไปใช้” สบายๆ โดยที่ ก.ล.ต.พ่อทุกสถาบันทำอะไรไม่ได้

          อย่าปล่อยให้รายย่อยมารู้ปมปัญหาที่มีผลทำให้ “รายได้-ราคาหุ้น” ของบริษัทจดทะเบียนเอาตอนปลายเด็ดขาด จนเสียรู้ไปเด็ดขาด เจ้าพ่อตลาดหุ้นจ๋า!

          พรานฯไม่ได้บอกว่าเมื่อคนเหล่านี้รู้เรื่องแล้ว จะมีการซื้อขายหุ้นสร้างราคาเอาเปรียบรายย่อยนะขอรับ แต่กลิ่นการทำราคา ทุบราคา มันแรงกว่าแร้งลง!

          นี่พรานฯยังไม่สาวไปถึงการปันผลขณะที่เงินหาย จ่ายโบนัสกรรมการ ผู้บริหารทั้งที่บริษัทขาดทุนนะขอรับ....ไม่พูดมากเจ็บคอ!