>> การถูกตัดสิทธิการสมัคร ส.ส. ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในการขัดคุณสมบัติ ถือครองหรือเป็นเจ้าของสื่อ ซึ่งเป็นข้อห้ามทั้งในพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. และการยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะการกู้เงิน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 191.2 ล้านบาท สะท้อนถึงความอ่อนประสบการณ์อย่างชัดแจ้ง ที่ทำให้ไม่อาจฝากความหวังให้บริหารประเทศไว้กับตัว ธนาธร และคณะได้ เพราะอาจจะพาชาติเข้าสู่ความเสี่ยงนานาประการ
>> ที่บอกว่าด้อยประสบการณ์ เพราะโดยปกติคนธรรมดาที่มีความมุ่งมั่นจะลงสมัคร ส.ส. หรือเป็นผู้บริหารองค์กร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำคุณสมบัติตัวเองให้ตรงตามข้อกำหนดในกฎหมาย หรือคุณสมบัติที่เขาประกาศไว้ คนเป็นหัวหน้าพรรคยิ่งต้องรอบคอบกว่าลูกพรรคหลายเท่า มิใช่คุณสมบัติมีปัญหาแล้วมาแก้ไขด้วยการทำเอกสารย้อนหลัง (backdate) จนกลายเป็น “วัวพันหลัก” ที่สุดศาลก็จับพิรุธได้ หรือการหารายได้การกู้เงิน ถ้ามีข้อสงสัยในกฎหมาย พรรคการเมืองที่มีประสบการณ์จะจัดงานระดมทุน หรือกิจกรรมอะไรที่กฎหมายบอกไว้ไม่ชัด เขาจะทำหนังสือถึง กกต. เพื่อสอบถามว่าอันนี้ทำได้หรือทำไม่ได้อย่างไร เมื่อกกต.ตอบมา ก็จะเป็นเกราะป้องกันการกระทำที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่พฤติกรรม “เด็กอมมือ” ทำสิ่งที่หมิ่นเหม่ไปก่อนแล้วค่อยหาช่อง “ศรีธนญชัย” แก้ แบบนี้ไปไม่รอด ประเทศจึงฝากความเสี่ยงไว้กับ “เด็กอมมือ” ไม่ได้
>> นี่กำลังทำความเสี่ยงอีกรอบ ด้วยการตั้ง “คณะอนาคตใหม่” ทำงาน 2 ขา ขาแรก “กวาดต้อน-ชี้นำ 65 ส.ส.” ที่เหลือหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ให้ไปอยู่ร่วมกัน โดยส่งมอบให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้นำส.ส.พรรคใหม่ในสภา ซึ่งพฤติกรรมบงการ-ชี้นำแบบนี้เข้าข่ายอาจจะผิดกฎหมาย พ.ร.บ.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความเป็นอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม” ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าขัดมาตรา 28 โทษนำไปสู่การยุบพรรคการเมือง ตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกันได้ ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะมีการชักจูงส.ส. 65 คนไปอยู่โดยการบงการของคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก มีสิทธิถูกร้องให้ยุบพรรคซํ้าได้!
>> ส่วนขานอกสภา ของคณะอนาคตใหม่ที่นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคนที่ถูกตัดสิทธิทั้งหลาย อาจจะมีปัญหา เช่น การประกาศยึดหัวเมือง หานักการเมืองท้องถิ่นเข้ารับการเลือกตั้งท้องถิ่น คนที่ถูกส่งโดยชื่อ “คณะอนาคตใหม่” อาจจะถูกตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นได้ เพราะยอมให้คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง “บงการอยู่ข้างหลัง” รวมทั้งการเคลื่อนไหวที่อาจจะขัดข้อกฎหมาย เพราะสิทธิการลงคะแนน เข้าชื่อ เสนอกฎหมายถูกตัดไปด้วย 10 ปีเช่นกัน ไม่ใช่แค่ตัดสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นจงระวังให้ดี ทั้งผู้บงการและผู้ถูกบงการทางการเมือง ที่อาจได้รับการลงโทษต่อไป
>> แต่ก่อนจะเคลื่อนไหวอื่นใด “คณะอนาคตใหม่” ต้องเตรียมรับคดีอาญาที่ต่อเนื่องต่อการยุบพรรค ทั้งความผิดฐานะผู้ให้กู้-ความผิดของกรรมการบริหารพรรคที่รับเงินกู้ ความผิดในการใช้เงินผิดประเภทตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเงินของกลาง (เงินกู้) ในการกระทำความผิดที่กกต.ต้องดำเนินคดี เพราะคำวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด ผูกพันทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 ดังนั้นองค์กรไหนไม่ดำเนินคดีต่อ รวมทั้ง กกต.ก็อาจจะถูกดำเนินคดีแทน และนักร้องดัง ศรีสุวรรณ จรรยา เร่งเครื่องกกต.ให้จัดการคดีอาญากับอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว ดังนั้นแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้พ้นโทษคุกไปก่อนนะจ๊ะ บอกด้วยความหวังดี เพราะเพดานสูงสุดของกฎหมาย โอกาสติดคุกถึง 10 ปี!!!..