ดราม่าเทียบท่าเรือ “เวสเตอร์ดัม” โชคดีปนโชคร้าย

20 ก.พ. 2563 | 08:41 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3550 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2563 โดย... พริกกะเหรี่ยง

 

          .... สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดินกับประกาศิต “บิ๊กแดง-พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์” กับการปฏิรูปกองทัพ จัดระเบียบ ท.พาณิชย์ แก้ปมธุรกิจที่ ท.ทหารไม่ถนัด เรียกเสียงศรัทธา พร้อมกับล้างบางกลุ่มกินหัวคิว หากินกับกองทัพมานานไปพร้อมๆ กัน หนึ่งในนั้นรวมถึงโรงแรมและสนามกอล์ฟ สวนสนประดิพัทธ์ ริมทะเลประจวบฯ ซึ่งเรื่องนี้จริงๆ แล้วมีการคุยกันมาพักใหญ่ว่าจะยกให้กลุ่ม “ดุสิตธานี” เข้ามาบริหาร จังหวะเกิดเรื่องใหญ่กับกองทัพทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น

          .... การยกโรงแรม-สนามกอล์ฟ ให้เอกชนที่มีความชำนาญกว่าเข้ามาสานต่อจึงเร็วขึ้น คาดว่าจะเซ็นสัญญากันเดือนเมษายนนี้ เพื่อลบคำครหาไปได้อีกโครงการหนึ่ง หากมีรายได้เป็นกอบเป็นกำที่จะคืนให้ “กรมธนารักษ์” ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เพราะประเมินที่ดินชายทะแลแถบนั้นหากเป็นการลงทุนโดยเอกชนก็ตีมูลค่าที่ดินมหาศาล ดังนั้นผลตอบแทนก็ควรไม่น่าจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่ใช่แค่ 70 ล้านบาทต่อปีแน่นอน

          .... พิษ “โคโรนา” ยังไม่มีท่าทีสงบง่ายๆ ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และขยายวงไปทั่วโลก การเดินทางท่องเที่ยวคงสลบยาวโดยเฉพาะเที่ยวทางเรือสำราญที่ไม่สำราญ หลังครูซโลกหลายลำที่เบนหางเสือมาแล่นในเส้นทางเอเชีย มีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ “เวสเตอร์ดัม” โชคดีไม่เทียบท่าแหลมฉบัง ไปขึ้นที่ “สีหนุวิลล์”

          .... แต่โชคร้ายที่มีนักท่องเที่ยวติดเชื้อไวรัสแม้จะตรวจพบที่มาเลเซีย แต่ไทยต้องไม่ประมาท ในการคัดกรองผู้โดยสาร ส่วนหนึ่งที่บินมาต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิและอีกส่วนข้ามชายแดนด่าน “อรัญประเทศ” ต้องเข้มงวดและระมัดระวังขั้นสูงสุดทุกด่าน ไม่เว้นแม้แต่คนกัมพูชาที่เข้ามาทางชายแดน เรื่องนี้ประมาทและไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น

          .... พิษไวรัสโคโรนา ล่าสุด 50 ประเทศทั่วโลกไม่ออกวีซ่าให้ต่างชาติที่มาจากจีนในช่วง 2 สัปดาห์ และคนจีนเป็นการชั่วคราว อิตาลีถึงกับข้ามเที่ยวบินจากจีนเข้าประเทศ ส่งผลให้เกิดการกีดกันทางเชื้อชาติย่อยๆ คนเอเชียเข้ายุโรปหรืออเมริกาลำบาก เพราะถูกเพ่งเล็ง ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคกันเอง คนยุโรปเปลี่ยนเป็นเที่ยวกันเองในภูมิภาคหรือไม่ก็ไปแคริบเบียน แอฟริกา หลีกเลี่ยงการเดินทางมาเอเชียชั่วคราว

          .... ส่วนภูมิภาคเอเชียก็ไม่ไว้ใจกันเอง หลายประเทศถูกหมายหัวห้ามเข้า เช่น คนที่เคยไปสิงคโปร์ในช่วง 14 วัน ห้ามเข้ามาเลเซียไม่งั้นโดนกักตัว 14 วัน ประเทศไต้หวันเตือนประชาชนให้ทบทวนการเดินทางมาไทย มาเก๊า และฮ่องกงรัฐบาลเกาหลีเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาไทย ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเก๊า อินเดียมีการกลั่นกรองนักท่องเที่ยวไทย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น

          .... เมื่อการเดินทางทั่วโลกปั่นป่วนและไม่สะดวกผลที่ตามมาก็คือ บุ๊กกิ้งใหม่ “นิ่งสนิท” ไม่มีบุ๊กกิ้งใหม่ คนเลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่า ส่วนที่จองโปรแกรมท่องเที่ยวไว้แล้วก็ทยอยยกเลิกการเดินทางไปก่อน แบงก์ใหญ่ในสิงคโปร์ให้พนักงานทำงานที่บ้าน การประชุมนานาชาติที่ผู้เข้าร่วมประชุมต้องเดินทางมาจากหลายประเทศ “ยกเลิก” ไปก่อน สะท้อนชัดว่า perception ของคนยังเกิดความกลัว “ไม่กล้า” เดินทาง

          .... ดังนั้นสิ่งที่ “ททท.” ทำได้และต้องทำในขณะนี้คือการหันมาเน้น “สื่อสาร” ด้านภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวในทางที่ดีไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม ทางการท่องเที่ยวของไทยทำคลิปวิดีโอ ตามแหล่งท่องเที่ยว ที่แสดงให้เห็นถึงบรรยายของการท่องเที่ยวที่ยังคึกคัก รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลด้านสาธารณสุข ให้ความรู้ในเชิงวิชาการ นำออกเผยแพร่ไปทั่วโลก และสิ่งที่ต้องเร่งทำทันทีคือ ส่งเสริมคนไทยเที่ยวในประเทศอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ที่ทัวร์จีนเที่ยวมากๆ เพื่อต่อลมหายใจธุรกิจอีกทางหนึ่ง