วันพิพากษา 21 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่และกรรมการบริหารพรรคทั้ง 15 คน ที่ กกต.ร้องว่ากระทำผิดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ในการกู้เงินจำนวน 191.2 ล้านบาท จาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และอีก 2 ล้านบาท จากบริษัท โซลิดาริตี้ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงอย่างสมบูรณ์ ทั้งคำประกาศโดยธนาธรเอง คำแถลงของ ปิยบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช รวมทั้งการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของนายธนาธร ต่อป.ป.ช.ที่ระบุการให้กู้เงินอย่างชัดแจ้ง ซึ่งข้อเท็จจริง ยุติแล้วว่ามีการกู้เงินจริง ปัญหาอยู่ที่ข้อกฎหมายที่นักกฎหมายในอนาคตใหม่ บอกว่าไม่ผิด แต่กกต.บอกว่าผิด ซึ่งคนจะตัดสินว่าผิดกฎหมายหรือไม่คือ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้นัดวันวินิจฉัยไว้ชัดแจ้งในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ ไม่มีเปลี่ยนแปลง
เกิดแรงดิ้นของพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแต่หัวหน้าพรรค-กรรมการบริหารพรรค-สมาชิกพรรค-นักวิชาการสายสีส้ม และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง บางพวกที่ออกมาคัดค้านการยุบพรรค ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่า จะยกคำร้องหรือว่ามีความผิด และถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ แต่ชาวอนาคตใหม่ เหมือนตีตนไปก่อนไข้ ราว “ไส้เดือนโดนขี้เถ้า” ที่ตีโพยตีพาย ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค พร้อมแสดงอาการข่มขู่กระบวนการยุติธรรมโดยศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการล่ารายชื่อคัดค้านการยุบพรรค การประกาศว่าหากถูกยุบจะเคลื่อนไหวลงถนน
รวมทั้งการใช้วิธีการ “การเมืองนํ้าเน่า” แบบ “ไดโนเสาร์” ขู่จะฟ้อง กกต.ทั่วประเทศ หากถูกยุบพรรค พร้อมกับระดมคนทั้งที่มีตัวตนในโลกจริง และระดมสมาชิกใน Online (โลกเสมือน) ข่มขู่-กดดัน ไม่ให้ตัดสินยุบพรรค
เห็นอาการ “ไส้เดือนโดนขี้เถ้า” นึกถึงสมัย ทักษิณ ชินวัตร กำลังถูกศาลรัฐธรรมนูญยุคปี 2544 วินิจฉัยในคดีซุกหุ้น ก็เกิดกระบวนการกดดันข่มขู่ศาลเช่นเดียวกัน คนดีๆ อย่าง นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ออกมาปกป้อง ทักษิณ ด้วยวิธี “อัศวินควายดำ” กดดันศาลจนผลตัดสินออกมาเฉียดฉิว 8:7 บอก ทักษิณ ไม่ผิด จนกลายเป็น “อสูรร้าย” ในเวลา 5 ปีต่อมา ให้ไปดูคำวินิจฉัยส่วนตนของ ประเสริฐ นาสกุล อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญขณะนั้น ที่เป็นเสียงข้างน้อย บอกในคำตัดสินชัดเจน ปล่อยไปจะเกิดเหตุ เลวร้าย เหตุการณ์เมื่อปี 2544 กับปัจจุบันปี 2563 กำลังจะซํ้ารอย หรือที่ทั้ง 2 พรรคการเมือง (ไทยรักไทย ปี 2544-อนาคตใหม่ปี 2563) กดดันศาลเพื่อให้คำตัดสินเป็นไปตามที่พวกเขาปรารถนา
ระบอบประชาธิปไตย เขาให้มีอำนาจ 3 อำนาจ ถ่วงดุลและเป็นอิสระจากกัน คือ ฝ่ายบริหาร (รัฐบาล) - นิติบัญญัติ (สภา) - ตุลาการ (ศาล) โดยไม่มีการแทรกแซงกัน แต่นี่พรรคการเมืองซึ่งอยู่ในอำนาจนิติบัญญัติ มีส.ส. 76 คนสำหรับอนาคตใหม่ ขณะนี้กำลังกระทำการแทรกแซงอำนาจตุลาการ แบบนี้เป็นพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ป่าวประกาศกันมาตลอดหรือ? เราควรปล่อยให้ตุลาการทั้ง 9 ได้ใช้ดุลพินิจอย่างอิสระ ไม่ควรข่มขู่-กดดันกระบวนการยุติธรรม ส่วนผลจะออกมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ กรรม! (การกระทำของตัวเอง) ที่ต้องน้อมรับผล อย่าดิ้นให้มากเลย ส้มหวาน!...