กสทช.ต้องเลิกจุ้น เงินเยียวยา คืนคลื่น2600

15 ก.พ. 2563 | 09:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3549 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ.63 โดย... ว.เชิงดอย

 

 

 

               .... เห็น ฐากร ตัณฑ-สิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.ออกมาบอกว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเคาะวงเงินเยียวยาการเรียกคืนคลื่น 2600 จาก บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) วงเงิน 6,685.1 ล้านบาท เพื่อนำคลื่นดังกล่าวไปเป็นส่วนหนึ่งในการประมูล 5G ส่วนเรื่องการแบ่งเงินเยียวยาให้ผู้เสียหาย คือ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ซึ่งได้ทำสัญญาคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์กับ อสมท นั้น บอร์ด กสทช. มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทน ในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ เยียวยาคลื่น หาข้อสรุปอีกครั้งว่า กสทช.จะเป็นคนแบ่งให้คนละครึ่งเอง ระหว่าง อสมท และ เพลย์เวิร์ค หรือ จะให้อสมท เป็นผู้จ่ายเพลย์เวิร์คเอง

               .... ปัญหาคือ ไม่ใช่หน้าที่ของ “กสทช.” ที่จะมาบอกว่าจะแบ่งให้ อสมท และผู้เช่าคลื่นเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ความจริงหากวงเงินเยียวยาได้เท่าไหร่ ต้องคืนให้ อสมท ให้หมด ซึ่งเหมือนกรณีรัฐเวนคืนที่ดิน ที่ต้องจ่ายเงินคืนให้กับเจ้าของที่ครอบครองที่ดิน กรณีนี้ก็เช่นกัน อสมท ต้องเป็นฝ่ายนำเงินมาคืนให้กับผู้เช่าเอง กสทช.ต้องเข้าใจบทบาท หน้าที่ของตัวเอง และไม่ใช่ว่า กสทช.จะไปรู้ดีทั้งหมด ทำให้เกิดคำถามว่า กสทช. และผู้บริหารบางคน รู้เห็นเป็นใจกับผู้เช่าคลื่นหรือไม่ เรื่องนี้ควรดำเนินการให้โปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย...

               .....SvS.... หันไปดูผลพวงจาก “พิษไวรัสโคโรนา” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการ “ท่องเที่ยว” ที่นักท่องเที่ยวจีนหดหายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ “รัฐบาลไทย” ต้องหาหนทางที่จะกอบกู้วิกฤติด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวหนึ่งที่เป็นปัจจัยต่อภาวะเศรษฐกิจไทย ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า เมื่อไทยเจอปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบวงกว้างไปทุกส่วน ทั้งภาคแรงงาน ไกด์นำเที่ยว ผู้ประกอบการรายย่อย โรงแรม รีสอร์ต และอีกหลายภาคส่วน แม้จะเป็นผลกระทบบางช่วงเวลา แต่ส่งผลอย่างมากทุกกลุ่ม ซ้ำเติมปัญหาส่งออกชะลอตัว

 

               .....SvS.... ดังนั้น ดร.สมคิด จึงได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษาฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และอีกหลายหน่วยงาน ร่วมกันหารือถึงแนวทางเพื่อจะช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบ โดยหาทางทำให้เกิดการจ้างงาน หรือลดผลกระทบ ซึ่งจะได้เสนอ ครม.ต่อไปซึ่งมาตรการหนึ่งที่อาจนำมาใช้คือ การส่งเสริมให้ “ไทยเที่ยวไทย” คือการเพิ่มวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำลังศึกษาอยู่ เพื่อส่งเสริมให้มีวันหยุดหลายวัน ระหว่างเดินทางกลับต่างจังหวัดก็จะได้มีโอกาสใช้เงินในแหล่งท่องเที่ยว...รอดูกันไปว่า จะมีมาตรการอะไรออกมาบ้าง เพื่อรับมือกับวิกฤติด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น

               .....SvS.... หันไปกันที่ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ได้ประกาศแต่งตั้ง ดร.อดิศักดิ์แจ้งกมลกุลชัย ให้ดํารงตําแหน่งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ยังได้ดํารงตําแหน่งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซอนโมบิลจํากัด รวมถึงประธานบริหารโครงการอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และ ผู้จัดการใหญ่บริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิลในประเทศไทยอีกด้วย

               .....SvS.... ส่องประวัติดูแล้วไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ ดร.อดิศักดิ์ เพราะจบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมีเทคนิค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์ และปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมเคมี จากมหาวิทยาลัยทัลซา รัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้านประสบการณ์ในการทํางาน เคยดํารงตําแหน่งผู้บริหารหลากหลายตําแหน่ง ในระยะเวลา 28 ปีที่ผ่านมาในบริษัทในเครือของเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น รวมถึงตําแหน่งกรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา บริษัทเอสโซ่ฯ ผู้จัดการบริหารงานวิศวกรรมดูแลยุโรป ตะวันออกกลาง/เอเชียแปซิฟิก ของ ExxonMobil Engineering Europe Limited และนับเป็นคนไทยคนแรก ที่ได้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว

               .....SvS.... ปิดท้าย... ขณะนี้ได้มีบริษัทบางบริษัทที่มีชื่อพ้องกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ดำเนินการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศลขึ้น และได้ขอรับการสนับสนุนไปยังหน่วยงาน และองค์กรต่างๆ จึงขอเรียนแจ้งมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกันว่า “หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ” ได้ดำเนินกิจการในนาม บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด ซึ่งได้เช่าซื้อสิทธิ์มาดำเนินการ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ฐานเศรษฐกิจ” แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลา 30 ปี ดังนั้นหากมีหนังสือร้องขอรับการสนับสนุนทางการเงิน ทั้งในรูปแบบการขอรับบริจาค ขอรับการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ ใช้การสวมรอยแห่งความเป็นสื่อมวลชนในนาม “ฐานเศรษฐกิจ” ไปใช้ทำมาหากิน ขอให้รับทราบกันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจแต่อย่างใดทั้งสิ้น