งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย

14 ก.พ. 2563 | 23:45 น.

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย เซอร์นิโคลัส วินตัน กับตู้โบกี้หนีพญายม

 

ต่อเนื่องจากตอน ซ่งเหม่ยหลิง ผู้มีชนมายุยืนนาน ถึง 106 ปี เกินปุถุชนคนอายุขัยปกติ บางคนตั้งคำถามด้วยสงสัย ว่าในอันที่คนคนหนึ่งจะเปนเซียนขึ้นมาได้ (อายุยืนเกินร้อยปี) มันพอจะมีเหตุอะไร มากไปกว่ายีนส์_พันธุกรรมดีและมีสุขภาพแข็งแรง ก็เรียนว่าอาจจะเปนด้วยกุศลกรรมบทช่วยชีวิตคนไว้มากกระมัง แรงกุศลทั้งนั้นจึงคงอาจดลให้คนผู้ช่วยชีวิตคนอื่นมีชนมายุยืนนานกว่าชาวบ้าน  ตามกฎแห่งสัจจะความจริงชนิดว่า ‘ให้อะไรได้อย่างนั้น’ จนสามารถเลื่อนชั้นขึ้นเปนที่เซียน (seer) อายุเกินร้อยปีทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย

ที่สถานีรถไฟกรุงปราก ชานชาลาหมายเลข 1 ยังมีรูปหล่อโลหะ ของเด็กสองคนผู้ใหญ่หนึ่งในลักษณาการมุ่งรอลุ้นการมาถึงของรถไฟ เผินๆ เหมือนเปนครอบครัว พ่ออุ้มลูกเล็ก กระเป๋าเดินทาง และลูกสาวยืนไม่ห่าง แท้แล้วคนทั้งสามไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันเลย รูปปั้นนี้เปนอนุสาวรีย์เงียบ ของชายอังกฤษคนหนึ่ง ที่เฝ้าลุ้นรอขบวนรถไฟมารับพาเอาประดาเด็กยิวชายหญิงหนีพญามัจจุราชนาซีที่กำลังเอื้อมมือมาคร่าพรากเอาชีวิตในรูปแบบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตามนโยบายฮิตเลอร์

เซอร์ นิโคลัส วินตัน คือบุรุษใส่แว่นตามรูปปั้นโลหะนี้ เปน เซอร์นิโคลัส วินตันผู้ซึ่งชนมายุยืนยาว ถึง 106 ปี

บุรุษนี้ยามเมื่อฮิตเลอร์ทำการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ยิวโดยลำพัง และไม่แพร่งพรายกับใครได้ช่วยชีวิตเด็กยิวชายหญิงในยุโรปตะวันออกไว้ได้มากถึง 669 คน วินตันมีเชื้อเยอรมัน เกิดในอังกฤษทำงานในวงการเงินอย่างว่าไฟแนนซ์ และค้าหุ้น ยามเมื่อสงครามมาถึง เข้ารับหน้าที่ในกองทัพอากาศ ซึมเข้าปฏิบัติงานในยุโรปตะวันออก

สิ่งที่วินตันทำเปนปรากฏการณ์อย่างว่ามนุษย์ต่อมนุษย์ควรต้องกระทำแก่กันยามเมื่อมนุษย์อีกฝ่ายมีภัยมรณะมาถึงตัว แม้ว่ามีอีกหลายคนที่ลงมือช่วยเหลือผู้ใกล้จะตายโดยไม่มีความผิดอะไรมากไปกว่าเกิดมาเปนยิว แต่สิ่งที่พิเศษไปกว่าผู้อื่นนั้นคือ งานของวินตันเปนการกระทำจากใจ นอกเหนือจากการสั่งการ แล้วการกระทำนั้นได้ปิดงำไว้เปนความลับสนิทแน่นไม่ประกาศแก่ใครอย่างว่าปิดทองหลังพระ

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย

เขาทำทีไปเล่นสกี เข้าๆออกๆ เช็กโกฯ แต่ลับหลังแล้วเปิดห้องที่โรงแรมเปนสำนักงานเคลื่อนที่ ร่วมกับกลุ่มผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน จัดหารถไฟ วิ่งเต้นหาที่พักและครอบครัวอุปถัมภ์ในอังกฤษและส่งข้อความถึงชาติสัมพันธมิตรให้เด็กหนีภัยเหล่านี้หนีรอดเงื้อมมือมัจจุราชไปได้ตลอดรอดฝั่ง ท่ามกลางกลิ่นอายมรณะคละคลุ้งปกคลุมอยู่ในทุกอณูอากาศ เด็กๆ ไร้เดียงสาไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นแก่ตัว เขาเฝ้ารอลุ้นใจหายใจคว่ำทุกครั้งที่ขบวนรถตู้เปล่าที่รับเงินสินบนจากเขาจะรักษาคำพูดขับเทียบเข้าชานชาลามารับเด็กๆ แล้วเร่งเครื่องหนีออกนอกพรมแดนให้ทันท่วงที

จนกระทั่งฮิตเลอร์แพ้พ่าย สงครามยุติ วินตันกลับมาอังกฤษเข้าทำงานในวงการหลักทรัพย์ต่อไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

เซียนก็ปะปนกับคนเดินถนนทั่วไป

ย่างเข้าวัยชราแล้ว ภริยาของวินตันจึงได้ค้นเจอสมุดบันทึกเก่าแก่เล่มหนึ่ง ซึ่งเขาได้จดบันทึกชื่อ_สกุลและที่ไปของเด็กเยาวชนเหล่านั้น ว่าปลายทางได้ไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ที่ไหนกับใครบ้าง

ความลับที่ฝังไว้จึงเปิดเผย ภริยาคนนี้นำบันทึกลึกลับไปหา สถานีโทรทัศน์อังกฤษ ผู้ซึ่งในเวลาต่อมาสืบเสาะและเจาะหาบุคคลที่ปรากฏตามรายชื่อในบันทึก วันหนึ่งสถานีก็ขอเชิญนิโคลัส วินตันไปออกรายการโทรทัศน์ เล่าให้ผู้ชมทางบ้านฟังถึงวีรกรรมตู้รถไฟที่ปกปิดเปนความลับมานานเรื่องนี้

สมุดบันทึกลึกลับ

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย

ท่านผู้เฒ่าในวัย จะแปดสิบปี ใส่สูทผู้ดีนั่งในห้องส่งกับภริยาแวดล้อมด้วย บุรุษสตรีผมสีดอกเลาที่แลละม้ายคล้ายผู้ชมทั่วไปในห้องส่ง พลันพิธีกรกล่าวถึงตอนสำคัญว่า ผู้ใดรู้สึกเปนหนี้บุญคุณท่านผู้นี้บ้างขอให้ลุกขึ้นยืน นิโคลัสผู้เฒ่าก็งวยงง เพราะผู้คนแวดล้อมทั้งห้องส่งกว่าสี่สิบคนลุกขึ้นยืนแสดงความขอบคุณ วีรชนชราเลิกลั่ก หมุนตัวบนเก้าอี้ไปมองเบื้องหลังทางซ้ายทางขวา ด้วยความงุนงงที่เห็นผู้คนผมสีดอกเลาทั้งชายหญิงลุกขึ้นยืนและปรบมือเบาๆ

พลันระบบความทรงจำก็หวนคืนถึงวันเก่าที่เฝ้ารอลุ้นใจหายใจคว่ำให้รถไฟคันแล้วคันเล่า มาทยอยรับเยาวชนยิวหนีออกนอกประเทศ และ โดยเชื่อมกับสมองส่วนเหตุผล ว่าเวลาผ่านมานานโขหลายทศวรรษ ภาพจำที่นึกถึงแต่เด็กๆผู้ได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิต มาบัดนี้พวกเขาจำเริญวัยและรอดพ้นภยันตรายนานามาจนมีอายุถึงวัยปลดเกษียณ นิโคลัส วินตัน ผู้เฒ่าในแวดล้อมของลมหายใจที่ตนเองช่วยชีวิตเอาไว้แม้จะข่มอารมณ์เพียงใดก็ไม่อาจหยุดน้ำตา แห่งความสะเทือนใจปนตื้นตันที่รื่นล้น

วินตันและเด็กสาวที่ช่วยชีวิตไว้

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย

เมื่อความลับเผยแล้ว อีก 15 ปีต่อมา ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ตั้งนิโคลัส วินตัน เปนอัศวินแห่งจักรวรรดิอังกฤษ ทรงใช้พระแสงกระบี่อัศวินแตะไหล่อวยยศ เปนท่านเซอร์ในวัย 93 ปี ต่อข้อถามเรื่องเหตุไรจึงต้องเก็บงำเรื่องวีรกรรมเปนความลับ ในวัย 105 ปี อัศวินเฒ่า เอื้อนเอ่ยแผ่วเบา “ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง แค่ไม่ได้พูดถึงเท่านั้น”

ก่อนจากไกลในวันจากลา เซอร์นิโคลัสวินตัน กล่าวว่า “If everybody believed in ethics we’d have no problems at all; forget the religious side.” - ถ้าชนทั้งหลายตั้งมั่นในมโนธรรมเสียแล้วโลกเราจะไม่มีปัญหาเลย ไม่ต้องนับเอาศาสนามาแบ่งแยกกันด้วยซ้ำ -

เช่นนี้ย่อมนับเปนวรธรรมคติจากท่านเซียนผู้สำเร็จเเท้จริง

 

หน้า 27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

งานปิดทองหลังพระ ในเช็กโกสโลวักเกีย