ราคาน้ำตาลโลกขยับ แต่ผลผลิตอ้อยร่วงกราวรูด

15 ก.พ. 2563 | 20:20 น.

คอลัมน์ : Let Me Think
โดย      : TATA007

เริ่มกลับมาเห็นปรากฏการณ์การผันผวนของราคานํ้าตาลในตลาดโลกอีกครั้ง แต่คราวนี้แนวโน้มดี ส่งสัญญาณราคานํ้าตาลไต่ระดับขาขึ้น โดยราคากลับมาขยับไปทิศทางบวกในรอบ 3-4 ปี แรงส่งแรกที่ทำให้ราคานํ้าตาลกลับมาดีดบวก เริ่มตั้งแต่ทั่วโลกมีผลผลิตอ้อยและนํ้าตาลน้อยกว่าความต้องการใช้หรือเข้าใจง่ายๆ คือ ในโลกขาดนํ้าตาลอยู่ราว 6-7 ล้านตันนํ้าตาลที่อยู่ในสต๊อกโลกและปริมาณสต๊อกจะลดลงต่อเนื่องถึงปี 2563/2564

แรงส่งประการที่ 2 ประเทศผู้ผลิตอ้อยและนํ้าตาลรายสำคัญมีผลผลิตลดลง เช่น อเมริกา ฟิลิปปินส์ และโดยเฉพาะอินเดีย ผลผลิตน้ำตาลลดลงจาก 33 ล้านตันน้ำตาล ลงมาเหลือ 26-27 ล้านตันน้ำตาล เช่นเดียวกับประเทศไทยจากปีที่ผ่านมามีผลผลิตอ้อยอยู่ที่ 130.97 ล้านตัน มีปริมาณนํ้าตาล 14.5 ล้านตัน ปี 2562/2563 ที่กำลังหีบอยู่ในขณะนี้ มีตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เพิ่งได้ปริมาณอ้อยที่ 64.3ล้านตัน ปีนี้จะปิดหีบไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเร็วกว่าทุกปี เพราะมีผลผลิตอ้อยน้อยลงจนน่าใจหาย ขณะที่ปีที่ผ่านๆ มาจะปิดหีบอ้อยได้ลากยาวไปถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอ้อยเพียง 80 ล้านตันอ้อย เพราะถ้าปริมาณอ้อยไม่ถึง 80 ล้านตันอ้อย แปลว่าจะได้นํ้าตาลไม่ถึง 8.5 ล้านตัน นํ้าตาล เปรียบเทียบกับเมื่อปี 2561/2562 มีนํ้าตาลสูงถึง 14.5 ล้านตันนํ้าตาลปริมาณนํ้าตาลหายไป 6 ล้านตัน

ราคาน้ำตาลโลกขยับ แต่ผลผลิตอ้อยร่วงกราวรูด

จากความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะประเทศไทยเคยส่งออกนํ้าตาลได้ถึงปีละ 11-12 ล้านตัน ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์ 2 ผู้ส่งออกนํ้าตาลรายใหญ่ของโลกรองจากบราซิล ปัจจุบันเหลือส่งออกเพียง 5-6 ล้านตัน เพราะความแห้งแล้ง ทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นแทน แต่ก็ยังมีข้อดีผลผลิตน้อย ทำให้ราคานํ้าตาลพุ่งสูงขึ้นเป็นธรรมดาของตลาด

แรงส่งประการที่ 3 นักเก็งกำไรกลับมาซื้อตั๋วนํ้าตาล จากเดิมขายออกตั๋วนํ้าตาล ตอนนี้กลับมาซื้อตั๋วนํ้าตาลมากขึ้น และซื้อมากกว่าตอนขายตั๋วนํ้าตาลอยู่ 129,984 ล็อต (ณ 4 ก.พ. 63) หรือเทียบเท่ากับ 6.6 ล้านตันนํ้าตาล เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันวันที่ 10 กันยายน 2562 ถือตั๋ว
นํ้าตาลเป็นตั๋วขายมากกว่าตั๋วซื้ออยู่ 225,812 ล็อต หรือเทียบเท่ากับ 11.47 ล้านตันนํ้าตาล เท่ากับซื้อนํ้าตาลไป-กลับ จากขายกลายเป็นซื้อ หรือเท่ากับซื้อนํ้าตาลเพิ่มเข้ามาประมาณ 18 ล้านตันนํ้าตาล

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ราคาอ้อยจากตันละ 1,000 บาท ขยับลงมาที่ราคา 880 บาทต่อตัน ก่อนที่อ้อยราคาจะร่วงลงมาที่ 700 บาทต่อตันและล่าสุดอยู่ที่ 750 บาทต่อตัน เช่นเดียวกับราคานํ้าตาลโลก เมื่อ 3-4 ปีก่อนอยู่ที่ 20-24 เซ็นต์ต่อปอนด์ ต่อมาอ่อนตัวลงมาที่ 15-16เซ็นต์ต่อปอนด์ ก่อนที่จะร่วงลงมาที่ 13.42 เซ็นต์ต่อปอนด์ ล่าสุดราคาขยับมาที่ 15 เซ็นต์ต่อปอนด์ และแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นอีก น่าจะไต่ระดับไปถึง 17-18 เซ็นต์ต่อปอนด์

สอดคล้องกับที่นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท นํ้าตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายนํ้าตาลทรายอย่างครบวงจรเผยว่า ขณะนี้ถ้าดูปริมาณนํ้าตาลทั่วโลกติดลบ สต๊อกนํ้าตาลที่เคยมีก็ลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ยังสูง และหากมองในแง่ราคาก็มีการเก็งกำไรมากขึ้น โดยรวมราคานํ้าตาลทรายดิบส่งออกเริ่มผงกหัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จาก 11-12 เซ็นต์ ต่อปอนด์ ล่าสุดขยับขึ้นมาที่ 14.9-15 เซ็นต์ต่อปอนด์ และคาดการณ์ว่าราคาจะทะยานสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ปัญหาคือพอราคาดี ผลผลิตกลับน้อยลง และผลผลิตสุดท้ายเมื่อปิดหีบในเร็ววันนี้ น่าจะมีปริมาณอ้อย ไม่เกิน 80 ล้านตันอ้อย ซึ่งน้อยลงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าราคานํ้าตาลโลกขยับไปในจังหวะขาขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ผลผลิตร่วง เพราะรอฟ้าประทาน “ฝน” ปีนี้ชาวไร่อ้อยบ่นหนักว่า นอกจากการปลูกอ้อยไม่เป็นไปตามภาวะปกติแล้ว แม้แต่ตออ้อยที่จะต่อยอดในฤดูถัดไปก็ยังต้องรอความหวังจากฟ้า!

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,549 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ราคาน้ำตาลโลกขยับ แต่ผลผลิตอ้อยร่วงกราวรูด