คอลัมภ์ : ตื้น-ลึก-หนา-บาง
โดย : เรดไลออน
ไวรัสอู่ฮั่นเขย่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและซัพพลายเชนทั่วโลก ส่วนประเทศไทยโดนเข้าไปเต็มเปาตลาดทัวร์จีน 10 ล้านคนที่เคยมาเที่ยวเมืองไทยปีที่แล้วหายวับทันที ที่หลงเหลืออยู่บ้างเป็นพวก “เอฟไอที” หรือเดินทางมาท่องเที่ยวเองแบบอิสระ มีผลทันตาเห็นหลังวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยวิ่งวุ่นประชุมถี่ยิบ เพื่อหาทางรับมือแต่ดูเหมือนหนทางยังมืดมน หลายเวทีมีความเห็นตรงกันว่า ช่วงนี้ยังทำอะไรมากไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง การใช้กลยุทธ์ ลดราคา-อัดโปรโมชันก็น่าจะสูญเปล่า เพราะคน “ไม่มีอารมณ์” เดินทาง
สิ่งที่ทำได้คือเสนอมาตรการให้รัฐบาลเข้ามาเยียวยาเป็นการด่วนไม่ว่าจะเป็นการอัดฉีดด้านวงเงินสินเชื่อพยุงธุรกิจที่กระทบไปทั่วทุกหัวระแหงตั้งแต่ สายการบินไปจนถึงหมอนวดชายหาด คนขับเรือหางยาว ไกด์-รถบัส ระบบขนส่งตกงานทันทีและธุรกิจ เอสเอ็มอี กระทบหนักสุด
ดังนั้นมาตรการที่เอกชนต้องการให้รัฐเข้ามาเยียวยา ตั้งแต่ขอวงเงินสินเชื่อ ยกเว้นดอกเบี้ย ชะลอการส่งคืนเงินต้น การผ่อนปรนเรื่องมาตรการภาษี อัดฉีดให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดประชุม เดินทางในประเทศ ฯลฯ สารพัดวิธีเพื่อหาทางรอด
เพราะผลกระทบครั้งนี้รุนแรงและเร็วมาก ประเมินเบื้องต้นเดือนมกราคม-เมษายน คาดนักท่องเที่ยวหายไป 2.4 ล้านคน คาดสูญเสียรายได้ 3 แสนล้านบาท ฉะนั้นหากรัฐบาลยังนิ่งเฉย คนทำงานในแวดวงนี้ร่วม 4 ล้านคน คงอลเวง บริษัทกว่า 6 หมื่นรายมีสิทธิ์ล้มครืนเป็น “โดมิโน”
แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาส แต่จะตั้งการ์ดรับมืออย่างไร? ประมวลจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าที่ต้องทำคือเรียก “ความเชื่อมั่น” เริ่มจากคนในวงการท่องเที่ยวก่อน ถึงจะไปกวักมือเรียกคนอื่นให้เดินทางท่องเที่ยวและเริ่มจากในประเทศ เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือเที่ยวใกล้ ๆ ได้หมด
ส่วนช่วงนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ถือโอกาส “เวเคชัน” พักผ่อนกันไปก่อน เพราะทั้งอินบาวด์-เอาต์บาวด์ กระทบยาว ส่วนธุรกิจโรงแรม - ท่องเที่ยว ช่วงนี้เขารับมือกันอย่างไรมาดูกัน
1. อันดับแรกคือประหยัด ลดค่าใช้จ่ายทันที หลายโรงแรมงัดมาตรการนี้มาใช้ทันที ยกเลิกการเดินทางบิสิเนสทริปลดปริมาณการสั่งของวัตถุดิบ อาหาร และอื่น ๆ
2. ลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เลิกจ้างพนักงานนอกเวลา ไม่รับคนเพิ่ม บางโรงแรมนำพนักงานออฟฟิศมาช่วยเสริมบริการ เก็บจาน จัดโต๊ะ ลดค่าใช้จ่ายให้อยู่รอดในช่วงที่รายได้หดหาย
3. ลดวันทำงาน บีบให้ใช้วันลาพักร้อน หากไม่มีดีขึ้นบังคับให้ลาโดยไม่รับเงินเดือน แต่ยังไม่ถึงขั้นลดพนักงาน
4. ปิดบางฟลอร์สำหรับโรงแรมที่มีห้องพักมากๆ หรือถ้าเป็นโรงแรมขนาดเล็กหรือรีสอร์ตปิดกิจการชั่วคราว
5. เทรนนิ่ง จัดโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานเพื่อยกระดับการบริการรอ โอกาสธุรกิจฟื้น รวมถึงถือโอกาสปรับปรุงองค์กร ตกแต่งออฟฟิศ จัดระบบการทำงานใหม่ ฯลฯ
6. มองหาตลาดใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน ตลาดนักท่องเทียวจีน เช่น อาเซียน ซีแอลเอ็มวี หรือตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
7. สร้างความเชื่อมั่นให้คนเดินทาง เริ่มจากคนในแวดวงการท่องเที่ยวก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างก่อนที่จะชักชวนคนอื่นเดินทางท่องเที่ยว
8. ถือโอกาสพักผ่อน พักสมองผ่อนคลาย หลังทำงานหนักมาทั้งปี
9. สนับสนุนให้คนไทยเที่ยวในประเทศ เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนและช่วยผู้ประกอบการรายย่อยให้มีรายได้ เพราะไม่มีอะไรดีและทำได้เร็วเท่ากับการส่งเสริมให้คนไทยช่วยกันเที่ยวในประเทศ
10.วางแผนรับมือรอวันที่ตลาดนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
เมื่อสถานการณ์ยังไม่นิ่งอย่างน้อย 10 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการได้ไม่มากก็น้อยดีกว่านั่งรอมาตรการเยี่ยวยาจากรัฐบาลซึ่งไม่รู้เมื่อไรจะคลอด !!