เริ่มนับถอยหลังสำหรับพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดตัดสินในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 15.00 น. ในคดีที่ พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคตัวเอง ซึ่งมีเอกสารหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า มีการกู้เงินจริงจำนวนกว่า 191 ล้านบาท จน “กกต.” มีมติส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัย “ยุบพรรค”
ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ตามคำร้องของกกต.และคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีพอวินิจฉัยได้ จึงไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนพยานบุคคล เปิดโอกาสให้พยานบุคคล 17 ปาก ตามที่พรรคอนาคตใหม่ยื่น จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นเป็นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ และให้เลขาธิการ กกต.ส่งเอกสารต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เช่นกัน
สำหรับปฏิกิริยาของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ นอกจาก ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯพรรค จะออกมาโวยวายและข่มขู่ศาลทำนองว่า หากพรรคถูกยุบจะไปเคลื่อนไหวนอกสภาแล้ว
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคก็เป็นอีกคนที่ออกมาโวยศาลว่า ไม่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวนพยานเพิ่มเติม พร้อมเรียกร้องให้สังคมช่วยกันตั้งข้อสังสัยว่า คดีนี้มีเอกสารหลุดจากกกต.มาแล้ว ทางพรรคเอง ขอให้ศาลยื่นสอบพยานทั้ง 17 คน ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน ที่วินิจฉัยว่าให้ยกฟ้องในกรณีนี้ จึงอยากทราบว่าทำไมศาลจึงไม่เปิดให้มีโอกาสไต่สวนพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต.
ธนาธร ยังชี้ว่าคดีนี้ควรจะยกฟ้อง เพราะ 1. ไม่มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามพรรคการ เมืองกู้เงิน 2. พรรคการเมืองอื่นก็กู้เงิน 3. เงินกู้ไม่ใช่รายได้และไม่ใช่เงินบริจาค
แม้พรรคอนาคตใหม่จะโวยวายอะไรก็ตาม มาถึงนาทีนี้แล้ว คงหนีไม่พ้นที่จะต้องนับวันรอการ “พิพากษา” จาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งหากศาลวินิจฉัยให้ยุบพรรค ส.ส.ก็ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน
ส่วน “คณะกรรมการบริหารพรรค” ต้องสิ้นสภาพความเป็น ส.ส. และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทั้งยังต้องไปลุ้นว่าจะเจอโทษจำคุกในคดีอาญาไม่เกิน 5 ปีอีกหรือไม่... 21 กุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นอีกประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ต้องติดตาม...