แบงก์ชาติอุ้ม “ภาคอสังหาฯ” ดี๊ด๊าถ้วนหน้า

23 ม.ค. 2563 | 05:05 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,542 ระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค. 2563 โดย... พริกกะเหรี่ยง

แบงก์ชาติอุ้ม “ภาคอสังหาฯ” ดี๊ด๊าถ้วนหน้า


          ....อีกอึดใจเดียวก็จะถึงเทศกาลสำคัญ การเฉลิมฉลอง “ตรุษจีน” ท่ามกลางวิกฤติ ที่ยังคิดกันไม่ตก เมื่อคนไทยอยู่ในอาการ “ชีวิตเปลื้อนฝุ่น” กันทั่วหน้า “ฝุ่นพิษ - PM 2.5” จนบัดนี้ยังไม่มีทางออก พอๆ กับวิกฤติน้ำที่ยังไม่เห็น“วิชัน” จากผู้รับผิดชอบจะออกมาแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนโยบายรายวัน จับรถควันดำ ดับเครื่องยนต์  พ่นน้ำ  แจกน้ำ  แจกหน้ากาก  เหมือนให้ดูดีมีอะไรออกมาช่วยชาวบ้านเป็นรายวันดูไม่สมกับภูมิปัญญาระดับผู้บริหารประเทศเอาเสียเลย 

          .....หรือว่าประเทศไทยยามนี้เกิด “วิสัยทัศน์วิกฤติ” อย่างรุนแรงไปเสียแล้วถึงยอมให้คนไทยตายผ่อนส่งจากฝุ่นพิษ ไม่มีน้ำทำการเกษตร และลามไปถึงไม่มีน้ำจะดื่ม-กิน ส่วนน้ำประปาก็เค็มต้องกรอง ต้องกลั่น ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?  ผ่านมาไม่กี่รัฐบาลก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น นี่ยังไม่รวมเรื่องปากท้อง ของแพง แต่สินค้าเกษตรถูกแสนถูก  ปัญหาซ้ำซากเหล่านี้เมื่อไรจะมีการแก้ไขอย่างเป็นระบบสักที เห็นแล้วอนาถใจจริงๆ 

          ..... ข่าว “กรณ์ จาติกวณิช” ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ทำเอาฮือฮาไปทั้งประเทศ แต่ที่น่าจับตากว่าก็คือการเปิดตัวพรรคใหม่ที่มี แม่บ้านอย่าง “โจ-ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” ที่ยังจัดว่าเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่ประสบผลสำเร็จจากค่ายเพลงวอเนอร์ ก่อนจะมาเปิดตัวเป็นซีอีโอ สายการบินต้นทุนต่ำโลว์คอสต์แอร์ไลน์ แอร์เอเซีย

          .....ซึ่งขณะนั้นคนไทยยังไม่รู้จักว่า “โลว์คอสต์” คืออะไร และใครๆ ก็บินได้จริงรึ? และผู้ชายคนนี้ก็ทำเอาวงการแอร์ไลน์สั่นสะเทือนไปทั่วหน้า แม้ก่อนหน้านั้นจะถูกสบประมาทว่าไม่มีประสบการณ์แอร์ไลน์มาก่อน  ครั้งนี้ก็น่าจับตาเช่นกันว่า (ว่าที่) เลขาธิการพรรคใหม่ภายใต้ร่มเงาคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ระดับนายแบงก์โลก นักบริหารมืออาชีพจะรุกขึ้นมาสร้างสรรค์การเมืองไทยให้พ้นน้ำเน่าได้ไหม

          .....ในที่สุดแบงก์ชาติก็ออกมาตรการมาอุ้ม “ภาคอสังหาฯ” โดยผ่อนปรนมาตรการ “LTV” โดยบ้านหลังแรก เพิ่มสินเชื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่อเนื่องอีก 10%  เท่ากับได้สินเชื่อ 110% ส่วนบ้านหลังที่ 2 ลดจาก 3 ปีเหลือ 2 ปีให้สามารถกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้ ทำเอาผู้ประกอบการดี๊ด๊าถ้วนหน้า แต่ที่เฮ!หนัก เห็นทีจะเป็นบรรดาสินค้าตกแต่งบ้านเฟอร์นิเจอร์ สิ่งของที่ต้องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้อานิสงส์หมด

          .....ถือเป็นเรื่องดีๆ ในการผ่อนคลายและกระตุ้นกำลังซื้อทำให้บรรยากาศในการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น แม้ไม่ใช่ “ยาแรง” และแบงก์ชาติก็คงโฟกัสไปยังผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงไม่ใช่เก็งกำไร ตีโป่งเป็นฟองสบู่ลูกโปร่งแตก หลังจากปี 2540 ประเทศไทยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาแล้ว

          .....อีกเรื่องที่ลุ้นกันระทึก ! ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วการเปิดซอง 3 ด้านราคาประมูลเมืองการบินอู่ตะเภา ในที่สุดไพ่ในสุดท้ายก็ถูกเปิดขึ้นด้วยราคาระหว่างกลุ่มธนโฮลดิ้งของ “เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์” กับพันธมิตรและกลุ่มบีทีเอส และพันธมิตรขาใหญ่อย่าง “หมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ที่เปิดตัวเลขออกมาแล้วต้องอ้าปากค้าง เมื่อบีทีเอสเสนอสูงสุดถึง 3.05 แสนล้านบาท 

          ..... ส่วน “เจ้าสัวซีพี” เสนอแค่ 1.02 แสนล้านบาท ตัวเลขห่างกันกว่า 2 แสนล้านบาท ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า “โมเดลธุรกิจ” ของกลุ่มบีทีเอสจะทำอย่างไรถึงจะได้เงินมากมายก่ายกองขนาดนั้น  ในเมื่อพลาดรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว  แต่ก็อย่างที่ว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เพราะหากโมเดลธุรกิจ และโครงสร้างการเงินของผู้ที่เสนอสูงสุด คณะกรรมการประเมินแล้ว “อิมพอสสิเบิล” ก็อาจมีสิทธิ์ปิ้วได้เช่นกัน ฉะนั้นต้องรอลุ้นอีกรอบเดือนมีนาคมนี้

 

          .....อีกเรื่องที่ใกล้คลอดเต็นทน ก.ม.ลูก 8 ฉบับของ พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ฟากกระทรวงการคลังบอกว่าส่งให้มหาดไทยไป 2 สัปดาห์แล้วรอจดปากกา รู้ว่าไส้ในของ ก.ม.ลูกมีอะไรบ้าง ซึ่งจะเคลียร์คัต “ดราม่า” เรื่องชนิดของการปลูกต้นไม้ว่าอะไรปลูกแค่ไหน ที่จะเข้าเกณฑ์ และตีความเป็นพื้นที่เกษตร หลังแลนด์ลอร์ด งัดที่ดินรกร้างมาพลิกผันเป็นชาวสวน ปลูกมะนาว ปลูกกล้วย กันเกลื่อนกรุง  เพื่อเลี่ยงภาษีให้จ่ายลดลง ก.ม.ลูกคลอดเมื่อไร บรรดาเศรษฐีทั้งหลายจะได้หาย “ยืนงงกลางดงกล้วย” เสียที

          .....ก่อนหน้านั้นมหาดไทยออกมายืนยันว่าเก็บภาษีไม่ทันเดือนเมษายนนี้ ถึงขยับไปเป็นเดือนสิงหาคม เพราะรอก.ม.ลูก ล่าสุดคลังออกมาระบุว่าส่งร่างก.ม.ลูกให้มหาดไทยแล้ว คราวนี้จะยกอะไรมาเป็นข้ออ้าง และทำให้ชาวบ้านได้หายสับสนกันสักที อีกทั้งคลังยังออกมายืนยันอีกว่า ภาษีใหม่ไม่ได้ทำให้รายได้ กทม.ลดลง เพราะมีการเก็บภาษี “คอนโดมิเนียม” ที่ไม่เคยเก็บมาก่อนกับที่รกร้างว่างเปล่า ส่วนโรงแรมจ่ายน้อยลงและเป็นหน้าที่ของกทม.ที่ต้องไปไล่ประเมินจากผู้เสียภาษี ไม่ใช่ให้ชาวบ้านมาแจ้งทรัพย์สินเพื่อเสียภาษี ตามสำนักงานเขต ที่ทำเอาแตกตื่นกันทั้งกรุง อ้าว! อีกอึดใจเดียวรู้เรื่อง

          .....รับปีหนูทอง “ตรุษจีนเยาวราช” จัดยิ่งใหญ่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ตั้งแต่วันที่ 25-26 มกราคม “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” แม่งานใหญ่ การันตีปีนี้ ทั้งขยายพื้นที่จัดงานสุดอลังการ จัดเต็มสีสัน ความสนุกความสุขและบันเทิงเต็มพิกัด ทั้งการแสดงสิงโตบนดอกเหมย การแสดงสิงโต 22 หัว  ศิลปินนักร้อง อาทิ โบ-สุนิตา ลีติกุล, ศิลปินวงสลอต แมชชีน, ศิลปินวงบีไฟฟ์, วงลิปตา, สิงโต นำโชค, คุณไอซ์-ศรัณยู เป็นต้น การแสดงทางวัฒนธรรมที่รัฐบาลจีนส่งมาร่วมงาน แวะเวียนไปได้ที่ ณ บริเวณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช 

          .....ส่วนภาครัฐอย่าง ททท.ปีนี้จัดใหญ่เช่นกันเพราะถือเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีนครบรอบ 45 ปี  นอกจากศิลปินดังหลากหลายสาขาที่บินตรงจากเมืองจีนมาฉลองในไทยแล้วตัวแทนรัฐบาลจีนระดับรัฐมนตรียังมาร่วมเปิดกิจกรรมตรุษจีนที่ สยามสแควร์ ร่วมกับ รมต. “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ส่วนที่บู๊ธททท. เยาวราช จะมีการแจกเหรียญ “ท่านเจ้าคุณธงชัย” วันละ 9,999 เหรียญ เสริมสิริมงคลช่วงตรุษจีน