‘แป๊ะ’เจอ‘โจ๊ก’ ไบโอเมทริกซ์-ป.ป.ช.

22 ม.ค. 2563 | 08:30 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3542 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 26-29 ม.ค.63 โดย...พรานบุญ


‘แป๊ะ’เจอ‘โจ๊ก’
ไบโอเมทริกซ์-ป.ป.ช.  


 
          กึกก้องไปทั้งปฐพี กับปรากฏการณ์ “ไบโอเมทริกซ์” ที่นำมาคัดกรองคนเข้าออกประเทศ ซึ่ง “โจ๊ก” ออกมาถล่ม “แป๊ะ” จนกระฉ่อน “แป๊ะกำลังเละเป็นโจ๊ก”
          ข้อมูลที่ถาโถมออกมาหนักหน่วงใส่แป๊ะยิ่งกว่า วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ที่กระจายตัวแผ่ปกคลุมไปทุกพื้นที่ 
          ไม่ธรรมดาแน่ที่ “โจ๊ก” ผู้เคยเป็น “Some Body” ก่อนจะถูกลดชั้นมาเป็น “No Body” จะหาญกล้าออกมายิงจรวดใส่แป๊ะตูมๆ แบบไม่มีเกียร์ถอย
          เก้ง กวาง บ่าง ชะนี อีเห็น ตกตะลึงพรึงเพริดไปหมด หลายคนที่ไม่เคยเชื่อว่า “แป๊ะจะเละเป็นโจ๊ก” พอทราบเรื่อง การซื้อติดตั้งระบบไบโอเมทริกซ์ 2,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งงบไว้ 1,000 ล้านบาท แถมติดตั้งยังมีปัญหาช้ากว่ากำหนดไป 320 วันเข้าไปแล้ว ก็ชักจะหวั่นไหว ถามมาถามไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับแป๊ะ?
          พรานฯ ไม่รู้ว่า “โจ๊กกะแป๊ะ” ไปซุ่มตรวจสอบมาแล้วอึ้ง อึ้งเพราะมีเลศนัยในการดำเนินการจริงๆ ไม่ใช่ว่าไบโอเมทริกซ์ไม่ดี แต่กระบวนการซื้อ การจ้างมีปัญหา
          ที่มีปัญหา เพราะ 1.ซื้อเยอะเกินความต้องการจริง ช่องตรวจคนของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีทั้งสิ้นไม่เกิน 1,400 ช่อง แต่มีการจัดซื้อไปถึง 1,845 เครื่อง อันนี้พรานฯ มิได้ว่าเองนะไปถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.มา ท่านว่าจัดซื้อมากเกิ้นนนน
          2.ทีโออาร์ของโครงการจัดซื้อไบโอเมทริกซ์มีปัญหา เพราะล็อกบริษัท แถมเมื่อนำมาใช้จริงกลับไปติดตั้งในที่ที่ไม่อยู่ในทีโออาร์กว่า 700 เครื่อง เสียด้วยสิ...
          ตรงนี้กลายเป็นจุดตายอีกตัว เพราะบริษัทเอกชนที่จัดการซื้อและถูกล็อกติดตั้งจนบัดป่านนี้ไม่เป็นไปตามสัญญาที่ตกลงไว้ ล่าช้ามากว่า 320 วัน แต่จนบัดป่านนี้ยังไม่มีค่าปรับ ทั้งๆ ที่สัญญานั้น...อะแฮ่ม อย่างน้อย 2 คน ในกรรมการตรวจของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” บอกใบ้แบ๊ะๆ มากับพรานฯ ไพรว่า มีค่าปรับจากการทำงานล่าช้าวันละ 3-5 ล้านบาท
          พรานฯ ยกมือถือไอฟ่ง...มากดปุ๊บรู้ทันทีว่าค่าปรับ 900 ล้านบาทเป็นขั้นตํ่าขั้นสูง อาจมากกว่าการซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ แต่ไม่มีการปรับแต่อย่างใด แสดงว่าคนทำเป็น “ขาใหญ่” ไม่ก็เส้นแข็ง แล้วแป๊ะเป็นใบ้ไปทำอะไรเนี่ย...

          3.ที่มาที่ไปมีปัญหา เพราะแทนที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องจะตั้งเรื่องของบซื้อเอง กลับมีการตั้งเรื่องจาก “หน่วยส่งกำลังบำรุง” แสดงว่า เป็นการซื้อตรงแบบ TOP DOWN ซึ่งเป็นปัญหาของระบบราชการไทยมาอย่างยาวนาน ที่หน่วยงานต้นสังกัดไม่มีโอกาสได้ตั้งเรื่อง “ผู้ใหญ่และผู้ใหญ่กว่า” จัดการเองทั้งหมด ประเภทกินเอง ชงเอง ไม่เกรงใจใคร...
          พรานฯซักถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าการที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 นั้น มีน้ำหนักแค่ไหน บอร์ดป.ป.ช.บอกว่า “มีมูล” เพราะเงื่อนดังว่า แต่ไม่ใช่ว่าไบโอเมทริกซ์ไม่ดี ซื้อมาแล้วดี แต่ผิดเงื่อนไขเยอะมาก ถ้าปล่อยไปก็ทำแบบนี้กันหมด ไม่เป็นไปตามทีโออาร์ และมีการใช้งบที่เกินเลย...
          ขณะที่พยานฝั่ง สตม.ซึ่งเป็นระดับรองผู้บัญชาการ บอกว่า เมื่อติดตั้งระบบไบโอเมทริกซ์แล้วถือว่าดีจริง เข้ามาแล้วตรวจจับคนร้ายได้หลายคน ระบบนี้ลึกซึ้งถึงขั้น คนที่ทำศัลยกรรมก็สามารถตรวจสอบได้ด้วย แต่ตอนนี้ติดขัดเพราะล่าช้าจริง
          ไม่ว่าปมนี้จะออกมาอย่างไร “แป๊ะ” ถูกฝังคดีไว้ในมือ ป.ป.ช.ก่อนที่จะเกษียณแล้ว 1 คดี นี่พรานฯ ยังไม่ไปที่เขาอื้ออึงกันเรื่องซื้อรถให้ตำรวจขับตรวจการณ์กันคันละเกือบ 3 ล้านบาท ที่ว่ากันว่า สะท้านทรวง
          ไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) เป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีทางด้านชีวภาพ เทคโนโลยีการแพทย์เข้ากับเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ โดยการตรวจวัดคุณลักษณะทางกายภาพ (Physical Characteristics) และลักษณะทางพฤติกรรม (Behaviors) ที่เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละคนมาใช้ในการระบุตัวบุคคล

          ข้อมูลทางชีวภาพไบโอเมทริกซ์รวมไปถึงลักษณะเฉพาะทางพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน ที่สามารถนำมาใช้ในการยืนยันตัวตนที่แท้จริงได้
          คุณลักษณะทางกายภาพที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ ลายนิ้วมือ ม่านตา ช่องตาดำ ฝ่ามือ รูปร่าง หน้าตา และใบหู
          การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่าผู้คนในโลกนี้ราว 700 ล้านคน มีโอกาสที่ลายนิ้วมือจะซ้ำกันเพียงแค่ไม่เกิน 1 คน ธรรมชาติของลายนิ้วมือ ดวงตา จึงเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
          บ้านเราเมื่อนำระบบไบโอเมทริกซ์ มาใช้ที่ช่องตรวจคนเข้าเมือง สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ ฯลฯ สามารถจับคนร้ายทั้งคนไทย และต่างชาติได้มากมาย
          ในบ้านเรานอกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ที่ใช้อยู่คือในธนาคาร โดยธนาคารยูโอบี เปิดบริการธนาคารเพื่อดิจิทัลเจเนอเรชันแห่งแรกในอาเซียน ลูกค้าเปิดบัญชี TMRW จะต้องผ่านการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือ เป็นการนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) มาเสริมการยืนยันตัวตนลูกค้า
          ลูกค้า TMRW สามารถใช้บริการเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ได้ที่ตู้ธนาคารยูโอบีทั้ง 350 แห่งในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
          ระบบนั้นดี แต่หากติดตั้งผิดจากทีโออาร์ จากการซื้อสินค้าตั้งโครงการมาก็ว่าผิด ไม่ใช่ว่าระบบดีใครจะซื้อมาติดตั้งอย่างไรก็เป็นเรื่องดี ถ้ายึดตรรกะแบบนี้ วิบัติ!