ปชป.ต้องไป ให้พ้นเงาอภิสิทธิ์

17 ธ.ค. 2562 | 11:00 น.

คอลัมน์ที่นี่ไม่มีความลับ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3532 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 19-21 ธ.ค.2562 โดย...เอราวัณ


ปชป.ต้องไป
ให้พ้นเงาอภิสิทธิ์  
 
    
          .....ปรากฏการณ์ “แหกคอก” โหวตสวนมติพรรคประชาธิปัตย์และมติวิปรัฐบาล ของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ต่อการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบคำสั่งตาม มาตรา 44  ของ 6 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในครั้งแรก (27 พ.ย. 62) และเหลือ 4 ส.ส.คือ เทพไท เสนพงศ์, สาทิตย์ วงศ์หนองเตย, พนิช วิกิตเศรษฐ์ และ อันวาร์ สาและ ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วเป็นส.ส.สาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

          .....เสียงอื้ออึงว่าเหตุโหวตสวนมติพรรค จนเป็นปัญหาใหญ่ที่ พลังประชารัฐ จ้อง “ริบเก้าอี้คืน” มาจากความไม่พอใจของส.ส.สายนี้ที่คว้าน้ำเหลวในการผลักดันให้ อภิสิทธิ์ เข้ามามีบทบาทนำ ใน 2 เรื่อง เรื่องแรก การเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ในครั้งการต่อรองร่วมรัฐบาล ที่ “บิ๊กสีเขียว” ไม่เอาด้วย และตั้งเงื่อนไขว่าถ้ายกเก้าอี้ประธานสภาให้ประชาธิปัตย์ยอมแค่ 2 คน คือ ชวน หลีกภัย และ บัญญัติ บรรทัดฐาน เท่านั้น เรื่องที่ 2 คือ การผลักดันให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แม้ฝ่ายค้านจะขานรับเพื่อ “ตอกลิ่ม” ในรัฐบาล แต่รัฐบาลและกลุ่มอำนาจใหม่ในประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย เพราะรู้ว่าคุยกับอภิสิทธิ์ “ไม่รู้เรื่อง” และจะกลายเป็น “รัฐซ้อนรัฐ” ในประชาธิปัตย์ ที่อภิสิทธิ์จะแสดงฤทธิ์ เป็น “หัวหน้าเงา” ในประชาธิปัตย์ ยิ่งทำให้การบริหารพรรคของ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นับหนึ่งไม่ได้เสียที เพราะเดอะมาร์คจ้องกลับมากุมบังเหียนต่อ

 

          .....เมื่อไม่ได้ตามประสงค์ทั้ง 2 เรื่อง ส.ส.สายอภิสิทธิ์ เลยออกฤทธิ์ออกเดช โหวตสวนมติพรรคเสียเลย พฤติกรรมแบบนี้ทำให้นึกถึงคราวที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แพ้ศึกชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อ บัญญัติ บรรทัดฐาน เมื่อปี 2546 รุ่งขึ้นอีกปี 2547 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อหวอด ระดมส.ส.ในกลุ่มเตรียมขับ บัญญัติ บรรทัดฐาน พ้นหัวหน้าพรรค คนที่เข้าใจเรื่องนี้ดี นอกจาก บัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคขณะนั้นแล้ว ยังมี ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรคในขณะนั้น ต้องแก้เกมกันหัวหมุน  

          .....ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้งนี้ สรุปเกิดการไม่ยอมรับกติกา “แพ้แล้วไม่ยอมแพ้” เมื่อสายตนแพ้หรือพ้นหน้าที่ควรจะหลีกทางให้คนใหม่บริหาร  วางมือเสีย ไม่ใช่วางแต่ปากแต่ยังเตะตัดขา ปล่อยให้เขาทำ วัดผลกันใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าทีมจุรินทร์ ทำได้ส.ส.ต่ำกว่า 52 ที่นั่ง (ผลเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62) ก็ต้องพิจารณาตัวเอง แต่ถ้าเขาทำได้มากกว่าก็ต้องให้เขา “เดินต่อ” ระหว่างนี้ อภิสิทธิ์ และทีมต้องถอยไป อย่าทำตัว “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” เพราะมันจะพังทั้งพรรค!...