'สารัชถ์' รวยล้นฟ้า 2.1 แสนล้าน

14 ธ.ค. 2562 | 13:00 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3531 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 15-18 ธ.ค.62 โดย... พรานบุญ

 

'สารัชถ์'

รวยล้นฟ้า 2.1 แสนล้าน

 

     ลิง ค่าง บ่าง ชะนี อีเห็น ในป่าใหญ่ไทยแลนด์ตาร้อนผ่าวกันทั้งประเทศ เมื่อ “วารสารการเงินธนาคาร” ภายใต้การบริหารจัดการของ “พี่แก้ว-สันติ วิริยะรังสฤษฎ์” กับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย วัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่เป็นบุคคลธรรมดาในประเทศ ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 30 กันยายน 2562

     ปรากฏว่า “เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ก้าวขึ้นคว้าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ เพราะถือครองหุ้นมูลค่าสูงสุดร่วม 120,960 ล้านบาท ปีเดียวรวยเพิ่มขึ้น 63,315 ล้านบาท หรือ 109.84%

     หุ้นที่ “เสี่ยกลาง-สารัชถ์” ถือครองมีเพียง 1 บริษัท คือ GULF โดยถือหุ้นสูงในนามส่วนตัวเพียง 35.44%

     เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพและสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 66,110 ล้านบาท รวยลดลง 11,018 ล้านบาท คิดเป็น 14.29% หุ้นที่หมอเสริฐถือครองคือ หุ้น BDMS BA NTV

     เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 คือ นิติ โอสถานุเคราะห์ ก้าวจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,648 ล้านบาท หรือ 52.08% จากการถือครองหุ้น บมจ.โอสถสภา (OSP) ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 นิติเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ในสัดส่วน 16.28%       

     เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 คือ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ขยับจากอันดับ 9 เมื่อปีที่แล้ว หุ้นที่คีรีถือครองมีมูลค่าทั้งสิ้น 43,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,708 ล้านบาท หรือ 51.84% จากหุ้น BTS หุ้น VGI ราคาสูงขึ้น

     เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 คือ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายนํ้ามันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หล่นจากอันดับ 3 มูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 42,084 ล้านบาท ลดลง 125.16 ล้านบาท

 

อันดับเศรษฐีหุ้นไทย

 

     นังชะนีผู้เชี่ยวในป่าดงพงไพรตั้งคำถามพรานฯ เสียงดังว่า “เสี่ยกลาง-สารัชถ์” นี่เป็นใคร ทำไมรวยพรวดพราดไม่เกรงใจใครเลย

     “สารัชถ์ รัตนาวะดี” สำเร็จวิศวกรรมโยธา จุฬาฯ (วศ.2526) และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย อยู่ในวงการพลังงานตั้งแต่ปี 2537 เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริค จำกัด คู่ชีวิตคือ “นลินี รัตนาวะดี” ลูกสาวของ “รักษ์ ตันติสุนทร” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

     กลุ่มบริษัท กัลฟ์ฯ มีจุดเริ่มต้นโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) บ่อนอก ในนาม บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่นฯ ในปี 2538 ที่ถูกชุมชนในพื้นที่ต่อต้านการตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 734 เมกะวัตต์ จนต้องยอมถอยออกจากพื้นที่บ่อนอก สารัชถ์ แปรวิกฤติเป็นโอกาสย้ายสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้า IPP มาในพื้นที่ใหม่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และสามารถเจรจาต่อรองกับกระทรวงพลังงานด้วยการขอตั้งโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ยูนิต แลกกับเงินชดเชยที่รัฐต้องจ่ายให้ร่วม 4,000 ล้านบาท

     หลังจากนั้นเป็นต้นมากัลฟ์ก็เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาลไทยจะมากกว่า “กฟผ.” เข้าไปแล้ว

     สารัชถ์นำ GULF เข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น GULF ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) 45 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 76.25 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2561

     ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 160 บาท เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งเศรษฐีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นถึง 83.75 บาท หรือ 109.84% ส่งผลให้นายสารัชถ์ ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2562 หลังจากเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว ล้มหมอเสริฐเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 6 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556-2561 โดยสิ้นเชิง

     พรานฯใช้ลูกคิดดีดบวกลบคูณหารแล้วพบว่า เพียงแค่ 636 วันที่นำหุ้นเข้าตลาดฯ หรือ 21 เดือนเศษเท่านั้น เสี่ยกลาง-สารัชถ์และบริษัทรวยขึ้นจากราคาหุ้น 126,565 ล้านบาท ถ้าคิดเป็นวันรวยขึ้นวันละ 199 ล้านบาท เดือนละ 5,970 ล้านบาท...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด

 

อันดับเศรษฐีหุ้นไทย

 

     อย่าเพิ่งอิจฉาตาร้อนกัน พรานฯ พามาดูไส้ในแห่งความจริงเชื่อหรือไม่ว่า “เสี่ยกลาง” มิใช่รวยแค่ 1.2 แสนล้านบาท แต่ เขารวยมหาศาลกว่า “2.1 แสนล้านบาท” เข้าขั้นมหาเศรษฐีโลก

     ทำไมเป็นเช่นนั้น มาดูรายชื่อผู้ถือหุ้น GULF ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 363,727 ล้านบาท ณ ราคาหุ้นวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ที่หุ้นละ 170.50 บาท เฉพาะ “สารัชถ์” ก็มีสินทรัพย์มากถึง 1.28 แสนล้านบาท หากนำจำนวนหุ้นที่เขาถือครอง 755,999,994 หุ้น คูณด้วยราคาที่ 170.50 บาท

     ทว่า ในความเป็นจริง “เสี่ยกลาง-สารัชถ์” ยังถือหุ้นใหญ่ทางอ้อมในบริษํท GULF ผ่านทาง 1. บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นโดยนายสารัชถ์ รัตนาวะดี 100%

     2. บริษัท GULF CAPITAL HOLDINGS LIMITED บริษัทจำกัดที่จดทะเบียนในฮ่องกง และมีการระบุชัดว่า “เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี” เป็นผู้รับ Beneficiary หมายความตามท้องเรื่องแห่งกฎกติกาคือ “ผู้รับผลประโยชน์”

     3. บริษัท GULF INVESTMENT AND TRADING PTE. LTD. เป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งกำหนดไว้เช่นกันว่า สารัชถ์ รัตนาวะดี เป็นผู้รับ Beneficiary

     ทั้ง 3 บริษัทนี้ถือหุ้นใน GULF รวมกัน 482,515,004 หุ้น เมื่อนำราคาหุ้นในปัจจุบัน 170.50 บาท มาคำนวณความรวยของเสี่ยกลางจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 82,266 ล้านบาท

     หากนำหุ้นที่เสี่ยกลางถือส่วนตัวมารวมกันเท่ากับว่าเขาถือหุ้น GULF รวมกัน 1,238,514,998 หุ้น หรือ 58.06% เท่ากับว่าเขารวยหุ้นไม่น้อยกว่า 211,166 ล้านบาท..โอวแม่เจ้า!

     แม้จะรวยมากขนาดนั้นแต่ยังก้าวขึ้นไปทาบ “เจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าพ่อแห่งไทยเบฟเวอเรจ ที่เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 เมืองไทย ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5.1 แสนล้านบาท ยังไม่ได้ แต่ถือว่าเสี่ยกลาง-สารัชถ์ “โค-ตะ-ระ-รวย” ในเวลาอันรวดเร็วมาก